ใบไม้แดง สีสันแห่งฤดูใบไม้ร่วงที่ญี่ปุ่น

หากจะให้เลือกฤดูกาลของประเทศญี่ปุ่นที่ชอบที่สุดมาหนึ่งฤดูกาล และเป็นฤดูกาลที่ทำให้เราได้เดินเที่ยวเล่นไปในฤดูนั้น พร้อมกับเก็บภาพความสวยงามของธรรมชาติไปด้วยแล้วละก็ เชื่อแน่ว่าใครหลายๆ คนต้องมีฤดูกาลนี้อยู่ในใจแล้วแน่ๆ ค่ะ นั่นคือ สารทฤดู หรือ ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูแห่งสีสันจากธรรมชาติที่แต่งแต้มให้ชีวิตในช่วง 365 วัน ไม่จืดชืดนั่นเองค่ะ

โดยที่ประเทศญี่ปุ่นนี้มีฤดูกาลต่างๆ ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ซึ่งหนึ่งในฤดูที่ว่ามานั้นก็คือฤดูกาลในดวงใจของทั้งชาวญี่ปุ่นเองและนักท่องเที่ยวอย่างฤดูใบไม้ร่วง ช่วงของฤดูใบไม้ร่วงของประเทศญี่ปุ่นจะเริ่มต้นขึ้นในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายนในของทุกปี



และสีสันที่เติมแต่งให้ฤดูกาลนี้เป็นที่ติดตาตรึงใจนั่นก็คือ ปรากฏการณ์ใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ ซึ่งปรากฏการณ์ใบไม้เปลี่ยนสีนี้จะเกิดก่อนที่ใบไม้จะร่วงโรยนะคะ โดยสีของใบไม้ที่เปลี่ยนที่หลากหลายเหมือนเป็นการไล่ระดับสีกันเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสีแดง ที่ได้จากสารแอนโทไซยานินในใบไม้ที่ทำปฏิกิริยากับแสงแดด จึงทำให้ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดง  สีต่อมาคือ สีเหลือง ที่ได้จากสารแคโรทีนอยด์ในใบไม้ที่ทำปฏิกิริยากับแสงแดดเช่นกันค่ะ จนใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง และสีชา ที่ได้จากสารแคโรทีนอยด์ที่ให้สีเหลือง ที่สะสมไว้ในใบไม้ไปทำปฏิกิริยาออกซิเจนและแสงแดดจนทำให้ใบไม้กลายเป็นสีชาค่ะ


โดยในฤดูใบไม้ร่วงเราจะพบเห็นใบไม้ทั้งสามสีนี้อวดโฉมให้เราได้เห็นในทั่วทุกมุมเมืองของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียวค่ะ ซึ่งปรากฏการณ์ใบไม้เปลี่ยนสีนี้เราสามารถหาชมได้โดยไล่มาจากฮอกไกโดที่ริวเซนเคียว (Ryusenkyo) จุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยม หุบเขา แม่น้ำ และก้อนหินรูปร่างแปลกตา ที่จะสวยงามมากขึ้นไปอีกเมื่อได้ผสมผสานสีสันกับใบไม้หลากสีค่ะ

 


โซอุนเคียว (Sounkyo)


หรือจะล่องเรือชมความงานของฤดูใบไม้ร่วงที่นากาโทโระ (Nagatoro) จังหวัดไซตามะ ชมผาชิชิบุเซคิเฮคิ (Chichibu Sekiheki) ผาแดงริมน้ำที่ประดับไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง


ผาชิชิบุเซคิเฮคิ


หรือจะชมภูเขาไฟฟูจิและอุโมงค์ใบไม้เปลี่ยนสีที่อุโมงค์โมมิจิ (Momiji tunnel) อุโมงค์ใบไหม้เปลี่ยนสี จังหวัดยามานาชิ นอกจากจะได้ชมอุโมงค์ใบไม้เปลี่ยนสีกันแล้ว ที่นี่เราจะได้ภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง ที่ทำให้ฤดูใบไม้ร่วงดูพิเศษขึ้นอีกด้วยค่ะ และจริงๆ แล้วแทบจะทุกพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่นเลยนะคะที่มีจุดชมปรากฏการณ์ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตัวแปรสำคัญก็ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของเดือนก่อนหน้านั้นด้วยค่ะว่า ระยะเวลาของช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีอาจจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แค่ไม่กี่วันหรือเพียงหนึ่งถึงสองสัปดาห์หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและอุณหภูมิค่ะ


อุโมงค์โมมิจิ


ในฤดูใบไม้ร่วงนี้นอกจากปรากฏการณ์ใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว ยังมีเทศกาลโอซึกิมิ (Otsukimi) หรือเทศกาลชมพระจันทร์ เหตุที่มีเทศกาลชมพระจันทร์นี้เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าพระจันทร์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้นจะสวยและส่องแสงนวลละมุนได้มากที่สุดในรอบปี นอกจากชมพระจันทร์กันแล้วยังขอพรจากพระจันทร์ให้ช่วยเรื่องการเก็บเกี่ยวผลผลิตให้ได้ผลดีอีกด้วยค่ะ และเมื่อมีการขอพรก็ต้องมีของไหว้ขอพรนะคะ โดยสิ่งที่ใช้ในการไหว้พระจันทร์ ก็ได้แก่ ขนมดังโงะ หรือที่เรียกว่า ซึกิมิดังโงะ เปรียบได้กับพระจันทร์ที่กลมโต แล้วนำมาวางเรียงเป็นสามเหลี่ยมและจึงนำไปวางที่ซัมโบ โต๊ะไม้เล็ก พร้อมประดับตกแต่งด้วยดอกหญ้าซูซูกิและดอกคิเคียวหรือดอกบอลลูน และพืชพันธุ์ธัญหารที่เป็นผลผลิตตามฤดูกาลจัดวางร่วมด้วยในการไหว้พระจันทร์ค่ะ

เทศกาลชมพระจันทร์


นอกจากเทศกาลชมพระจันทร์นี้แล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งเทศกาลในฤดูใบไม้ร่วงค่ะ นั่นคือ เทศกาลโอวาระคาเสโนะบง เทศกาลที่จัดขึ้นเพื่อให้เทพเจ้าแห่งพายุไต้ฝุ่นให้มีความสุขและจากไปด้วยดีค่ะ ที่ต้องการให้เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าในเดือนกันยายนมักจะช่วงที่เกิดพายุไต้ฝุ่น ซึ่งนำความเสียหายต่อผลผลิตที่ชาวไร่ชาวสวนกำลังจะเก็บเกี่ยวนั่นเองค่ะ เราจึงต้องทำให้เทพแห่งพายุไต้ฝุ่นสงบลง โดยในเทศกาลโอวาระคาเสโนะบงนี้จะให้ผู้หญิงสวมหมวกที่ทำจากฟาง ผู้ชายจะคาดผ้าที่หน้าผาก รวมถึงผู้ใหญ่และเด็กๆ รวมตัวกันเต้นรำไปกับเพลงโอวาระบุชิ ไปตามท้องถนนและสถานที่ต่างๆ ค่ะ

เทศกาลโอวาระคาเสโนะบง


ด้วยความที่เป็นฤดูที่มีสีสันหลากหลายแล้ว เรื่องอาหารการกินในช่วงฤดูกาลนี้ก็มากมายหลากหลายเช่นเดียวกันค่ะ เพราะด้วยเป็นฤดูแห่งการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ได้มาอย่างสดใหม่และมากไปด้วยคุณค่าทางอาหาร ก็กลายเป็นว่าฤดูใบไม้ร่วงเป็นเสมือนช่วงการเตรียมความพร้อมร่างกายและสุขภาพก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูหนาวนั่นเอง โดยอาหารยอดนิยมของฤดูใบไม้ร่วงมีด้วยกัน 6 อย่างค่ะ

เรามาเริ่มกันที่ เห็ดมัตสึตาเกะ เห็ดที่ไม่ได้มาจากการเพาะปลูก เพราะเห็ดมัตสึตาเกะจะขึ้นเฉพาะกับต้นสนและจะออกผลผลิตในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้นค่ะ เห็ดมัตสึตาเกะมีกลิ่นหอมและให้คุณค่าทางอาหารสูง จึงนิยมนำมาประกอบอาหารอย่างพิถีพิถันเพื่อรักษาคุณค่าอาหารเอาไว้อย่างซุปเห็ดมัตสึตาเกะค่ะ


ซุปเห็ด


อาหารอย่างที่สองคือ ข้าวใหม่ หรือที่เรียกว่า “ชินมัย” ข้าวที่ได้จากการเก็บเกี่ยวรอบแรกแห่งฤดูใบไม้ร่วง ที่จะได้ข้าวที่นุ่มและขาวสวยกว่าข้าวเก่า มักนิยมนำไปหุงกับใบแปะก๊วย

ข้าวอบแปะก๊วย


และมาต่อกันกับอาหารอย่างที่สาม คือ ปลาซันมะ เนื้อปลาซันมะที่มีไขมันแทรกกำลังดีและเป็นรสชาติอาหารที่ชาวญี่ปุ่นทุกคนต่างนึกถึงปลาซันมะ เมื่อนึกถึงฤดูใบไม้ร่วง และถ้ายิ่งนำปลาซันมะไปย่างเกลือแล้วละก็ จะทำให้สามารถรับประทานรสชาติแท้ๆ ของปลาซันมะได้อย่างเต็มที่อีกด้วยค่ะ


ปลาซัมมะย่าง


ต่อมาอาหารอย่างที่สี่ คือ เกาลัด ในฤดูใบไม้ร่วงนี้นอกจากจะเป็นฤดูของเห็ดมัตสึตาเกะแล้วก็ยังเป็นฤดูของเกาลัดด้วยเช่นกันค่ะ โดยมักนำเกาลัดมาทำเกาลัดหวาน ด้วยการนำเกาลัดไปนึ่งและมาบดผสมกับน้ำตาล จนกลายเป็นของขวัญของฝากแห่งฤดูใบไม้ร่วงไปแล้วค่ะ


ขนมเกาลัด


มาต่อกันที่อาหารอย่างที่ห้า นั่นคือ มันหวานญี่ปุ่น ที่นิยมนำไปทำเป็นอาหารได้หลากหลายเมนู อาทิ มันเผา เทมปุระ มันหวานคร็อกเก้ จนกลายเป็นหนึ่งในเมนูโปรดของชาวญี่ปุ่น


มันเผา


และอาหารอย่างที่หก อย่างสุดท้าย คือ โมมิจิเทมปุระ หรือเทมปุระใบเมเปิ้ล ที่ทำมาจากใบเมเปิ้ลนั่นเองค่ะ โมมิจิเทมปุระนี้มีจะมีรสชาติหวาน นุ่ม อร่อย รับลองว่าถ้าได้ชิมแล้ว จานเดียวไม่พอจริงๆ ค่ะ


โมมิจิเทมปุระ


อาหารทั้งหกอย่างนี้ หากได้รับประทานในฤดูใบไม้ร่วง พลางชมบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีไปด้วย มันต้องอิ่มท้องและอิ่มบรรยากาศไปด้วยแน่ๆ เลยค่ะ

สำหรับใครที่ได้มีโอกาสไปเที่ยวชมปรากฏการณ์ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงที่ประเทศญี่ปุ่นแล้วละก็ อย่าลืมไปเที่ยวชม สัมผัส ดื่มด่ำบรรยากาศสวยๆ และสีสันที่สดใส จากฝีมือจิตรกรที่ชื่อธรรมชาติกันดูนะคะ รับรองค่ะว่า ฤดูที่เปลี่ยนสีนี้จะทำให้คุณฟินได้อย่างแน่นอนค่ะ

 

ข้อมูลจาก

https://allabout-japan.com/th/article/4194/

https://www.jnto.or.th/activities/autumn-season/

https://japan1616.wordpress.com/2014/11/14/autumn-foilage/

https://www.nstda.or.th/th/sci-kids-menu/11450-leave-change-color