ฮิดะกิว อัญมณีแห่งเนื้อวัวที่ดีที่สุดชนิดหนึ่งในญี่ปุ่น
เนื้อฮิดะกิวนั้นเป็นเนื้อที่ได้จากวัวญี่ปุ่นพันธุ์ขนดำหรือ Japanese Black ที่ถูกเลี้ยงในจังหวัดกิฟุ แต่ว่าแตกต่างจากจากที่อื่นเนื่องจากที่นี่จะมีวิธีการเลี้ยงวัวเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ จึงทำให้เนื้อมีคุณภาพดี แถมมีการควบคุมคุณภาพและการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดให้ได้ตามมาตรฐานโดย Hida Beef Brand Promotion Conference และสมาคม Japan Meat Grading Association ด้วย ถึงจะสามารถแปะป้ายชื่อเป็นเนื้อฮิดะกิวได้นะ ตาสีตาสาลุงมียายมาเอาเนื้อวัวห่วยๆ มาขี้ตู่เป็นเนื้อฮิดะกิวนี่ไม่ได้เด็ดขาดเลย อิอิ
เคล็ดลับความอร่อยของเนื้อฮิดะกิวก็คือการเลี้ยงดูวัวอย่างทะนุถนอมของผู้เลี้ยงแต่ละราย และที่สำคัญเลยคือธรรมชาติและสภาพแวดล้อมของที่จังหวัดกิฟุนั้นมีความอุดมสมบูรณ์มากๆ ไม่ว่าจะเป็นอากาศและแม่นํ้าที่สะอาด จึงทำให้ได้เนื้อฮิดะกิวที่มีรสชาติแสนอร่อย นุ่มกลมกล่อม มีกลิ่นหอมและมีไขมันแทรกเป็นลายหินอ่อนสวยงาม พร้อมที่จะละลายในปากให้ชุ่มฉ่ำลิ้นเลย เหมาะกับการทำอาหารหลายประเภทมากๆ ไม่ว่าจะเป็นสเต็ก, ชาบูชาบู, ยากินิคุ, รวมไปถึงซูชิและอื่นๆ อีกมากมาย
อร่อยกว่ามัตสึซากะจริงๆ หรอ?
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เชื่อว่าหลายคนก็เกิดคำถามโลกแตกอยู่ในใจว่า "อร่อยกว่ามัตสึซากะจริงๆ หรอ?" หรือว่าบางคนอาจจะหาว่าผู้เขียนพูดจาเพ้อเจ้อเกินจริง เรื่องนี้บอกเลยว่าจริง แต่ว่าจริงแค่ครึ่งเดียว เพราะว่ามันเป็นเรื่องของรสนิยม พวกเนื้อวัวระดับท็อปอย่างมัตสึซากะ, โกเบ, โอมิ และฮิดะกิว เป็นเนื้อคุณภาพสูงเหมือนกันหมดแต่ว่ามีรสชาติละเอียดอ่อนที่ต่างกัน อันนี้แล้วแต่คนจะชอบ ถ้าคนที่ชอบเนื้อฮิดะกิวจริงๆ ก็จะบอกว่ามันอร่อยกว่ามัทสึซากะ ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าฮิดะกิวเป็นหนึ่งในเนื้อวัวที่ดีที่สุด ไม่ใช่ เนื้อวัวที่ดีที่สุด จ้า
ชิมเมนูจากเนื้อฮิดะกิวจากร้านดังในเมืองไทย
Kisara - โรงแรม Conrad Bangkok ถนนวิทยุ
ร้านอาหารญี่ปุ่นที่อยู่ในโรงแรม Conrad เปิดให้บริการมาเป็นเวลา 4 ปีครึ่งแล้วหลังจากที่ทำการเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ของร้านให้มาเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียมที่มีเมนูอาหารญี่ปุ่นให้เลือกกันอย่างมากมายในบรรยากาศที่หรูหรา
ร้าน Kisara เป็นหนึ่งในร้านที่เลือกใช้เนื้อฮิดะกิว ซึ่งร้านอาหารในไทยที่ใช้เนื้อชนิดนี้ก็ต้องบอกเลยว่าน้อยมากๆ ซึ่งทางหัวหน้าเชฟเขาก็รู้จักกับทางจังหวัดกิฟุและติดต่อเรื่องธุรกิจกันมานานแล้ว ก่อนจะตัดสินใจที่จะใช้เนื้อฮิดะกิวของจังหวัดกิฟุเพื่อที่จะเผยแพร่ความอร่อยให้ชาวไทยได้รู้จัก โดยที่นี่ก็มีเมนูเนื้อฮิดะกิวให้เลือกมากมายไม่ว่าจะนำมาทำเป็นสเต็ก, ชาบูชาบู หรือว่านำมาย่างกับใบโฮบะหรือที่เรียกกันว่าโฮบะยากิ ทุกเมนูล้วนแต่ดึงความอร่อยของเนื้อฮิดะกิวออกมาได้เต็มที่
Shabuten - ชั้น 8 โซน Helix ศูนย์การค้า Emquartier
ร้านชาบูชาบูระดับพรีเมียมที่เปิดให้บริการอยู่ที่ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว ทางร้านได้คัดเลือกเนื้อวัวคุณภาพเยี่ยมเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการทานชาบูชาบู ซึ่งที่นี่เขาก็ได้เลือกใช้เนื้อฮิดะกิวคุณภาพเยี่ยมจากจังหวัดกิฟุ
อย่างที่ได้กล่าวไปว่าฮิดะกิวนั้นถือว่าเป็นเนื้อวัวระดับท็อป อยู่ในระดับเดียวกับพวกเนื้อมัตสึซากะ, โกเบ, โอมิ เรื่องความอร่อยนั้นกินกันไม่ลง ที่เหลือก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล ซึ่งเชฟของทางร้านนี้เองเขาชื่นชอบเนื้อวัวฮิดะกิวมากๆ เพราะว่าตัวเนื้อมีรสชาติที่เข้มข้นและไขมันของเนื้อไม่มีความเหม็นเลี่ยน ดังนั้นเองเนื้อฮิดะกิวจึงเป็นพระเอกของร้านนี้
เนื้อวัวที่ใช้ในการทำเมนูชาบูชาบูนั้นเป็นเนื้อฮิดะกิวเกรด A4 ที่มีความนุ่มและชั้นไขมันแทรกอยู่มาก นำไปลวกในหม้อเพียงแค่ 10 วินาทีเท่านั้น ทานพร้อมกับนํ้าจิ้มงาสูตรพิเศษจากทางร้านหรือปอนสึ จากนั้นก็บรรจงลิ้มรส ซึ่งสัมผัสของมันบอกเลยว่านุ่มมากๆ แทบจะไม่ต้องเคี้ยวเลย ได้กลิ่นและรสของเนื้อที่ชัดเจนและมันของเนื้อก็ไม่มีกลิ่นเหม็นเลย อร่อยมากๆ ! แต่ถ้าถามว่าเกรด A4 ทานเยอะๆ แล้วเลี่ยนไหม? ก็คงต้องบอกว่าเลี่ยนแหละ แต่เนื่องจากว่ามันของเนื้อที่อร่อยและไม่เหม็น ก็ทำให้เราสามารถทานได้เยอะขึ้นนั่นเองจ้า
เรียกว่าเป็นของดีของเด็ดจากจังหวัดกิฟุเลยล่ะ สำหรับเนื้อฮิดะกิว บอกเลยว่าใครที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นต้องไปลองสักครั้ง ส่วนใครที่อยากไปกินถึงถิ่นในจังหวัดกิฟุ อันนี้ก็สามารถเดินทางได้ง่ายๆ เพียงแค่นั่งชินคันเซ็นจากโอซาก้าไปลงที่นาโงย่าแล้วต่อรถไฟไปอีกก็ถึงแล้ว, หรือว่าจะนั่งชินคันเซ็นจากโตเกียวก็ได้ ส่วนใครบินลงที่ชูบุเซ็นแทรร์ก็สามารถนั่งรถไฟ ของ Meisetsu Railway ก็ยังได้ ที่นี่นอกจากจะมีของอร่อยๆ แล้ว ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมายครบทั้ง 4 ฤดู ไม่ว่าจะเป็นชิราคาวะโกะที่ฮอตฮิตมากในหมู่ชาวไทย หรือเทศกาลทากายามะช่วงฤดูใบไม้ผลิที่หลายคนเล็งจะไปในช่วงสงกรานต์นี้ ทั้งเที่ยวทั้งกิน บอกเลยว่าฟินสุดๆ ในถิ่นกิฟุจ้า ท่านไหนที่สนใจท่องเที่ยวในจังหวัดกิฟุ สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์การท่องเที่ยวของจังหวัดกิฟุ http://travel.kankou-gifu.jp
พบกับความประทับใจได้ทั้ง 4 ฤดูที่กิฟุ
การเดินทางมาจังหวัดกิฟุ สามารถเดินทางมาได้หลายเส้นทาง
ขอบคุณภาพประกอบจาก
www.supertrout.com
www.izumiya-ri.co.jp
www.waraayu.info
find-travel.jp
www.gifukankou.com