คนชอบดอกไม้ทั้งหลายหากคิดถึงดอกไม้ที่บานอย่างสวยงามท่ามกลางสายฝนแล้ว คงหนีไม่พ้นที่จะนึกถึงดอกอะจิไซหรือไฮเดรนเยียแน่ๆ เนื่องจากอาจิไซเป็นดอกไม้ที่จะเปลี่ยนสีตามลักษณะของดิน หากดินเป็นกรดตัวดอกจะเป็นสีฟ้าและถ้าดินมีความเป็นด่างมากๆก็จะออกดอกเป็นสีม่วงและชมพูตามลำดับ คนญี่ปุ่นจึงให้นิยาม「 花言葉」หรือความหมายของดอกอาจิไซว่าเจ้าดอกไม้จอมโลเล

ในเดือน 6 หน้าฝนของทุกปี เมืองต่างๆในญี่ปุ่นก็จะประโคมจัดงานเทศกาลชมดอกอาจิไซกันยกใหญ่ แต่ถ้าจะให้พูดถึงแหล่งชมดอกอาจิไซที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่นนั้น แน่นอนว่าคนจะต้องนึกถึงเมืองคามากูระ(Kamakura) ของจังหวัดคานากาวะเป็นลำดับแรกๆอย่างแน่นอน

อาจิไซที่แย่งกันเบ่งบานหลากหลายสีในศาลเจ้าหลายๆแห่ง ของคามากุระนั้นเป็นภาพที่สวยงามจนต้องมาเห็นสักครั้งให้ได้ ทางเมืองถึงกับต้องออกแผนที่จุดชมตามวัดต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวไม่พลาดที่ๆสำคัญไปสักจุดเดียว

สำหรับที่มีชื่อเสียงอย่าง วัด Hasedera นั้นอาจจะต้องคอยคิวเข้าชมถึง 1-2 ชั่วโมง เพราะนอกจากจะมีดอกอะจิไซหลายพันต้นแล้ว ยังมีวิวชายหาดยูอิกาฮามะที่สวยงามด้วย สำหรับคนที่คิดว่าคงรอหลายชั่วโมงไม่ได้แน่ๆ เรายังมีที่ชมอาจิไซที่สวยไม่แพ้ที่ไหนในคามากุระมาให้ได้แวะไปดู อย่างเช่นวัด Meigetsuin ที่ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรู้จักมากนัก

หากต้องการเห็นบรรยากาศการชมดอกไม้เงียบๆสไตล์คนญี่ปุ่นนั้น คงอดที่จะแนะนำที่นี่ไม่ได้ นั้นนอกจากจะมีเทศกาลชมดอกอาจิไซที่มีชื่อเสียงแล้วยังมีคาเฟ่ของวัดที่ให้นั่งพักทานขนมด้วย โดยขนมของที่นี่จะเป็นแนวชาเขียววุ้นถั่วแดง เรียกได้ว่าเป็นขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม เหมาะกับการซึมซับความเป็นญี่ปุ่นให้ได้มากที่สุดจริงๆ

หากเพื่อนๆสนใจที่จะมาชมดอกอาจิไซของคามากุระแล้วหล่ะก็ แนะนำให้เผื่อเวลามาเดินสัก 1 วัน เพราะนอกจากจะมีดอกไม้ ศาลเจ้าแล้ว ยังมีถนนคนเดินเก่าแก่ของเมืองให้ได้แวะช็อปปิ้งและทานขนมพื้นเมืองของญี่ปุ่นอีกด้วย เรียกได้ว่าคุ้มค่าในการมาสุดๆ

สำหรับพิกัดชมดอกอาจิไซตามรูป คือวัด Meigetsuin นั่งรถไฟสาย Ennoshima-dentetsu ไปลงที่สถานี Kita-Kamakura เดินจากสถานีไปอีก 10 นาทีเท่านั้นระหว่างทางจะมีคาเฟ่น่ารักๆให้แวะทานกาแฟและถ่ายรูปมากมาย สาย instagram จะต้องหลงรักแน่ๆ 

และสำหรับคนชอบความท้าทาย เราแนะนำให้คุณไปลองชมวัดที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามของดอกอาจิไซเป็นอันดับหนึ่งของเมืองคามากุระ อย่างวัด Hasedera โดยนั่งรถไฟสายเดิม Ennoshima-dentetsu ลงที่สถานี Hase ที่คนไทยคงคุ้นชินกันดี เพราะเป็นสถานีที่สามารถเดินไปนมัสการพระใหญ่อันศักสิทธิ์ Kamakura Daibutsu แห่งวัด Kotokuin ได้ด้วย