"Awa odori" อาวะ มารำกัน

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แม้จะเป็นเมืองเดียวกัน แต่ถ้ามาในแต่ละฤดูกาลที่ต่างกันก็จะพบกับเสน่ห์และสีสันที่แตกต่างกัน

ช่วงหน้าร้อนของญี่ปุ่นที่กำลังจะมาถึงนี้ เสน่ห์ของญี่ปุ่นในแต่ละเมืองจะอยู่ที่งานเทศกาลประจำปีของแต่ละเมือง หนึ่งในเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นก็คือ งานเทศกาล Awa odori จังหวัด Tokushima

ในวันที่ 12 ถึงวันที่ 15 สิงหาคมของทุกปี เป็นเวลาสี่ร้อยกว่าปีมาแล้ว ชาวเมืองจะพร้อมใจกันแต่งชุดพื้นบ้าน ร่ายรำกันตามท้องถนน ตั้งแต่ 18:00 นถึง 22:30 น ตลอด4 วัน 4 คืน



แต่ถ้าหากเรามาไม่ตรงกับช่วงเวลาดังกล่าวก็ไม่ต้องกังวลไป สามารถสัมผัสบรรยากาศของงานได้ที่ "Awa odori kaikan"

ตัวอาคารสามารถเดินมาจากสถานี รถไฟ JR Tokushima ได้ โดยสังเกตง่ายๆ เดินได้ไม่หลง เพราะว่าตัวอาคารจะเป็นสถานี รถกระเช้า ไฟฟ้าขึ้นยอดเขา Bizan ด้วย

หลังจากซื้อตั๋วที่ชั้น 1 แล้วก็เชิญขึ้นมาที่ชั้น 3 จะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวและภาพจำลองบรรยากาศของงาน Awa odori ตั้งแต่ในยุคอดีต มาจนถึงยุคปัจจุบัน





พิพิธภัณฑ์มีขนาดไม่ใหญ่นัก ใช้เวลาเดินชมพิพิธภัณฑ์ไม่นานก็ชมได้ทั่วถึง และไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ การได้สัมผัสประสบการณ์ งานเทศกาล Awa odori ที่ห้องแสดง โชว์ที่ชั้น 2

โชว์จะมีเป็นเป็นรอบๆ จำนวน 5 รอบ ในเวลา 11.00 14.00 15.00 16.00 และรอบดึก 20.00 สามารถจองรอบที่จะดูตอนซื้อตั๋วไว้ก่อนได้เลย

โชว์เริ่มต้นด้วยการร่ายรำโดยนักร่ายรำมืออาชีพ จากเดี่ยวเป็นกลุ่ม แล้วกลายเป็นหมู่ใหญ่





จากนั้นจะมีการอธิบายประวัติความเป็นมาของงานเทศกาล และแนะนำเครื่องดนตรีพื้นบ้าน ที่ใช้สร้างเสียงเพลงในงานร่ายรำ แม้จะพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นแต่ว่าตลอดรายการมีคำบรรยายภาษาอังกฤษที่จอมอนิเตอร์ด้านข้างเวทีอธิบายตลอดปิดท้ายด้วย การสอนการร่ายรำให้กับผู้เข้าชม และที่พิเศษสุดๆก็คือ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถขึ้นไปบนเวทีร่วมกันเต้นกับนักแสดงทั้งหลายในโชว์ชุดสุดท้ายได้ด้วย

รูปบรรยากาศการเต้นร่วมกันระหว่างนักแสดงและผู้ชมไม่มีมาแสดงนะครับ เพราะตัวผู้เขียนเองก็ขึ้นไปเต้นอยู่ด้วยเหมือนกัน 555

หลังจากเต้นเสร็จก่อนจะเลิกการแสดง ก็มี Surprise เกิดขึ้น เป็นการมอบรางวัลให้กับผู้ชมที่ขึ้นมาร่วมกันเต้น 3 รางวัล  รางวัลที่ 1 ได้เป็นธงและประกาศนียบัตร แสดงความชื่นชมในความพยายามที่จะเต้น (เอ่อ...คือว่า....ชมใช่ไหมเนี่ย)





ซึ่งผู้ได้รับรางวัลในรอบนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น คือผู้เขียนเองนี่แหละครับ

แต่ต่อให้ไม่ได้รางวัลอะไรเลย การได้มีประสบการณ์มีส่วนร่วมในวัฒนธรรมพื้นบ้านของชาวญี่ปุ่น ก็เป็นประสบการณ์ที่มีค่า น่าประทับใจยิ่งแล้วครับ

เชิญมาสร้างประสบการณ์สัมผัส วัฒนธรรมท้องถิ่นที่ญี่ปุ่นกันดูบ้างนะครับ