พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่านั้นสร้างขึ้นมาเพื่อรำลึกและให้เกียรติกับผู้สูญเสียจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายแพ้สงคราม ในปัจจุบันผู้คนจากทั่วโลกต่างหลั่งไหลมายังเมืองฮิโรชิม่าเพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่ากันค่ะ
โดยในวันที่ 8 สิงหาคม ปี 1945 เวลา 8.15 น. อเมริกาได้ปล่อยระเบิดปรมาณูลงที่เมืองฮิโรชิม่า ทำให้เกิดความเสียหายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ผู้คนล้มตายนับแสน และยังคงมีผู้ที่ได้รับสารกัมมันตรังสีจากระเบิดปรมาณู โดยบางคนก็มีชีวิตอยู่อย่างทรมาน โดยภายนอกพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่านั้นมีการจัดแสดงพื้นที่ในการรำลึกถึงผู้เสียหายและภาวนาให้โลกนี้หยุดการทดลองระเบิดปรมาณู ให้โลกนี้เกิดสันติภาพ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 200 เยน เด็ก 100 เยน
เวลา : 8:30 - 18:00 น. ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤศจิกายน (ถึง 19:00 น. ในเดือนสิงหาคม)
8:30 - 17:00 น. ตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์
* รอบสุดท้ายเข้าได้ 30 นาทีก่อนเวลาปิดทำการ
เราจะได้รับโปสการ์ดตอนที่ซือตั๋วเข้าชมคนละใบด้วยค่ะ
วิธีการเดินทาง : ประมาณ 25-30 นาทีจากทางออกทิศใต้ของสถานี JR ฮิโรชิมะ โดยรถ หรือนั่งรถรางเบอร์ 2 ที่มุ่งหน้าไปมิยาจิมะ-กุจิ หรือ เบอร์6 ที่มุ่งหน้าไปเอบะ แล้วลงรถที่เก็งบะคุ-โดม มาเอะ (เดิน 10 นาทีจากสถานี) นั่งรถเมล์ฮิโรชิมะ #24 ที่มุ่งหน้าไปโยชิจิมะ แล้วลงรถที่สวนเฮวะคิเนนโคเอน หรือขึ้นรถบัสวิ่งวนรอบเมืองชื่อ "ฮิโรชิมะ เมปุรุ~ปุ ("Hiroshima Meipuru~pu" )" แล้วลงที่ป้าย "สวนอนุสรณ์สันติภาพ (พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมะ)"
โมเดลจำลองสถานที่สำคัญในเมืองฮิโรชิม่าที่โดนระเบิดปรมาณูลง
ถ้าหากใครอ่านภาษาญี่ปุ่น หรือภาษาอังกฤษได้อาจจะน้ำตาไหลไม่รู้ตัวเลย เพราะที่นี่เขารวบรวมคำพูดจากปากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จริง แสดงถึงความทุกข์ ทรมานที่พวกเขาต้องเผชิญอยู่นานจนกว่าจะหมดลมหายใจไป รวมทั้งแสดงข้าวของเครื่องใข้ของผู้เสียชีวิตบางส่วนด้วยค่ะ
ซาดาโกะ หรือเด็กหญิงพับนกกระเรียนที่คนไทยอาจจะคุ้นหูบ้าง เธอก็เป็นอีกคนที่ได้รับสารกัมมันตรังสีและล้มป่วยลง เธอใช้เวลาที่อยู่ในโรงพยาบาลพับนกกระเรียนให้ได้ 1,000 ตัวเพิ่อขอพรให้เกิดสันติสุขกับโลก แต่น่าเสียดายที่ไม่ทันครบ 1,000 ตัว เธอก็เสียชีวิตไปซะก่อน เรื่องของเธอจึงกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อสันติภาพค่ะ
บริเวณรอบนอกพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่ามีรูปปั้นมากมายที่แสดงถึงการเรียกร้องสันติภาพ
ใครที่มีโอกาสมาเที่ยวฮิโรชิม่าแล้ว อย่าลืมเผื่อเวลาสัก 2-3 ชั่วโมง มาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่สำคัญของโลกกันค่ะ
โดยในวันที่ 8 สิงหาคม ปี 1945 เวลา 8.15 น. อเมริกาได้ปล่อยระเบิดปรมาณูลงที่เมืองฮิโรชิม่า ทำให้เกิดความเสียหายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ผู้คนล้มตายนับแสน และยังคงมีผู้ที่ได้รับสารกัมมันตรังสีจากระเบิดปรมาณู โดยบางคนก็มีชีวิตอยู่อย่างทรมาน โดยภายนอกพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่านั้นมีการจัดแสดงพื้นที่ในการรำลึกถึงผู้เสียหายและภาวนาให้โลกนี้หยุดการทดลองระเบิดปรมาณู ให้โลกนี้เกิดสันติภาพ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 200 เยน เด็ก 100 เยน
เวลา : 8:30 - 18:00 น. ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤศจิกายน (ถึง 19:00 น. ในเดือนสิงหาคม)
8:30 - 17:00 น. ตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์
* รอบสุดท้ายเข้าได้ 30 นาทีก่อนเวลาปิดทำการ
เราจะได้รับโปสการ์ดตอนที่ซือตั๋วเข้าชมคนละใบด้วยค่ะ
วิธีการเดินทาง : ประมาณ 25-30 นาทีจากทางออกทิศใต้ของสถานี JR ฮิโรชิมะ โดยรถ หรือนั่งรถรางเบอร์ 2 ที่มุ่งหน้าไปมิยาจิมะ-กุจิ หรือ เบอร์6 ที่มุ่งหน้าไปเอบะ แล้วลงรถที่เก็งบะคุ-โดม มาเอะ (เดิน 10 นาทีจากสถานี) นั่งรถเมล์ฮิโรชิมะ #24 ที่มุ่งหน้าไปโยชิจิมะ แล้วลงรถที่สวนเฮวะคิเนนโคเอน หรือขึ้นรถบัสวิ่งวนรอบเมืองชื่อ "ฮิโรชิมะ เมปุรุ~ปุ ("Hiroshima Meipuru~pu" )" แล้วลงที่ป้าย "สวนอนุสรณ์สันติภาพ (พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมะ)"
โมเดลจำลองสถานที่สำคัญในเมืองฮิโรชิม่าที่โดนระเบิดปรมาณูลง
ถ้าหากใครอ่านภาษาญี่ปุ่น หรือภาษาอังกฤษได้อาจจะน้ำตาไหลไม่รู้ตัวเลย เพราะที่นี่เขารวบรวมคำพูดจากปากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จริง แสดงถึงความทุกข์ ทรมานที่พวกเขาต้องเผชิญอยู่นานจนกว่าจะหมดลมหายใจไป รวมทั้งแสดงข้าวของเครื่องใข้ของผู้เสียชีวิตบางส่วนด้วยค่ะ
ซาดาโกะ หรือเด็กหญิงพับนกกระเรียนที่คนไทยอาจจะคุ้นหูบ้าง เธอก็เป็นอีกคนที่ได้รับสารกัมมันตรังสีและล้มป่วยลง เธอใช้เวลาที่อยู่ในโรงพยาบาลพับนกกระเรียนให้ได้ 1,000 ตัวเพิ่อขอพรให้เกิดสันติสุขกับโลก แต่น่าเสียดายที่ไม่ทันครบ 1,000 ตัว เธอก็เสียชีวิตไปซะก่อน เรื่องของเธอจึงกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อสันติภาพค่ะ
บริเวณรอบนอกพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่ามีรูปปั้นมากมายที่แสดงถึงการเรียกร้องสันติภาพ
ใครที่มีโอกาสมาเที่ยวฮิโรชิม่าแล้ว อย่าลืมเผื่อเวลาสัก 2-3 ชั่วโมง มาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่สำคัญของโลกกันค่ะ
