[อัพเดท 2022] 10 พิกัดเที่ยวภูมิภาคชูบุ (Chubu) ของญี่ปุ่น

พาทุกท่านไปค้นหาเสน่ห์ของภูมิภาคชูบุ (Chubu) หรือภาคกลางของญี่ปุ่น ที่ไม่เหมือนภูมิภาคไหนๆ ถ้าพูดถึงที่เที่ยวธรรมชาติที่สวยงาม ภูมิภาคนี้มีทั้งกำแพงหิมะ คามิโคจิ โครังเคจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี หรือถ้าพูดถึงเรื่องวัฒนธรรม ก็มีหมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ หมู่บ้านนินจา ถ้าเป็นอาหาร ก็มีอาหารหลากหลายอย่าง เช่น ข้าวหน้าปลาไหลฮึทสึมาบูชิ ปีกไก่เทบาซากิ และยังมีธีมพาร์ค พิพิธภัณฑ์ เอ้าท์เล็ทและแหล่งช้อปปิ้งมากมาย 

ภูมิภาคชูบุ (Chubu) ประกอบไปด้วย 9 จังหวัดได้แก่ ไอจิ, มิเอะ, ชิซุโอกะ, กิฟุ, ชิงะ, นากาโนะ, ฟุคุอิ, อิชิกาวะ และโทยามะ โดยมีศูนย์กลางการเดินทางอยู่ที่เมืองนาโกย่า จ.ไอจิ และมีสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ (Chubu Centrair International Airport) เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางสู่ภูมิภาคนี้ สำหรับใครที่กำลังวางแผนท่องเที่ยวญี่ปุ่น 

ขอแนะนำ 10 ที่เที่ยวในภูมิภาคชูบุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว ตอนนี้มีอะไรอัพเดท หรือเปิดใหม่หลังโควิดบ้าง? หรือมีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง? มาดูกันเลยค่ะ

1. งานประดับไฟนาบานาโนะซาโตะ (Nabana no Sato Winter Illumination) 

งานประดับไฟฤดูหนาวสุดยิ่งใหญ่ Nabana No Sato Illumination ห้ามพลาดไฮไลท์อุโมงค์ประดับไฟสีทองที่ทอดยาวตระการตา ความยาว 200 เมตร เป็นหนึ่งฉากที่ทุกคนต้องมาถ่ายภาพกลับไปเป็นที่ระลึก นอกจากนี้ก็มีดอกไม้ให้ชมตลอดทั้งปี เช่น ดอกทิวลิป ดอกบ๊วย ดอกกุหลาบ ดอกซากุระ ฯลฯ สามารถเดินทางไปง่ายๆ จากนาโกย่า 

【รายละเอียด】 Nabana no Sato Illumination 2022-2023 

・วันจัดงาน : วันที่ 22 ตุลาคม 2022 – 31 พฤษภาคม 2023 
・ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 2,500 เยน (ได้คูปองมูลค่า 1,000 เยนด้วย สามารถเอาไปใช้ทานอาหาร หรือใช้เป็นส่วนลดเพื่อเข้าชมสวนดอกกุหลาบ Begonia Garden ได้) / เด็กระดับประถมลงไป เข้าฟรี 
・เว็บไซต์ทางการ : https://www.nagashima-onsen.co.jp/nabana/illumination/index.html 
・พิกัด : https://g.page/nabananosato?share 
・การเดินทาง : จากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ นาโกย่า ขึ้นรถไฟไปสถานี Nagoya แล้วเดินทางต่อได้ 2 วิธีคือ

  1. จากสถานี Kintetsu Nagoya ให้ขึ้นรถไฟ Kintetsu มาลงที่สถานี Kintetsu Nagashima และต่อรถบัสราคา 220 เยนต่อเที่ยว หรือ
  2. โดยสารรถบัสจาก Nagoya Meitetsu Bus Center ชั้น 4 จุดขึ้นบัสที่หมายเลข 22 ค่าโดยสารไป-กลับ ผู้ใหญ่ราคา 1,900 เยน เด็ก 960 เยน

 

2. กระเช้าชินโฮทากะ (Shinhotaka Ropeway)

กระเช้ากอนโดล่า 2 ชั้นแห่งแรกและแห่งเดียวในญี่ปุ่น มีระยะทางรวม 3,200 เมตร และมีความสูงกว่า 2,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ชมวิวเมืองและธรรมชาติได้ทั้งในฤดูหนาวและใบไม้เปลี่ยนสี ในช่วง 2 ปีที่มีโควิดได้ปรับเปลี่ยนกระเช้าเป็นแบบใหม่ และเปิดจุดชมวิวใหม่บนสถานีชั้นบนสุด สามารถชมวิวได้กว้างขึ้นจุใจกว่าเดิม 

【รายละเอียด】

 ・เวลาทำการ ประมาณ 8:30 - 16:45 น. (เวลาอาจแตกต่างกันไปตามฤดูกาล)
 ・ราคาค่าโดยสาร : - ผู้ใหญ่ ขาเดียว 1,900 เยน, ไป-กลับ 3,300 เยน - เด็ก ขาเดียว 950 เยน, ไป-กลับ 1,650 เยน
 ・เว็บไซต์ทางการ : http://shinhotaka-ropeway.jp/ 
・พิกัด : https://goo.gl/maps/mkhvSXwETYjRbPXJ9
 ・การเดินทาง : จากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ นาโกย่า ขึ้นรถไฟไปสถานี Nagoya แล้วนั่งรถไฟจากสถานี JR Nagoya ถึง JR Takayama (ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 20 นาที) หรือนั่ง Express bus จาก Nagoya ถึง Takayama (ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 40 นาที) จากนั้นนั่งรถบัส Nohi bus จากสถานี Takayama ถึง Shinhotaka Ropeway (ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 40 นาที)  

 

3. จิบลิพาร์ค (Ghibli Park)

ที่เที่ยวเปิดใหม่ล่าสุด 1 พฤศจิกายนนี้ ภายในเมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิ ที่นี่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้เข้าไปอยู่โลกแห่งอนิเมชั่นเรื่องต่างๆ ของ Studio Ghibli ได้นั่งรถบัสแมว ถ่ายภาพกับผีไร้หน้า แอบดูห้องทำงานของยูบาบา หรือเจอโทโทโร่ตัวใหญ่ๆ ได้

【รายละเอียด】

 ・ค่าเข้าชม: แบ่งตามโซนดังนี้
 1. Ghibli’s Grand Warehouse - วันธรรมดา ผู้ใหญ่ 2,000 เยน, เด็ก (ตั้งแต่ 4 ขวบถึงชั้นประถม) 1,000 เยน - วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุด ผู้ใหญ่ 2,500 เยน, เด็ก (ตั้งแต่ 4 ขวบถึงชั้นประถม) 1,250 เยน
 2. Hill of Youth ผู้ใหญ่ 1,000 เยน, เด็ก (ตั้งแต่ 4 ขวบถึงชั้นประถม) 500 เยน 
 3. Dondoko Forest ผู้ใหญ่ 1,000 เยน, เด็ก (ตั้งแต่ 4 ขวบถึงชั้นประถม) 500 เยน 
・เว็บไซต์ทางการ : https://ghibli-park.jp/ 
・พิกัด : https://goo.gl/maps/ZQYygL6Eda8xHRH56 
・การเดินทาง : จากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ นาโกย่า ขึ้นรถไฟไปสถานี Nagoya จากนั้นนั่งรถไฟใต้ดินสาย Higashiyama ลงที่สถานี Fujigaoka และเปลี่ยนไปนั่งรถไฟ Linimo มาลงที่สถานี Ai-Chikyuhaku-Kinen-Koen ก็ถึงตัวพาร์คเลย นอกจากนี้สามารถนั่งรสบัสโดยตรงจากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ถึงได้ โดยมีวันละ 1 เที่ยว ออกเวลา 10.00 น. (ใช้เวลาประมาณ 80 นาที) ราคา 2,000 เยน  

 

4. โอบาระ ชิคิซากุระ (Obara Shikizakura)

ชิคิซากุระ ซากุระพิเศษที่บาน 2 ครั้งต่อปี ทั้งในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง แนะนำมาที่เมืองโอบาระ จังหวัดไอจิ ในฤดูใบไม้ร่วง เพราะดอกชิคิซากุระจะบานไปพร้อมๆ ต้นไม้อื่นที่เปลี่ยนเป็นสีแดง เป็นภาพวิวทิวทัศน์ที่หาได้ยากและมีที่เดียวในญี่ปุ่น 

【รายละเอียด】 เทศกาล Obara Shikizakura Matsuri 

・วันจัดเทศกาล : วันที่ 12 – 30 พฤศจิกายน 2022 
・เว็บไซต์ทางการ : https://www.tourismtoyota.jp/th/spots/detail/291/
 ・พิกัด : https://goo.gl/maps/X3kKsTw51EkPLfEr6
 ・การเดินทาง : จากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ นาโกย่า ขึ้นรถไฟไปสถานี Nagoya แล้วนั่งรถไฟใต้ดินสาย Higashiyama ไปลงที่สถานี Fushimi จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Tsurumai ไปลงสถานี Toyota-shi จากนั้นนั่งรถบัส Toyota Oiden bus ที่มุ่งไปทาง Kaminiki (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง) ลงที่ป้าย Obaraokusa   

 

5. หุบเขาโครังเค (Korankei)

หนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น อยู่ที่เมืองโตโยต้า จังหวัดไอจิ ที่นี่มีต้นเมเปิ้ลทั้ง 11 ชนิด กว่า 4,000 ต้น สลับสีสันอย่างงดงามไปทั้งหุบเขา จุดชมวิวไฮไลท์คือตรงสะพานสีแดงข้ามแม่น้ำ ช่วงกลางคืนยังมีการประดับไฟไลท์อัพที่สวยงามมาก 

【รายละเอียด】 เทศกาลโครังเคโมมิจิ (Korankei Momiji Festival) 

・วันจัดเทศกาล : วันที่ 1 – 30 พฤศจิกายน 2022
 ・เวลาทำการ : เที่ยวชมได้ตลอดวัน ส่วน Light up เริ่มตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดินไปจนถึงเวลา 21:00 น. 
・เว็บไซต์ทางการ : https://www.tourismtoyota.jp/th/spots/detail/782/ 
・พิกัด : https://goo.gl/maps/MnJWXndMAheb9s479
 ・การเดินทาง : จากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ นาโกย่า ขึ้นรถไฟไปสถานี Nagoya แล้วนั่งรถไฟใต้ดินสาย Higashiyama ไปลงที่สถานี Fushimi จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Tsurumai ไปลงสถานีไปลงที่สถานี Toyota-shi จากนั้นนั่งรถ Meitetsu Bus Yamani Line  (ใช้เวลาประมาณ 45 นาที) ไปลงที่ป้าย Korankei  

 

6. วิสน (VISON)

รีสอร์ทใหม่ล่าสุดในจังหวัดมิเอะ ที่เป็นมากกว่ารีสอร์ท เพราะที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมร้านอาหารและคาเฟ่ชื่อดัง เนื้อมัตสึซากะ หรือกุ้งอิเซะก็สามารถมาลิ้มรสความอร่อยได้ที่นี่ และมีบริการสปา มิวเซียม และโซนช้อปปิ้งให้ได้ช้อปอย่างจุใจ เรียกได้ว่าเที่ยวครบจบในที่เดียว 

【รายละเอียด】 
・เว็บไซต์ทางการ : https://vison.jp/ 
・พิกัด : https://goo.gl/maps/mmTZ8qR4n8ZnP1co8
 ・การเดินทาง : 1.เดินทางโดยรถไฟและรถบัส : จากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ ขึ้นรถไฟไปลงสถานี Nagoya จากนั้นต่อรถบัส Mie Kotsu โดยขึ้นที่ Meitetsu Bus Center สถานีรถไฟนาโกย่า ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 40 นาทีถึงที่ VISON เลย 2.เดินทางโดยรถยนต์ : จากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ ลงตรงทางแยกต่างระดับ Sewataki IC แล้วถึงที่ VISON เลย (ประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที)  

 

7. ฮาคุบะ (Hakuba)

เมืองที่รายล้อมด้วยภูเขาหิมะของเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือ เป็นแหล่งสกีที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น หิมะของที่นี่เป็นแบบพาวเดอร์สโนว์ สัมผัสนุ่ม คุณภาพดี จนเคยได้จัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 1998 มาแล้ว ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็สวยงามไม่แพ้กัน 

【รายละเอียด】 

・เว็บไซต์ทางการ : https://www.vill.hakuba.nagano.jp/english/ 
・พิกัด : https://goo.gl/maps/2cjECpgUACPYzZ5Q6 
・การเดินทาง : จากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ นาโกย่า ขึ้นรถไฟไปสถานี Nagoya แล้วให้ขึ้นรถไฟสาย Shinano Limited Express ลงที่สถานี Matsumoto จากนั้นขึ้นรถไฟสาย Oito Line ไปยังสถานี Hakuba ซึ่งใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟประมาณ 4 ชั่วโมงจากสถานี Nagoya ถึงสถานี Hakuba 
 ** สำหรับในช่วงฤดูกาลเล่นสกีจะมีรถบัสตรงไปยังสกีรีสอร์ท (รถบัสกลางคืน) สำรองที่นั่งและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://jamjamliner.jp/chubu_ski/ (ภาษาญี่ปุ่น)  

 

8. คินชาจิ โยโกโจ (Kinshachi Yokocho)

โซนร้านค้า ร้านอาหาร ของฝาก ที่ปราสาทนาโกย่า ได้ทำการปรับปรุงใหม่เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว แบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก คือโซนโยชินาโอะ (Yoshinao) เป็นร้านค้าในสไตล์ดั้งเดิมสมัยเอโดะ มีร้านขายอาหารขึ้นชื่อของนาโกย่า และโซนมูเนะฮารุ (Muneharu) เป็นร้านค้าในสไตล์สมัยใหม่ มีร้านคาเฟ่ ร้านอาหารหลากหลาย 

【รายละเอียด】

 ・เวลาเปิดทำการ : โซนโยชินาโอะ ร้านค้าส่วนใหญ่เปิดเวลา 10:30 - 17:30 น. โซนมูเนะฮารุ ร้านค้าส่วนใหญ่เปิดเวลา 11:00 - 22:30 น. ทั้งนี้แต่ละร้านมีเวลาเปิดปิดแตกต่างกัน สามารถเช็คได้ทาง https://kinshachi-y.jp/openingHours/openingHours.html 
・เว็บไซต์ทางการ (ภาษาญี่ปุ่น) : https://kinshachi-y.jp/
 ・พิกัด : https://goo.gl/maps/fBTLG3jCmgWhiKE66 
・การเดินทาง : จากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ นาโกย่า ขึ้นรถไฟไปสถานี Nagoya แล้วนั่งรถไฟใต้ดินสาย Sakuradori Line มาลงที่สถานี Hisayaodori แล้วเปลี่ยนเป็นสาย Meijo Line มาลงที่สถานี Shiyakusho ออกทางออก 7  

 

9. ฮิซายะ โอโดริ พาร์ค (Hisaya Odori Park) ย่านซาคาเอะ

ที่ย่านช้อปปิ้ง “ซาคาเอะ” ใจกลางเมืองนาโกย่า มีสวนสาธารณะที่ถูกปรับปรุงใหม่ล่าสุด เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ และใช้จัดงานกิจกรรมต่างๆ ตลอดปี และยังมีร้านอาหาร ร้านค้า เป็นแหล่งช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์แห่งใหม่ของนาโกย่า รวมทั้งเป็นจุดถ่ายภาพ Chubu Electric Power MIRAI TOWER (※เดิมชื่อนาโกย่า ทีวี ทาวเวอร์) ที่สวยงามด้วย 

【รายละเอียด】 

・เว็บไซต์ข้อมูล : https://www.nagoya-info.jp/th/spot/detail/91/ 
・พิกัด : https://goo.gl/maps/S9pUrMnCqhF3L57o6 
・การเดินทาง : จากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ นาโกย่า ขึ้นรถไฟไปสถานี Nagoya แล้วนั่งรถไฟใต้ดินสาย Sakuradori Line มาลงที่สถานี Hisayaodori  

 

10. หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawago)

หมู่บ้านมรดกโลกกลางหุบเขา จุดเด่นคือเป็นบ้านญี่ปุ่นโบราณทรง “กัสโช” มุงหลังคาด้วยต้นหญ้า มีความลาดชันเป็นพิเศษไว้รับมือกับหิมะโดยเฉพาะ สามารถเดินทางมาชมได้ตลอดทั้งปี แต่ในช่วงฤดูหนาวจะมีความพิเศษตรงที่มีประดับไฟไลฟ์อัพที่สวยงามมาก นับเป็นเป้าหมายของการเดินทางของใครหลายคน 

【รายละเอียด】 

・วันและเวลาเข้าชมหมู่บ้าน : ทุกวันประมาณ 9.00-17.00 น. (อาจแตกต่างกันไปตามสถานที่ต่าง ๆ และช่วงเดือน) 
・วันและเวลา Shirakawa Light-Up 2023 : 
15 มกราคม (อาทิตย์), 22 มกราคม (อาทิตย์), 29 มกราคม (อาทิตย์) 2023 
5 กุมภาพันธ์ (อาทิตย์], 12 กุมภาพันธ์ (อาทิตย์], 19 กุมภาพันธ์ (อาทิตย์) 2023 
เวลา 17.30 - 19.30 น.
 ・เว็บไซต์ทางการ : https://shirakawa-go.gr.jp/en/ 
・พิกัด : https://goo.gl/maps/sD6cLUqWm95KswZw5 
・จากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ ขึ้นรถไฟไปลงสถานี Nagoya จากนั้นต่อรถบัส Highway Bus โดยขึ้นที่ Meitetsu Bus Center สถานีนาโกย่า ใช้เวลาโดยสารประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที ถึงที่ Shirakawago      

 

ที่จริงแล้วยังมีที่เที่ยวในชูบุอีกมากมายที่มีเสน่ห์และน่าไปค้นหา บินตรงลงสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ นาโกย่า สะดวกที่สุด! การเดินทางเชื่อมต่อเมืองนาโกย่าก็แสนสะดวกสบาย ด้วยการนั่งรถไฟเพียง 29 นาทีเท่านั้น 
・อ่านข้อมูลสนามบินชูบุเซ็นแทรร์นาโกย่า ได้ที่ https://www.centrair.jp/th/ 
・ติดตามอัพเดทข้อมูลท่องเที่ยวภูมิภาคชูบุ ได้ที่เพจ Next Landing CHUBU Nagoya สนามบินชูบุ นาโกย่า