ไดคน อร่อยดีและมีประโยชน์

หัวโต๊โต อวบๆ ขาวๆ ที่ซุกตัวอยู่ในดิน ไดคน (Daikon) ซึ่งก็คือ หัวผักกาด หรือหัวไชเท้าญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ โดยวันนี้เราจะไปค้นหาประโยชน์ในตัวของไชเท้าหัวโต๊โตนี้กันค่ะ

หัวไชเท้า (หรือ หัวผักกาดขาว) เป็นพืชประเภทหัวหรือรากที่นิยมนำเอาไปประกอบอาหารในรูปแบบต่างๆ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการผลิตหัวไชเท้าดอง สกัดทำยา และเป็นส่วนหนึ่งในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเพื่อความงาม



โดยผักชนิดนี้มีด้วยการมากมายหลากหลายสายพันธุ์ที่แตกต่างไป ซึ่งสายพันธุ์ญี่ปุ่นเองก็เป็นสายพันธุ์ที่นิยมเป็นอย่างมาก โดยสังเกตลักษณะเด่นของหัวไชเท้าญี่ปุ่นได้จากขอบใบมีลักษณะเป็นหยักลึก จำนวนใบที่มากหรือน้อยจะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์นั้นๆ ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ที่ให้น้ำหนักปานกลาง ไปจนถึงได้น้ำหนักมาก และถ้าเมื่อเทียบหัวไชเท้าญี่ปุ่นกับของไทยเราแล้วจะมีความต่างกันตรงที่ขนาดรากของหัวไชเท้าที่ใช้สะสมอาหารจะใหญ่และยาวกว่า มีกลิ่นฉุนน้อยกว่า มีรสชาติหวาน เป็นผักที่มีวิตามินและแร่ธาตุสูง โดยเฉพาะวิตามินซี นอกจากนี้ยังมี โพแทสเซียม โฟเลต และแมกนีเซียมอยู่ด้วย



หากจะพูดถึงศิลปะการรับประทานอาหารแบบชาวญี่ปุ่นแล้วละก็ หัวไชเท้าถูกจัดเป็นผักที่มีอยู่ในเมนูอาหารในหลายๆ เมนูเลยก็ว่าได้ค่ะ โดยหัวไชเท้าญี่ปุ่นได้มีการนำมารับประทานกับอาหารญี่ปุ่นตั้งแต่ในสมัยเอโดะ ได้รับความนิยมและยกให้เป็นหนึ่งในอาหารสีขาว 3 อย่างที่ขาดไม่ได้ในอาหารญี่ปุ่น ที่ประกอบไปด้วย ข้าว เต้าหู้ และหัวไช้เท้าค่ะ

ในหัวไชเท้าญี่ปุ่นช่วยในการย่อยอาหาร ย่อยสลายไขมัน มีวิตามินซีทำให้ผิวพรรณสวยงาม มีรูทินที่ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง และลดความดันโลหิตได้ โดยจะนำหัวไชเท้าสดมาขูดจะทำให้ได้รสชาติที่เผ็ดและมีกลิ่นฉุนเล็กน้อย แล้วนำมารับประทานกับเมนูปลาย่าง ผสมกับซอสและรับประทานคู่กับเทปุระ หรือจะรับประทานกับโซบะ และแม้แต่การรับประทานกับซาชิมิ เพราะในตัวของหัวไชเท้าญี่ปุ่นจะช่วยเพิ่มความอร่อยและช่วยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียให้กับเมนูซาชิมิได้ค่ะ จึงทำให้ในทุกเมนูของซาชิมิจะต้องมีหัวไชเท้าขูดหรือหั่นเป็นแผ่นบางวางอยู่ในจานเดียวกันนั้นด้วย เรียกได้ว่าของเขาต้องคู่กันค่ะ 



ซึ่งการที่ได้รับประทานหัวไชเท้าที่ขูดสดใหม่ๆ จะทำให้ได้วิตามินซีและสารอาหารอันมีประโยชน์มากกว่าการปล่อยทิ้งไว้นานกว่าจะรับประทานนะคะ

โดยตามแบบฉบับของชาวญี่ปุ่นแล้วหัวไชเท้าญี่ปุ่นนั้นรับประทานได้ทุกส่วนเลยค่ะ ซึ่งจะแบ่งหัวไชเท้าออกเป็น 3 ส่วนด้วยกันค่ะ เราไปเริ่มกันที่ส่วนหัว ส่วนบนสุดที่ติดกับใบ จะมีสีเขียวอ่อน ในส่วนนี้จะให้รสชาติหวาน นิยมรับประทานกันสดๆ ด้วยวิธีการขูดฝอยแล้วรับประทานคู่กับเมนูปลาย่าง เคียงกับซอสโชยุ หรือพอนสึ (พอนสึ คือ เครื่องปรุงรสอาหารญี่ปุ่นที่ทำมาจากน้ำผลไม้ตระกูลส้ม โดยการนำน้ำเลม่อน หรือส้มยูซุไปผสมกับน้ำส้มสายชูเพื่อใช้ในการปรุงอาหารนั่นเองค่ะ) และการรับประทานเป็นสลัดก็อร่อยและมีประโยชน์ด้วยค่ะ 


หัวไชเท้าขูดกับปลาย่าง


และส่วนต่อไป ส่วนที่สอง คือ ส่วนกลางของหัวไชเท้า ในส่วนนี้จะมีรสชาติเผ็ดและให้น้ำเยอะ นิยมนำมารับประทานโดยผ่านกรรมวิธีการต้ม เช่น  การนำไปทำเป็นซุป หรือตุ๋น รับประทานกับโอเด้งซึ่งให้มีรสชาติหวานอร่อยมากเลยค่ะ 


หัวไชเท้าในโอเด้ง


และมาที่ส่วนสุดท้าย ส่วนที่สาม คือบริเวณปลายของหัวไชเท้า ในส่วนนี้ก็มีรสชาติเผ็ดเช่นเดียวกันค่ะ นิยมนำไปทำซุปมิโซะ แปรรูปเป็นหัวไชเท้าดอง และการนำไปขูดเป็นฝอยรับประทานสดคู่กับเมนูปลาดิบ หรือซาชิมินั่นเองค่ะ เรียกได้ว่ามีประโยชน์ทุกส่วนดีจริงๆ ค่ะ


หัวไชเท้าในซาชิมิ


และจะยิ่งอร่อยมากขึ้นไปอีกค่ะหากได้รับประทานหัวไชเท้าญี่ปุ่นในช่วงฤดูหวาน เพราะเป็นฤดูที่หัวไชเท้าจะอร่อยที่สุด ด้วยความสด หัวที่อวบอ้วน มีขนติดที่รากน้อย ร่องไม่ลึก และมีน้ำหนักดีมาก ซึ่งเราๆ ท่านๆ สามารถหาซื้อหัวไชเท้าญี่ปุ่นได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตในญี่ปุ่นที่จะจำหน่ายทั้งแบบเต็มหัว สดๆ จากสวน และแยกขายเป็นส่วนๆ ให้เลือกซื้อกันตามอัธยาศัยด้วยค่ะ

และหากได้ไปเยือนญี่ปุ่น หัวไชเท้าญี่ปุ่นเด่นๆ หัวโต๊โตเราหารับประทานได้ไม่ยากเลยค่ะ และนอกจากจะหารับประทานง่ายแล้วหัวไชเท้าญี่ปุ่นได้กลายเป็นของขึ้นชื่อของเด่นไปเลยค่ะ แต่ต้องที่เมืองคาโกชิมะ นะคะ เมืองซึ่งอยู่ใต้สุดของเกาะคิวชู เป็นเมืองที่ยังมีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่บนเกาะซากุระจิมะ ด้วยเพราะความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุในดินภูเขาไฟจึงทำให้ที่นี่ปลูกอะไรก็ให้ผลที่ใหญ่โตกว่าที่อื่นๆ ค่ะ จึงทำให้หัวไชเท้าญี่ปุ่นของที่นี่กลายเป็นหัวไชเท้ายักษ์ของเด็ดบนเกาะแห่งนี้ค่ะ หาซื้อได้ทั้งหัวไชเท้าสดและหัวไชเท้าดองในซองอย่างดี เป็นของขวัญของฝากได้เก๋ๆ ค่ะ 


หัวไชเท้าดอง


หัวไชเท้าญี่ปุ่นนอกจากอร่อยแล้วยังมีประโยชน์มากจริงๆ ค่ะ เรามาขยายความมีประโยชน์ของหัวไชเท้าญี่ปุ่นกันค่ะ โดยหัวไชเท้าญี่ปุ่นมีสรรพคุณช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร เวลาท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้อง หรืออาหารไม่ย่อย และในตัวหัวไชเท้าญี่ปุ่นมีสารเควอร์เซทิน (Quercetin) ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิต้านทานโรค มีสารไอโซไธโอไซยาเนต (isothiocyanate) ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการช่วยลดการอักเสบของแผลในปาก ช่วยในเรื่องการเผาผลาญของอาหารในร่างกาย และช่วยให้ระบบเลือดไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยต่อต้านมะเร็ง โดยการลดสารก่อมะเร็งจากปลาที่ย่างจะเกือบเกรียม ซึ่งนั่นเป็นที่มาของการนิยมรับประทานหัวไชเท้าขูดกับปลาย่างในเมนูอาหารญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ



นั่นแหละค่ะ ทั้งหมดทั้งมวลคือประโยชน์ที่หาทานได้จากพืชที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดีอย่างหัวไชเท้าญี่ปุ่นค่ะ แต่การรับประทานที่ดีและได้ประโยชน์ ต้องอยู่ในปริมาณที่พอดีนะคะ ไม่มากเกินไปและไม่น้อยจนเกินไป เพื่อให้ได้คุณประโยชน์อย่างเต็มที่ หลังจากนี้อย่าลืมเพิ่มหัวไชเท้าญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งผักในเมนูอาหารกันดูนะคะ รับรองว่าอาหารในมื้อนั้นจะต้องอร่อยขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ

 

ข้อมูลจาก
https://anngle.org/th/j-gourmet/grated-radish.html

https://www.shufuchan.com

https://japantourlist.com/th/daikon_679j