สวัสดีค่ะ กลับมาแล้วกับสถานที่สุดเหงาเปล่าเปลี่ยวในโตเกียว หลังจากผ่านไปแล้วกับพาร์ทแรกที่เต็มไปด้วยสถานที่ทั้งสวยงาม เงียบสงบ และสถานที่ที่คาดไม่ถึงว่าจะสามารถพักใจในที่แบบนั้นได้ วันนี้เราจะมาต่อให้จบกันกับซีรีย์นี้ค่ะ (ฮ่า)

 

Senpukuji Park

มาขอเริ่มพาร์ทนี้กันที่ส่วนที่ไกลเมืองบ้างค่ะ ก็ยังอยู่ในโตเกียวนะคะแต่ออกมาเกือบถึงเซนดากายะ แล้วค่ะ ที่นี่คือสวนสาธารณะเซมปุคุจิ (Senpukuji Park) ค่ะ เป็นสวนสาธารณะที่มีบ่อเซมปุคุจิที่มาจากแม่น้ำเซมปุคุจิอยู่ค่ะ บ่อน้ำที่ว่านี้สำคัญมากต่อโตเกียวนะคะเพราะเป็นแหล่งน้ำหลักให้กับ Bureau of Waterworks Tokyo Metropolitan Government ว่ากันง่าย ๆ ก็คือน้ำในบ่อแห่งนี้เป็นแหล่งต้นน้ำของโตเกียว 23 แขวงนั่นเองค่ะ



ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ยังรู้จักกันในฐานะของหนึ่งในสามบ่อน้ำพุร้อนแห่งฤดูใบไม้ผลิของมุซาชิโนะ (Musashino) ด้วยค่ะ โดยที่นี่รู้จักในอีกชื่อว่ามุซาชิโนะ ไดจิ (Musashino Daichi) ในสมัยเอโดะมาก่อนค่ะ เรียกได้ว่าเป็นแหล่งน้ำให้กับชาวญี่ปุ่นในเขตุนี้มานานทีเดียว สวนสาธารณะเซมปุคุจิแบ่งออกเป็นโซนบ่อน้ำด้านบนและบ่อน้ำด้านล่าง มีพื้นที่ที่เป็นน้ำประมาณ 37,000 ตารางเมตร คิดเป็น 47% ของสวนนี้เชียวนะคะ นอกจากนี้ก็ยังมีต้นไม้นานาพันธุ์อีกมากตั้งแต่ต้นโอ๊ค ต้นแปะก๊วย ต้นซากุระ และดอกไม้ตามฤดูกาลอีกมากมาย เรียกว่าถ้าไปคนละฤดูก็จะได้คนละภาพกันเลยนะคะ

ที่นี่ก็มีหลายโซนให้เลือกเดินค่ะตั้งแต่โซนนั่งเล่นสาธารณะของครอบครัวหรือส่วนของเรือเป็ดสำหรับคนที่มาเดทก็มีค่ะ ส่วนคนเหงาอย่างเรา ใจเย็นนะคะ เราไม่จำเป็นต้องเปิดตัว #เหงาlevel99 ไปถีบเรือเป็ดคนเดียวค่ะ เรายังมีทางเลือกให้เดินไปในโซนอื่นค่ะ ซึ่งทางเราของแนะนำให้ลองเดินมาในโซนที่บ่อน้ำล่างที่มีธรรมชาติงดงามและไม่มีเรือเป็ดกวนใจค่ะ นั่งพักผ่อนริมธารน้ำดื่มด่ำกับความงดงามของธรรมชาติ ปล่อยใจให้เพลิดเพลินไปกับสิ่งสวยงามก็ดีไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ

พิกัดสวนเซนฟุคุจิ

 

Kasai Rinkai Park

มาต่อกันเลยที่อีกที่หนึ่งแถวริมชายชายฝั่งอ่าวโตเกียวค่ะ ที่นี่คือ 葛西臨海公園 (Kasai Rinkai Park) เวลาเหงา ๆ นี่จะเกิดอาการ #ร่างกายต้องการทะเล กันบ้างสินะคะ สถานที่ที่ทะเลสีครามมาจรดกับเส้นขอบฟ้าของท้องฟ้าที่เปลี่ยนไป เป็นวิวที่ปฏิเสษได้ยากจริง ๆ ใช่มั้ยคะ ที่สวนนี้จะไม่ได้ห่างจากท่าเรือฮารุมิในบทความแรกมากนักค่ะ แล้วก็นับว่าเป็นสถานีที่ใกล้ Tokyo Disney Resort มากที่สุดค่ะ 



ที่ 葛西臨海公園 (Kasai Rinkai Park) นี้นับเป็นสถานที่มีชิงช้าสวรรค์ใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่นค่ะ สูงถึง 117 เมตรเลยทีเดียว (ใหญ่ที่สุดคือ Expo city, Osaka 123 เมตร) นอกจากนี้ก็ยังมีบ่อบัว สวนดอกไม้ และ  Tokyo Metro Museum ที่อยู่ไม่ไกลอีกด้วย...

Picture : https://www.japan-guide.com/e/e3024.html

สำหรับสถานที่นี้แล้วต้องยกให้กับ "ความทรงจำที่สวยงามกับพระอาทิตย์ตกของโตเกียว" เลยค่ะ เพราะนอกจากจะมีพื้นที่กว้างสวยงามแล้วยังเหมาะอย่างยิ่งที่จะมองเส้นขอบฟ้าตอนพระอาทิตย์ตกลงทะเลด้วย ได้นั่งดูพระอาทิตย์ตกบนชิงช้าสวรรค์ก็ไม่เลวเลยนะคะ เวลาไปไหนมาไหนคนเดียวถ้าจะนั่งชิงช้าสวรรค์ก็คงลำบากใช่มั้ยคะ อย่างดิสนีย์แลนด์หรือที่อื่นก็อาจจะยากหน่อยเพราะลูกค้าเยอะ แต่ที่นี่ก็ทำได้ค่ะ ได้ใช้เวลาดูพระอาทิตย์อำลาลงอ่าวโตเกียวบนชิงช้าสวรรค์ที่เห็นเมืองอันวุ่นวายในมุมกว้างนี่ดีสุด ๆ เลยใช่มั้ยคะ มีคนเคยบอกเราว่า "พระอาทิตย์ตกเป็นการนิยามว่า บางครั้งการจบอะไรสักอย่างก็ไม่ได้แย่เสมอไป" เพราะฉะนั้นแล้วลองดูไม่เสียหายนะคะ 

พิกัดสวน 葛西臨海公園 (Kasai Rinkai Park)

 

Shiba Park

มาต่อกันที่สถานทีสุดเปลี่ยวของวันนี้กันค่ะ จะว่าไปที่นี่เป็นสถานที่ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงมากในหมู่นักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ ค่ะ เพราะที่นี่คือ Best Spot of 'Tokyo Tower' ค่ะ เป็นจุดที่สามารถจะถ่ายรูป Tokyo Tower ได้ชัดที่สุดแล้ว และก็เป็นอีกสถานที่ที่สามารถจะชมดอกซากุระในช่วงใบไม้ผลิได้ด้วย

Picture : http://www.oldtokyo.com/shiba-park/

มาท้าวความเอาความรู้กันนิด ๆ ค่ะ สวนชิบะแห่งนี้เป็นหนึ่งใน 5 สวนที่เก่าแก่ที่สุดที่ของญี่ปุ่นค่ะ (อีก 4 ที่คือ อุเอโนะ(UENO], อะซะกุสะ(Asakusa], โยโยงิ (Yoyogi) และ อะสุคายามะ (Asukayama) ) สร้างขึ้นในยุคเมจิที่ 6 ค่ะ ในสมัยนั้นการทำสวนก็จะอิงให้ใกล้กับศาลเจ้าประมาณว่าเป็นที่ของวัดต่าง ๆ ค่ะ แต่ในยุคนั้นประเทศญี่ปุ่นเริ่มมีการเข้ามาของศาสนาคริสต์ค่ะ จึงทำให้รัฐอนุมัติพื้นที่ในสวนใหญ่ ๆ ให้เป็นพื้นที่ของรัฐแทนที่จะเป็นของศาสนาใดศาสนาหนึ่ง... (เล่าให้ดูเท่ ๆ ไปอย่างนั้นเอง)



ต้องนับว่าสวนแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสวนสาธารณะแรก ๆ ที่มีเครื่องออกกำลัง ส่วนของสนามกีฬา คอร์ทเทนนิส รวมอยู่ในนี้ค่ะ ถือเป็นต้นแบบของสวนอื่น ๆ ก็ว่าได้ ส่วนต้นไม้ที่ปลูกในนี้นอกจาก ต้นซากุระ แล้วก็ยังมี ต้นแปะก๊วย ต้นการบูร, ต้นบีช ด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นแล้วไม่ต้องห่วงเรื่องอาณาบริเวณอันกว้างขวางเลยค่ะ หากไปเดินชมต้นไม้แล้วก็ลองหาที่สงบ ๆ ปลอดคนเสียหน่อย นั่งพักให้สบายใจปล่อยกายปล่อยใจทอดไปกับธรรมชาติที่อยู่ใจกลางเมืองดูบ้างก็เป็นการใช้เวลากับตัวเองที่ดีไม่น้อยนะคะ

พิกัด Shiba park

 

National Diet Library

เป็นคนประเภทที่อยู่ในที่เงียบ ๆ เย็น ๆ มีหนังสือเยอะ ๆ แล้วใจสงบรึเปล่าคะ ถ้าใช่เราว่าคงไม่มีที่ไหนตอบโจทย์ได้มากกว่าที่นี่แล้วค่ะ ที่ใดเล่าจะสงบเท่า 'ห้องสมุด' และที่นี่คือ 国会図書館 (National Diet Library) ค่ะ อีกหนึ่งหอสมุดใจกลางโตเกียวที่มีดีกรีติดอันดับห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ปัจจุบันอยู่ที่อันดับ 6) ที่นี่นับเป็นห้องสมุดที่มีหนังสือเกือบทุกประเภทเลยทีเดียวค่ะ 



ในตอนแรกหอสมุดนี้ก็จัดขึ้นเพื่อเรียนรู้การปกครองแบบใหม่ในยุคเมจิค่ะ (ประมาณช่วง 1872 ใช้จริงในชื่อ Imperial Diet ในปี 1890) แต่หลังจากผ่านช่วงสงครามโลกแล้วที่นี่ก็เข้ารับการปรับปรุ่งค่ะ ก่อนจะมาเปิดอีกครั้งในช่วง 1938 และปรับปรุงมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน



ในตอนนี้ที่นี่มีหนังสือกว่า 41.88 ล้านเล่มค่ะ รวมถึงสื่อ สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ และ สื่อออนไลน์ด้วยนะคะ หมวดหนังสือสำคัญ ๆ ก็อย่างเช่น Modern Political and Constitutional History , Materials Concerning The Postwar Occupation of Japan, Laws and Preliminary Records และอื่น ๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่มีองค์ความรู้มากเกินกว่าที่เราจะสามารถจินตนาการถึงได้เชียวค่ะ

การได้อยู่ท่ามกลางหนังสือจำนวนเยอะ อ่านเรื่องที่เราไม่คิดว่าจะได้อ่านท่ามกลางความเงียบและบรรยากาศที่สงบนั้นทำให้เราได้อยู่กับตัวเอง อยู่กับความคิด อีกทั้งยังได้รับความรู้ใหม่ ๆ อีกด้วย เผลอ ๆ เราจะลืมความเหงาได้เสียอีกนะคะ

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัด 国会図書館 (National Diet Library)

 

Tokyo Nakayama Racecourse

ที่ตรงนี้ขอเขียนถึงสั้น ๆ เพราะไม่แน่ใจว่าพวกเราจะปลิวหรือไม่ เพราะที่นี่คือ 東京中山競馬場 (Tokyo Nakayama Racecourse) สนามแข่งม้าค่ะ (ฮ่า) จริง ๆ ที่นี่อยู่เกือบเข้าเขตฟุนะบาชิแล้วนะคะ



คงสงสัยสินะคะว่าสนามม้ามันเหมาะกับคนเหงาตรงไหน! ใช่ค่ะ ในตอนแรกเราเองก็สงสัยเหมือนกัน แต่พอได้เข้าไปอ่านในรายละเอียดแล้วก็พบว่าจุดที่เหมาะกับคนเหงาคือ 'ที่นั่ง' นั่นเองค่ะ



จะเห็นว่าที่นั่งของที่นี่นั้นเป็นที่นั่งแบบแยกกันนั่งค่ะ ไม่จำเป็นต้องยุ่งหรือคุยกับใคร นั่งถือตั๋วม้าในมือมองน้องม้าวิ่งแข่ง เผลอ ๆ หากว่าโชคดีก็อาจจะได้เงินติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย ถือว่าเป็นสถานที่สำหรับกลุ่มอยากอยู่คนเดียวแบบไม่เหงามากและมีกิจกรรมทำได้ไม่เลวเลยทีเดียวค่ะ ปล. เล่นแต่พอตัวนะคะ

พิกัด 東京中山競馬場の馬主席 (Tokyo Nakayama racecourse)

 

เกาะชิคิเนะ

หากใครที่รู้สึกว่า ท่าเรือก็ยังเปลี่ยวไม่พอ ริมทะเลก็ยังไม่ใช่ นั่งดูวิวพระอาทิตย์ตกก็ยังไม่พอ ขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ 式根島(เกาะชิคิเนะ)

Picture : http://shikinejima.tokyo/

เมื่อ 16,000 ปีก่อนเกาะชิคิเนะถือกำเนิดขึ้นในอ่าวโตเกียวค่ะ นักธรณีวิทยาบอกว่าเกาะนี้มีพื้นที่ทั้งหมด 3.7 ตารางกิโลเมตร ความยาวรอบเกาะประมาณ 12 กิโลเมตรเองค่ะ เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่สามารถเดินรอบได้เลยจุดสูงสุดของเกาะนั้นคือจุด กินซัน สูงเพียง 99 เมตรจากน้ำทะเลย ระยะห่างของเกาะนั้นห่างจากโตเกียวประมาณ 160 กิโลเมตรมาทางใต้ เป็นเกาะที่เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาพันธุ์และอาหารที่แปลกตาไป รวมถึงชายหาดสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยค่ะ

Picture : http://shikinejima.tokyo/

ที่นี่คือเกาะที่เหมาะกับการ SNS Detox สุด ๆ ค่ะ แนะนำสำหรับสาวโสดเลยเพราะว่ามีที่เดินเที่ยวชิว ๆ ชมธรรมชาติริมทะเลย แล้วก็ปลอดภัยมากค่ะ อีกอย่างหนึ่งที่นี่เป็นหนึ่งในอีกเกาะที่ได้รับการรับรองเป็น World Heritage ด้วยนะคะ สำหรับคนที่ชื่นชอบธรรมชาติ อยากจะหยุดกับโลกอันวุ่นวายรอบตัวแล้ว ก็อย่าลืมเกาะชิคาเนะนะคะ

พิกัด 式根島 (เกาะชิคิเนะ)

 

Sarugaku Coffee Shop 

Sarugaku Coffee Shop (猿楽珈琲) เป็นร้านกาแฟที่ซ่อนตัวอยู่ในไดคังยามะค่ะ เป็นที่ที่ได้รับคำแนะนำมาอีกทีจากเงียบแล้วก็มีกาแฟอร่อย ๆ ด้วย หากใครที่อยู่ใกล้โยโกฮาม่าแล้วอยากไปพักใจตรงนี้ก็แนะนำค่ะ 

Picture : https://blogs.yahoo.co.jp/mappihm/42424212.html

อย่างที่เห็นในภาพร้านนี้เป็นร้านที่เงียบ ๆ บรรยากาศสลัว ๆ อย่างในภาพเลยค่ะ แต่ว่าเป็นร้านที่ค่อย ๆ ดริปกาแฟทีละแก้ว ทีละแก้ว เพราะฉะนั้นแล้วหากคนที่ชอบความละเมียดละไมของกาแฟ ความเงียบและบรรยากาศที่ทำให้ใจรู้สึกสงบแล้ว ที่นี่แม้ว่าจะดูลึกลับไปหน่อย แต่ก็รับประกันความปลอดภัยแล้วก็บรรยากาศเลยค่ะ

เว็บไซต์ร้าน

พิกัดร้าน Sarugaku Coffee Shop

 

Todowara

สุดท้ายนี้ขอแถมอีกที่ค่ะ (แต่ขออนุญาตออกนอกโตเกียวไกลสักหน่อยนะคะ) ที่นี่คือ トドワラ (Todowara) ค่ะอยู่ที่ Hokkaido เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่สวยแบบยูนีคมากค่ะ 

Picture : http://hokkaido-lovepower.net/category3/entry44.html

ป้ายนี้กร่อนมากเลยใช่มั้ยคะ คนเหงา ๆ มาเห็นป้ายนี้เข้าคงรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของธรรมชาติ ที่มีทั้งความเป็นและความตายอยู่แล้วล่ะก็คงจะรึลึกถึงอะไรได้เยอะเลยทีเดียวนะคะ ที่นี่คือสถานที่ที่ต้นสน (Todomatsu) ยืนต้นตายค่ะ แต่รอบ ๆ นั้นก็ยังมีต้นโอ๊คขึ้นปกคลุมค่ะ เมื่อเข้าไปจะได้เดินข้ามสะพานไม้เพื่อดูรอบบริเวณค่ะ





แม้ว่าพื้นที่จะไม่กว้างมากนัก แต่ด้วยความสวยงามและสัจธรรมของธรรมชาติแล้วก็คงจะช่วยเยียวยาจิตใจของคนที่เดินทางไปเจอได้ไม่น้อยเลยจริงมั้ยคะ เพราะฉะนั้นแล้วแม้จะไกลโตเกียวไปหน่อยแต่ก็อยากแนะนำค่ะ

พิกัด Todowara

 

จบแล้วสำหรับบทความเพื่อคนเหงาครั้งนี้เป็นอย่างไรกันบ้างคะ?​ ได้ที่เที่ยวเพิ่มบ้างมั้ยเอ่ย (ฮ่า) สำหรับเราแล้วเราได้ประโยชน์จากบทความนี้ในส่วนของการได้ที่เงียบ ๆ ไว้นั่งคุยยาว ๆ กับเพื่อนที่นาน ๆ ทีเจอกันค่ะ (เพราะเวลาไปหาตามสถานที่ Landmark ก็จะไม่ได้คุยกันใช่มั้ยคะ)

ด้วยความที่คนญี่ปุ่นเป็นคนที่มีพื้นที่ส่วนตัวในพื้นที่ส่วนรวมสูง สังเกตว่าแค่ที่นั่งแบ่งเขาก็จะรู้สึกปลอดภัยเหมือนได้มีพื้นที่ส่วนตัวแล้วค่ะ ที่จริงแล้วการจะมีพื้นที่ส่วนตัวในบ้านมันก็ไม่แย่หรอกนะคะ แต่ถ้ามองเห็นแค่กำแพงแล้วล่ะก็ต่อให้เหงาแทบตายความคิดในใจอาจจะไม่เปลี่ยนก็ได้ การที่ได้ออกมาเห็นผู้คนเดินไปมาบ้าง การได้เห็นธรรมชาติ เห็นชีวิตของสรรพสิ่งต่าง ๆ อาจจะทำให้จิตใจเราดีขึ้นก็ได้นะคะ ^^

วันนี้ขอจบเท่านี้ก่อนน้า~ แล้วไว้มาเจอกันใหม่ในบทความหน้านะคะ

 

อ่านต่อ รวมสถานที่ของคนเหงาที่จะทำให้เราได้มีเวลาให้กับตัวเองอีกครั้ง ตอนที่ 1

ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.momotoyuin.com/entry/Loneliness/tokyo