3 ร้านอาหารดั้งเดิมที่นักชิมไม่ควรพลาด! เมื่อไปเมืองจิจิบุ จ.ไซตามะ

สำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิม บรรยากาศสไตล์ธรรมชาติ หรือกำลังมองหาร้านอาหารท้องถิ่นที่ทำให้เพื่อนๆ ได้สัมผัสธรรมชาติของญี่ปุ่นแบบเต็มปอด เราขอแนะนำ 3 ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมในเมืองจิจิบุ จังหวัดไซตามะ

เมืองจิจิบุ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เพิ่งได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี่เอง และนอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวอีกด้วย โดยนั่งรถไฟจากสถานีในโตเกียว ไปลงสถานีเซอิบุ-จิจิบุ (Seibu-Chichibu) ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 2 ชั่วโมงเท่านั้นเอง  เมืองจิจิบุเต็มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และ อาหารรสเลิศดั้งเดิมจากธรรมชาติมากมาย เรามาเริ่มกันที่ร้านแรกกันเลย~

 

“ร้านYasudaya”สุดพิเศษ ข้าวคัตสึด้ง วะระจิ (わらじかつ丼)

ร้านYasudaya เป็นเจ้าแรกในการทำข้าวคัตสึด้ง วะระจิ ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีเซอิบุ-จิจิบุ (Seibu-Chichibu) ประมาณ 15 นาที เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปีกันเลยทีเดียว และยังเป็นร้านที่ขายข้าวคัตสึด้งวะระจิสูตรดั้งเดิมมานานแล้วด้วย โดยคำว่า “คัตสึด้ง” ก็คือ เนื้อ (วัว หมู ไก่ ฯลฯ) ชุบแป้งและเกล็ดขนมปังทอด วางบนข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ ส่วน “วะระจิ” ถ้าแปลตรงตัวก็คือรองเท้าฟางแบบญี่ปุ่นโบราณ แต่พอรวมกันแล้วจะมีความหมายว่า ข้าวคัตสึด้ง ที่ตัวเนื้อชุบแป้งทอดมีลักษณะเป็นแผ่นใหญ่ๆ คล้ายรองเท้าฟางนั่นเองค่ะ



ภายในร้านมีทั้งที่นั่งแบบเคาน์เตอร์และที่นั่งพร้อมโต๊ะเล็กๆ สไตล์ร้านอาหารญี่ปุ่นสมัยก่อน ร้าน Yasudaya เป็นที่นิยมมาก มีลูกค้ามาต่อแถวรอกันตั้งแต่ร้านยังไม่เปิดและที่นั่งมักจะเต็มเร็วมากกก ทั้งนี้ทั้งนั้นหากเพื่อนๆ สนใจไปลองรับประทานกันล่ะก็ อย่าลืมกะเวลากันให้ดีๆ นะคะ(*≧∇≦*)



และนี่คือ ข้าวคัตสึด้ง วะระจิ ต้นตำรับ มาพร้อมเนื้อ 2 แผ่น ในราคา 1,080 เยน (รวมภาษี) ซึ่งมันเยอะมากจนฝายังปิดไม่มิดเลย กลิ่นก็หอมลอยออกมาเรียกน้ำย่อยมากๆ



เจ้าของร้านบอกไว้ว่า “จุดเริ่มต้นของข้าวคัตสึด้ง วะระจิ เริ่มมาจากในยุคนั้นมีการเผยแพร่สูตรอาหารทอด (คัตสึ) จากต่างประเทศ ดังนั้นเลยถูกนำมาเรียกกันว่า คัตสึด้ง ที่ไม่ใช้ไข่ไก่ในการทอดเลย” และยังถูกยกให้เป็นเมนูขึ้นชื่อของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย



เนื้อชุบแป้งทอด 2  ชิ้นถูกวางอย่างสวยงามบนข้าวอย่างพอดิบพอดี!

ในตอนแรกที่ร้าน Yasudaya เปิดให้บริการนั้น เป็นช่วงที่ผู้คนยังไม่ค่อยใช้รถยนต์กันเท่าไร จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวที่เดินเท้าผ่านไปผ่านมาแวะเข้ามารับประทาน โดยข้าวคัตสึด้ง วะระจิ ในตอนแรกๆ จะมีเนื้อชุบแป้งทอดเพียงแค่ 1 ชิ้นเท่านั้น แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไปก็มีลูกค้าที่เข้ามารับประทานที่ร้าน ขอเหล้าสาเกเพิ่มและยังขอเนื้อชุบแป้งทอดเพิ่มอีกชิ้นด้วย ดังนั้นจึงทำให้มีเนื้อชุบแป้งทอด 2 ชิ้นในจานเดียว เรียกได้ว่าคุณขอมาทางร้านจัดให้กันเลยย!!(///▽///)



สำหรับเนื้อที่ทางร้านใช้จะเป็นเนื้อหมูส่วนที่ดีที่สุดไม่ติดมันและหาได้ยาก ในทุกวันนี้ จำนวนร้านอาหารที่ขายข้าวคัตสึด้ง วะระจิ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงรูปแบบ เครื่องปรุงก็หลากหลายมากขึ้น แต่ทางร้าน Yasudaya ก็อยากให้เพื่อนๆ มาลิ้มลองรสชาติดั้งเดิมที่มีมายาวนานกันนะคะ

ร้าน Yasudaya (安田屋 日野田店)
ที่อยู่ : 1 Chome-6-9 Hinodamachi, Chichibu, Saitama 368-0034
เบอร์ติดต่อ : 0494-24-3188
เวลาทำการ: 11 : 30 น.- 16 : 30 น.
วันหยุด: ทุกวันจันทร์ (ในกรณีที่เปิดทำการในวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะปิดทำการในวันถัดไป)



 

“ร้าน Suzukaen หมู่บ้านเห็ด”



ร้านต่อไปเป็นอาหารท้องถิ่นของเมืองจิจิบุ นั่นก็คือ อาหารปิ้งย่างหิน ร้าน Suzukaen หมู่บ้านเห็ด ในอดีตถูกก่อตั้งให้เป็นฟาร์มสำหรับท่องเที่ยวในปี ค.ศ. 1969 ต่อมาได้มีการเปลี่ยนให้เป็นร้านที่เพื่อนๆ สามารถสนุกกับการรับประทานอาหารปิ้งย่างบนหิน และปลาแม่น้ำย่างของเมืองจิจิบุ โดยเดินทางด้วยรถไฟจากสถานีเซอิบุ-โอฮะนะบะตะเคะ (Seibu-ohanabatake) ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีเซอิบุ-จิจิบุ (Seibu-Chichibu) ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ลงที่สถานีบุชูฮิโนะ (Bushu Hino) แล้วเดินไปอีกประมาณ 20 นาที ก็จะพบกับบ้านญี่ปุ่นหลังคาสามเหลี่ยมที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ภูเขา และ แม่น้ำใสสะอาด



เมื่อเพื่อนๆ เข้าไปในร้านจะพบเตาถ่านที่เหมือนกระถางธูปที่มีก้อนหินแบน จัดวางเรียงอยู่บนโต๊ะอย่างละชุด พร้อมกับเสื่อทาทามิ และนอกจากนี้ยังมีทิวทัศน์ของธรรมชาติที่สวยงามให้ได้นั่งชมเพลินๆ ระหว่างรับประทานอาหารอีกด้วย

อาหารปิ้งย่างหิน ก็คือการปิ้งย่างอาหาร ไม่ว่าจะเป็นผักป่า เห็ด เนื้อหลากหลายชนิด และอื่นๆ อีกมากมาย บนก้อนหินธรรมชาติ (หินทราย) โดยขั้นตอนแรกเมื่อหินเกิดความร้อนจนแพร่กระจายออกไป ก็เริ่มทาไขมันของหมูป่าลงบนหิน จากนั้นใส่มิโซะหัวหอม แล้วก็เริ่มปิ้งและย่างอาหารที่ต้องการตามใจชอบได้เลยค่ะ^^



ในสมัยก่อนคนโอคุจิจิบุ (Okuchichibu) ส่วนใหญ่อาศัยอยู่บริเวณภูเขา ดังนั้นการประกอบอาหารประเภทปิ้ง ย่าง จึงนิยมใช้หินกัน ปัจจุบันการปิ้งย่างหินได้รับความนิยมและเป็นอาหารท้องถิ่นของเมืองจิจิบุ



เมนูแนะนำพิเศษของร้าน คือ “คันโจ โมโตะ คอร์ส (Kanjo moto Course)” ในราคา 3,240 เยน ต่อคน (รวมภาษี) ที่เพื่อนๆ สามารถรับประทานชุดเนื้อรวม 3 ชนิด (เนื้อไก่,เนื้อกวาง,เนื้อหมูป่า) เห็ดและผัก โดยอาหารเรียกน้ำย่อยจะเป็นข้าวเห็ดสูตรพิเศษ ซุปเห็ด และเตาถ่าน ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในชุดเดียวกัน



คุณสมบัติพิเศษของอาหารปิ้งย่างหิน คือ ไม่ใช้น้ำมัน ไม่ปล่อยควัน และคงรสชาติดั้งเดิมของอาหารเอาไว้ เห็ดก็มีมากมาย เช่น เห็ดชิตะเกะ (shiitake) ที่ปลูกเองในหมู่บ้าน เห็ดไมตาเกะ (Maitake) และ เห็ดเอะโนคิ (enoki) เป็นต้น และเสน่ห์อีกอย่างของร้านนี้ก็คือ เพื่อนๆ ยังสามารถทานผักและผลไม้ที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาลได้อีกด้วย อ้ออ...แอบบอกเคล็ด (ไม่) ลับอีกสักนิส ถ้าเพื่อนๆ ย่างผักผสมกับซอสจะอร่อยขึ้นนะ จะบอกให้~



เนื้อย่างสามารถกับเกลือ ซอสมิโซะ หรือซอสโชยุ ที่โรยด้วยกระเทียมซึ่งทางร้านทำเองได้ ในภาพเป็นเนื้อกวางที่เลี้ยงไว้บริโภค เรียกได้ว่าสดยิ่งกว่าสด!!

นอกจากนี้ใกล้ๆ กันกับ ร้าน Suzukaen หมู่บ้านเห็ด ยังมีสถานที่กางเต็นท์ ในป่าเขาแถมยังอยู่ริมธารน้ำใสสะอาดอีกด้วย นอกจากมีอาหารอร่อยๆ แล้วยังมีที่พักเหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติอีกด้วย แต่สถานที่กางเต็นท์จะปิดให้บริการในช่วงฤดูหนาวนะคะ

ร้าน Suzukaen หมู่บ้านเห็ด
ที่อยู่ : 178 Arakawaonobara, Chichibu, Saitama 369-1804
เบอร์โทรติดต่อ : 0494-54-1234
เวลาทำการ: 10 : 30 น. - 18 : 00 น. (L.O.17:00)
วันหยุด: ทุกวันอังคาร (เปิดทำการในวันหยุดนักขัตฤกษ์)



 

“ร้าน Asamireizo น้ำแข็งไสจากน้ำธรรมชาติ”



พูดถึงของคาวมา 2 ร้านแล้ว โบราณว่าไว้ กินของคาวแล้วต้องตบท้ายด้วยของหวาน ดังนั้นมาต่อกันที่ร้านที่ 3 กับ “เมนูน้ำแข็งไสจากน้ำแข็งธรรมชาติ” ซึ่งเป็นหนึ่งในของกินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากธรรมชาติของเมืองจิจิบุ น้ำแข็งธรรมชาติเป็นน้ำแข็งที่ถูกแช่แข็งอย่างช้าๆ ในความเย็นตามธรรมชาติ โดยการสูบน้ำที่มีคุณภาพ เช่น น้ำในฤดูใบไม้ผลิ มายังบ่อพักน้ำที่ถูกสร้างขึ้นในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ อย่างเช่น ภูเขา

ร้านอาหารที่เพื่อนๆ สามารถรับประทานน้ำแข็งไสที่ทำจากน้ำแข็งธรรมชาติได้ต้องขอแนะนำ ร้าน Asamireizo ซึ่งเคยเป็นโรงผลิตน้ำแข็งที่ก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยเมจิ ใน ค.ศ.1890 โดยเดินทางด้วยรถไฟจากสถานีเซอิบุ-โอฮะนะบะตะเคะ (Seibu-ohanabatake) มาลงที่สถานี คามิ-นะกะโทโระ (kami-nagatoro) ใช้เวลาประมาณ 20 นาที แล้วเดินต่ออีก 3 นาที



ที่นั่งก็มีทั้งแบบกลางแจ้งและในที่ร่มเพื่อให้เพื่อนๆ สามารถค่อยๆ สัมผัสกับรสชาติของน้ำแข็งไสแบบธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่นในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยป่าไม้ที่เขียวขจี



และนี่คือ “เมนูน้ำแข็งไส Kuramoto Hiden mitsu” ราคาอยู่ที่ 1,200 เยน (รวมภาษี) โดยน้ำหวานที่นำมาใช้ทำจาก น้ำตาลวะซังบง (Wasanbon) เป็นน้ำตาลญี่ปุ่นเนื้อละเอียด ซึ่งเคี่ยวกับน้ำธรรมชาติจนกลายเป็นน้ำเชื่อม จากนั้นทำให้เนื้อของน้ำเชื่อมกลายเป็นน้ำแข็งไสที่มีรสชาติ และยังมีน้ำตาลทรายแดงเชื่อมที่เข้ากันได้ดีกับน้ำแข็งธรรมชาติ สำหรับตัวท็อปปิ้งมีให้เลือก 3 อย่าง คือ ถั่วขาว ถั่วแดง และ ชาเขียว มาพร้อมกับน้ำตาลทรายแดงเชื่อมเพิ่มความหวานกลมกล่อม

น้ำแข็งไสของร้าน Asamireizo จะมีน้ำเชื่อมแยกให้รวมอยู่ในชุดด้วย เพื่อให้เพื่อนๆ สามารถเติมความหวานได้ตามใจชอบเลยย



“เมนู Matcha azuki เสิร์ฟพร้อมน้ำตาลทรายแดงเชื่อม” เป็นอีกเมนูหนึ่งที่ลูกค้าต่างชาตินิยมสั่งกันมากที่สุด ราคาอยู่ที่ 1,300 เยน (รวมภาษี) ราคานี้ประกอบไปด้วยตัวน้ำเชื่อมชาเขียว ถั่วแดงและน้ำตาลทรายแดงเชื่อม เกล็ดน้ำแข็งธรรมชาติล้วนๆ ให้ความรู้สึกนุ่มนิ่มราวกับหิมะ น่ารักแบบสุดๆ(>.<)



เอร็ดอร่อยไปกับน้ำเชื่อมหลากหลายรสชาติ เช่น สตรอเบอร์รี่ , แตงโม , ลูกพีชสีขาว , องุ่น และส้ม เป็นต้น ส่วนผสมและเมนูทั้งหมดนี้ไม่ใส่สารปรุงแต่ง ไม่ใส่สี ดังนั้นสีที่ออกมาทั้งหมดจึงเป็นสีธรรมชาติ และเป็นมิตรกับร่างกาย



มื่อเพื่อนๆ ตักน้ำแข็งไสขึ้นมาจะให้ความรู้สึกเหมือนไอศกรีมนุ่มๆ ที่แทบจะละลายในปาก สามารถเติมน้ำเชื่อมหรือน้ำตาลทรายแดงเชื่อมได้ตามใจต้องการ ให้เพื่อนๆ เพลิดเพลินไปกับรสชาติที่หอมหวานจนต้องกลับมาทานอีก

ร้าน Asamireizo
ที่อยู่ : 27-1 Kanasaki, Minano, Chichibu District, Saitama 369-1621
เบอร์โทรติดต่อ : 0494-62-1119 (อาจมีการตัดสายในช่วงเวลาที่มีลูกค้าเข้ามาเป็นจำนวนมาก)
เวลาทำการ: 10 : 00 น. - 16 : 30 น.
วันหยุด : ทุกวันพฤหัสบดี (ในฤดูร้อนเปิดให้บริการทุกวัน)




ถ้าหากเพื่อนๆ มีโอกาสไปเที่ยวจังหวัดไซตามะ อย่าลืมแวะไปลิ้มลองอาหารทั้ง 3 ร้าน ในเมืองจิจิบุกันด้วยนะคะ

ขอบคุณแหล่งข้อมูลและภาพประกอบจาก

livejapan