ตะลุย!! 15 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิต ในเมืองและรอบๆ โตเกียว

ฤดูกาลแห่งการชมใบไม้เปลี่ยนสียังไม่สิ้นสุด ก็แนะนำพิกัดน่าเช็คอินกันแบบรัว ๆ ไปเลยจ้า สำหรับใครที่ชอบท่องเที่ยวอยู่กับแสงสีของเมืองหลวงอย่างโตเกียว หรือชอบธรรมชาติแต่ไม่อยากเดินทางไกล ก็บอกได้เลยว่า แอดมินก็มีสถานที่ท่องเที่ยวในแบบที่คุณต้องการ สะดวกกับการเดินทาง และวิวธรรมชาติในฤดูใบไม้ร่วงที่คุณจะได้สัมผัสก็คุ้มค่าแน่นอน ไปดูกันเลยว่ามีที่ไหนกันบ้าง 

1. เมจิจินกุไกเอ็น - โตเกียว - (Meiji Jingu Gaien,Icho Namiki -Tokyo-)


ตะลุย!! 15 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิตไม่ไกลโตเกียว

อันนี้เรียกว่าต้องรู้จักกันอย่างแน่นอนล่ะ ถึงไม่เคยไปแต่น่าจะได้เห็นตามภาพยนตร์หรือว่าการโปรโมทท่องเที่ยวเพราะเป็นโลเคชั่นที่ฮิต ตลอดถนนที่ทอดยาว 300 เมตร ที่เรียงรายไปด้วยต้นแปะก๊วยที่กำลังเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองดูอบอุ่น กว่า 146 ต้น เมื่อมีลมกระทบใบก็จะปลิ้วร่วงลงมา กลายเป็นพรมสีเหลืองทอง ยิ่งถ้าได้มาเดินกับคนรู้ใจเนี่ย โรแมนติกสุด ๆ 

อ่านบทความเพิ่มเติม เกี่ยวกับ Meiji Jingu Gaien - Tokyo ได้ที่นี่ >>

ชมถนนสีเหลืองทองของต้นแปะก๊วยเปลี่ยนสี และอร่อยกับเทศกาลอาหารอิ่มจุใจที่ Meiji Jingu Gaien

**รายละเอียด**
ช่วงเวลาการชมใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายพฤศจิกายน - ต้นธันวาคม
ที่อยู่ : 2-1 Kita-Aoyama, Minato, Tokyo
เวลาทำการ : -
ค่าเข้า : -
การเดินทาง : สาย JR Chuo/Sobu ลงที่สถานี Shinanomachi, สถานี Sendagaya / สาย Tokyo Metro Ginza สาย Tokyo Metro Hanzomon และสาย Toei Subway Oedo ลงที่สถานี Aoyama-itchome ใช้เวลาเดินจากสถานีประมาณ 15 นาที
แผนที่ : 

2. สวนโคอิชิคาวะเอ็น  - โตเกียว - (Koishikawa Korakuen -Tokyo-)


ตะลุย!! 15 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิตไม่ไกลโตเกียว

หนึ่งในสวนเก่าแก่ที่หลงเหลือมาจากยุคสมัยเอโดะจากตระกูลโทคุกาวะ อยู่ติดกับโตเกียวโดม เดินทางสะดวกสบาย สามารถเดินจากสถานีอิดะบาชิหรือว่าโคระคุเอ็นได้เลย มีทั้งต้นอิโรฮะโมมิจิ, Zelkova และก็ต้นแปะก๊วยด้วย


**รายละเอียด**
ช่วงเวลาการชมใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายพฤศจิกายน - ต้นธันวาคม
ที่อยู่ : 6-6 Koraku, Bunkyo City, Tokyo 
เวลาทำการ : 9.00 – 17.00 น. 
ค่าเข้า : 300 เยน อายุ 65 ปีขึ้นไป 150 เยน
การเดินทาง : สาย JR Sob สาย Tokyo Metro Tozai สาย Yuraku-cho และสาย Namboku Line u  ลงที่สถานี Iidabashi Sta
แผนที่ :  

3. สวนริคุกิเอ็น  - โตเกียว - (Rikugien -Tokyo-)




อีกหนึ่งสถานที่ ๆ เรียกว่ายอดนิยมกันมาก ๆ เลยทีเดียวในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี สำหรับสวนริคุกิ ที่มีต้นอิโระคาเอเดะถึง 450 ต้น และต้นเมเปิ้ล ต้นแปะก๊วยอีก 600 ต้น เรียกได้ว่าเปลี่ยนสีทีนี่สวยงามมากๆ เลย และเขาก็ยังเก็บความสวยงามนี้ให้ชมตอนกลางคืนด้วย เพราะว่าจะมี Light Up หรือเปิดไฟส่องไปที่ต้นไม้นั่นเอง

**รายละเอียด**
ช่วงเวลาการชมใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายพฤศจิกายน - ต้นธันวาคม
ที่อยู่ : 16-3 Honkomagome, Bunkyo City, Tokyo
เวลาทำการ : 9.00 – 17.00 น. (Light up 9.00 – 21.00 น.)
ค่าเข้า : 300 เยน อายุ 65 ปีขึ้นไป 150 เยน
การเดินทาง : เดิน 7 นาทีจากสถานี JR Komagome
แผนที่ :

4. ถนนโคชูไคโด  - โตเกียว - (Koshu Kaido Ave -Tokyo-)




อีกหนึ่งถนนสายแปะก๊วยที่เรียงรายไปด้วยต้นแปะก๊วยมากถึง 763 ต้นบนความยาวถนน 4.2 กิโลเมตร เป็นทัศนียภาพที่สวยงามมาก ๆ ที่ย่านฮะจิโอจิเลยเลยล่ะ อีกทั้งยังมีการจัดงานเทศกาลต้นแปะก๊วยในทุก ๆ ปีอีกด้วย

อ่านบทความเพิ่มเติม เกี่ยวกับ Koshu Kaido Ave -Tokyo ได้ที่นี่ >>

เดินเพลิดเพลินชมต้นแปะก๊วยที่เรียงรายบนเส้นทาง Koshu Kaido และ Tamagoryu

**รายละเอียด**
ช่วงเวลาการชมใบไม้เปลี่ยนสี :  กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
ที่อยู่ : 3-chome Sennincho, Hachioji, Tokyo
เวลาทำการ : -
ค่าเข้า : -
การเดินทาง : รถไฟสาย JR Chuo Lineจากสถานี JR Shinjuku ลงที่สถานี Nishi-Hachioji
แผนที่ :

5. สวนโยโยงิ  - โตเกียว - (Yoyogi Park -Tokyo-) 




สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมือง ตั้งอยู่ข้างๆ สถานีฮาราจุกุ พรั้งพร้อมไปด้วยต้น zelkova จำนวน 1,000 ต้น ต้นแปะก๊วย 200 ต้น เมเปิ้ล 100 ต้น 6 สายพันธุ์ และอื่นๆ บนเนื้อที่ 540,000 ตาราเมตร ซึ่งต้นที่ใบไม้เปลี่ยนสีได้จะมีมากมายถึง 1,300 ต้นเลยล่ะ เดินทางกันได้สะดวก ชมกันได้สบายแบบนี้เห็นทีต้องไม่พลาดแล้วล่ะ

**รายละเอียด**
ช่วงเวลาการชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
ที่อยู่ : 2-1 Yoyogi kamizono, Shibuya, Tokyo
เวลาทำการ : -
ค่าเข้า : -
การเดินทาง : จากสถานี JR ชินจูกุ ใช้เวลาเดิน 3 นาที / สาย Tokyo Metro Chiyoda Line ลงที่สถานี Yoyogi Park ใช้เวลาเดิน 5 นาที
แผนที่ : 

6. โชวะเมมโมเรียลพาร์ค - โตเกียว - (Showa Memorial Park -Tokyo-)




ใครที่ชื่นชอบการชมดอกไม้นานาพันธุ์ก็ต้องมาที่นี่เลย สวนโชวะเมมโมเรียลพาร์ค ที่ถูกสร้างเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 50 ปีของจักรพรรดิโชวะ คุณสามารถเช่าจักรยานชมความงดงามของใบแปะก๊วย โมมิจิของสวนแห่งนี้ ที่มีพื้นที่ถึง 11 กิโลเมตร หากใครที่ต้องการพักผ่อน สวนแห่งนี้ก็เหมาะมากเลยล่ะ

อ่านบทความเพิ่มเติม เกี่ยวกับ Showa Memorial Park - Tokyo ได้ที่นี่ >>

สัมผัสฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแสนงามในโตเกียว

**รายละเอียด**
ช่วงเวลาการชมใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนตุลาคม –  ปลายเดือนพฤศจิกายน
ที่อยู่ : 3173 Midoricho, Tokyo
เวลาทำการ : 9:30-17:00 น.
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ (อายุ 15 ปีขึ้นไป) 410 เยน / เด็ก (เด็กประถมและมัธยมต้น) 80 เยน
การเดินทาง : สาย JR Chuo หรือ JR Ome จากสถานีสถานีโตเกียว ลงสถานี Nishi-Tachikawa เดินต่ออีก 2 นาที
แผนที่ :


7. ภูเขาทาคาโอะ - โตเกียว - (Mount Takao -Tokyo-) 




สถานที่ครบเครื่องเรื่องพักผ่อนหย่อนใจ เต็มอิ่มกับธรรมชาติอันสวยงาม ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของนก 100 สายพันธุ์, แมลงกว่า 5,000 สายพันธุ์ และมีต้นไม้กว่า 1,200 ชนิด ซึ่งช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่นี่ก็จะได้รับความนิยมมาก ๆ ในการมาชมใบไม้แดง ซึ่งก็จะมีกิจกรรมต่าง ๆ ไว้รองรับมากมาย เช่น การปีนเขาชมธรรมชาติ ตั้งแคมป์ รวมถึงการตกปลาก็ยังมี ใครที่ได้แวะผ่านย่านฮะจิโอจิขอบอกว่าไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

อ่านบทความเพิ่มเติม เกี่ยวกับ Mount Takao - Tokyo ได้ที่นี่ >>

ชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Mt.Takao ใกล้โตเกียว แถมได้ดูฟูจิซังด้วย

**รายละเอียด**
ช่วงเวลาการชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน – ปลายเดือนพฤศจิกายน
ที่อยู่ : Takaomachi, Hachioji, Tokyo
เวลาทำการ : -
ค่าเข้า : -
การเดินทาง : สาย Keio Takao ลงที่สถานี Keiosanguchi
แผนที่ : 

8. หุบเขามิตาเกะ  - โตเกียว - (Mitake Valley -Tokyo-)




หุบเขามิตาเกะอยู่ในอุทยานแห่งชาติจิจิบุ ทามะ คะอิ แหล่งที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติเช่นนี้อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 2 ชั่วโมง คุณก็จะได้สัมผัสบรรยากาศเลียบริมแม่น้ำทามะ นอกจากการชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี ก็มีกิจกรรมอย่างการเดินป่า การปีนเขา และล่องแก่งให้คุณได้สนุกสนานอีกด้วย

**รายละเอียด**
ช่วงเวลาการชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน – ปลายเดือนพฤศจิกายน
ที่อยู่ : Mitakesan, Ome, Tokyo
เวลาทำการ : -
ค่าเข้า : -
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Shinjuku ลงสถานีรถไฟ Mitake
แผนที่ : 

9. ถนนสายอิโระฮะซากะ -นิกโก้- (Irohazaka Winding Road -Nikko-)




ถนนท่องเที่ยวที่เชื่อมกับเมืองนิกโก้ เส้นทางที่คดเคี้ยวไปมานี้ คุณจะได้ขับรถและชมใบไม้เปลี่ยนสีตามข้างทางได้อย่างจุใจ ด้วยระยะทาง 350 กิโลเมตร เป็นสิ่งที่น่าไปสัมผัสสักครั้ง ถนนเส้นนี้ถือเป็นสีสันแห่งฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงเลยนะ หากได้เดินทางไปนิกโก้ แนะนำว่าคุณไม่ควรพลาดที่จะลองไป 

อ่านบทความเพิ่มเติม เกี่ยวกับ Irohazaka Winding Road - Nikko ได้ที่นี่ >>

อิโรฮะซะกะ สีสันแห่งฤดูใบไม้ผลิ

**รายละเอียด**
ช่วงเวลาการชมใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนตุลาคม –  ต้นเดือนพฤศจิกายน|
ที่อยู่ : Hosoomachi, Nikko, Tochigi
เวลาทำการ : -
ค่าเข้า : -
การเดินทาง : จากสถานี JR สถานีTobu Nikko ขึ้นรถบัส Tobu ที่มุ่งหน้าไปยัง Chuzenjiko Onsen หรือ Yumoto Onsen ลงที่ป้าย Akechidaira ใช้เวลา 35 นาที ราคา 1,100 เยน
แผนที่ :

10. น้ำตกเคกอน -นิกโก้-  (Kegon Waterfall -Nikko-)




น้ำตกที่สวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งหนึ่งของนิกโก้ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ สายน้ำที่หลั่งไหลจากทะเลสาบด้วยความสูง 100 เมตร ได้สร้างความชุ่มชื่น ดูมีชีวิตชีวาให้กับผืนป่าอย่างมาก มันเป็นธรรมชาติที่ควรค่าแก่การไปเยือนสักครั้ง

**รายละเอียด**
ช่วงเวลาการชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนตุลาคม – ปลายเดือนตุลาคม
ที่อยู่ : Chugushi, Nikko, Tochigi
เวลาทำการ : (มีนาคม/เมษายน/พฤศจิกายน) 8:00 - 17:00 น.
(พฤษภาคม - กันยายน) 7:30 - 18:00 น.
(ตุลาคม) 7:30 - 17:00 น.
(ธันวาคม - มีนาคม) 9:00 - 16:30 น.
ค่าเข้า : 550 เยน
การเดินทาง : นั่งรถบัสจาก JR สถานี  Tobu Nikko ไป Chuzenjiko Onsen ใช้เวลาประมาณ 50 นาที ราคา 1,150 เยน
แผนที่ : 


11. มรดกโลก นิกโก้  (World Heritage Site -Nikko-)




นิกโก้เป็นเมืองมรดกโลกที่มีความสวยงามทางวัฒนธรรมในด้านสถาปัตยกรรมตามวัดและศาลเจ้าอยู่หลายแห่ง เช่น วัดรินโนจิ ศาลเจ้าโทโชกุ ศาลเจ้าฟุตะระซัง และวัดไทยูอิน ที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นที่หาชมได้ยาก อย่างอาคารแกะสลักไม้ การลงลายไม้ด้วยสีทอง ไปชมสักครั้งแล้วคุณจะไม่ผิดหวังเลย คุณสามารถเที่ยวชมเขตมรดกโลกในนิกโก้ด้วยรถบัส Nikko World Heritage ได้อย่างสะดวกสบาย ไฮไลท์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่คุณมานิกโก้แล้วไม่ควรพลาด คือ สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge) เป็นสะพานไม้สีแดงโบราณที่คุณสามารถชมความสวยงามของใบไม้หลากสีได้อย่างดงาม และเป็นมุมถ่ายภาพที่ดีมาก ๆ เลยล่ะ นอกจากนี้สะพานนี้ยังเชื่อมต่อกับวัดและศาลเจ้าที่เป็นมรดกโลกแห่งนิกโก้อีกด้วย

อ่านบทความเพิ่มเติม เกี่ยวกับ World Heritage Site - Nikko ได้ที่นี่ >>

ทริปแสวงบุญ ณ Nikko

**รายละเอียด**
ช่วงเวลาการชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนตุลาคม –  ปลายเดือนตุลาคม
ที่อยู่ : Sannai,kamihatsuishimachi, Nikko, Tochigi
เวลาทำการ : (เมษายน - กันยายน) 8.00 ถึง 17.00 น.
(ตุลาคม - กลางเดือนพฤศจิกายน) 8.00 - 16.00 น.
(กลางเดือนพฤศจิกายน - มีนาคม) 9. 00-16. 00 น.
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 300 เยน / นักเรียนมัธยมปลาย 200 เยน / นักเรียนประถม-มัธยมต้น 100 เยน
การเดินทาง : จากสถานี Nikko, JR Nikko Line ต่อรถบัสไปลงที่ Shinkyo bus stop ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ค่าโดยสาร 200 เยน หรือสามารถใช้ World Heritage bus แบบ One day pass ราคา 500 เยน
แผนที่ : 

12. ทะเลสาบอะชิ -ฮาโกเน่- (Lake Ashi -Hakone-)




ทะเลสาบที่มีภูมิทัศน์ที่สวยงามแห่งฮาโกเน่ที่แห่งนี้คุณสามารถล่องเรือ เพื่อเที่ยวชมความสวยงามของภูเขา และสายน้ำ ท่ามกลางบรรยากาศฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ในระหว่างที่ล่องเรือคุณก็เก็บภาพภูเขาไฟฟูจิได้ด้วยนะ แม้มันจะเห็นอยู่ไกล ๆ แต่ก็ได้ความประทับในอีกแบบ

อ่านบทความเพิ่มเติม เกี่ยวกับ Lake Ashi - Hakone ได้ที่นี่ >>

“Hakone Sightseeing Cruise” ตื่นตา ตื่นใจ ไปกับ การล่องเรือโจรสลัดท่องทะเลสาบอาชิ

**รายละเอียด**
ช่วงเวลาการชมใบไม้เปลี่ยนสี : ต้นเดือนพฤศจิกายน - กลางเดือนพฤศจิกายน
ที่อยู่ : Motohakone, Hakone-Ashigarashimo, Kanagawa
เวลาทำการ : -
ค่าเข้า : -
การเดินทาง : จาก Hakone-Yumoto โดยสารรถบัส ใช้เวลา 35 นาที 960 เยน
แผนที่ : 

13. รถไฟสายฮาโกเน่โทซัง -ฮาโกเน่- (Hakone Tozan Railway -Hakone-)




การเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ฮาโกเน่มีหลากหลายวิธี อีกวีธีหนึ่ง คือ การนั่งรถไฟสายฮาโกเน่โทซัง เพื่อเที่ยวชมธรรมชาติในฤดูใบไม้ร่วงที่ตลอดเส้นทางจะเต็มไปด้วยธรรมชาติที่ร่มรื่น และเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ หรือนั่งรถบัสไปชมอีกไฮไลท์ตรงสะพานเหล็กสีเขียว ที่รถไฟขบวนนี้จะวิ่งผ่าน ซึ่งคุณจะได้เห็นบรรยากาศใบไม้สีต่าง ๆ ท่ามกลางทุบเขา มันเป็นภาพที่คุณห้ามพลาดเลยนะ

อ่านบทความเพิ่มเติม เกี่ยวกับ Hakone Tozan Railway - Hakone ได้ที่นี่ >>

สัมผัสธรรมชาติแสนสวย พร้อมทำกิจกรรมสุดสนุกที่ Hakone

**รายละเอียด**
ช่วงเวลาการชมใบไม้เปลี่ยนสี :  กลางเดือนพฤศจิกายน - ปลายเดือนพฤศจิกายน
ที่อยู่ : Ohiradai, Hakone-machi,  Ashigarashimo District, Kanagawa
เวลาทำการ : -
ค่าเข้า : *ราคาตั๋วขึ้นอยู่กับสถานีปลายทาง
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR ชินคันเซนจากสถานี Tokyo มาลงที่สถานี Odawara ใช้เวลาประมาณ 35 นาที จากนั้นเปลี่ยนเป็น Tozan Railway ไปยังสถานี Hakone-Yumoto อีกประมาณ 20 นาที ราคาค่าโดยสาร Tozan Railway 310 เยน
แผนที่ : 

14. พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮาโกเน่ -ฮาโกเน่- (Hakone Museum of Art -Hakone-)




พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮาโกเน่ ตั้งอยู่ในจังหวัดคานากาวะ เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่เต็มไปด้วยความร่มรื่นจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะมาเที่ยวชมในฤดูไหนที่แห่งนี้ก็สวยงามเสมอ และแน่นอนว่ายิ่งอยู่ท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสีกับการเดินชมสวนก็เปรียมเหมือนชมงานศิลปะอีกชิ้นหนึ่งเลยล่ะ

**รายละเอียด**
ช่วงเวลาการชมใบไม้เปลี่ยนสี : ต้นเดือนพฤศจิกายน - กลางเดือนพฤศจิกายน
ที่อยู่ : 1300 Gora, Hakone, Ashigarashimo District, Kanagawa
เวลาทำการ : 9:30 - 16:30 น.
ค่าเข้า : 900 เยน
การเดินทาง : จากสถานี Gora Station เดินขึ้นเนินไปประมาณ 10 นาที
แผนที่ : 

15. อุโมงค์ใบไม้แดง ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Maple Corridor -Kawaguchiko Lake-)




ทะเลสาบคาวากุจิโกะ อยู่ภายในอุทยานแห่งชาติฟูจิฮาโกเนอิซุ จังหวัดยามานาชิ ที่คุณสามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิในมุมที่ยอดเยี่ยม ไฮไลท์ของที่นี่คือ อุโมงค์ใบเมเปิ้ลแดง 「Maple Corridor」คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติและบรรยากาศที่ผ่อนคลาย โดยตลอดทางเดินการเที่ยวชม ทั้ง 2 ข้างของถนนเส้นนี้จะมีต้นเมเปิ้ลเรียงกันเป็นแถวยาว และในยามค่ำคืนก็มีการจัด Light Up มันเป็นความสวยงามที่โรแมนติกมากเลย

อ่านบทความเพิ่มเติม เกี่ยวกับ Kawaguchiko Lake ได้ที่นี่ >> 

งานเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีที่คาวากูจิโกะ 2019 (Fujikawaguchiko Autumn Leaves Festival 2019)

**รายละเอียด**
ช่วงเวลาการชมใบไม้เปลี่ยนสี :  ต้นเดือนพฤศจิกายน – ปลายเดือนพฤศจิกายน
ที่อยู่ : Kawaguchiko Lake, Fujikawaguchiko, Minamitsuru-gun,Yamanashi
เวลาทำการ : 9:00 - 19:00 น. (Light Up : 16:30 - 22:00 น.)
ค่าเข้า : -
การเดินทาง : นั่งรถ Retro Bus (รอบทะเลสาบคาวากุจิโกะ ) จากสถานี Kawaguchiko  ให้ลงที่ป้ายพิพิธภัณฑ์ศิลปะอิตจิคุ คูโบตะ (Kubota Itchiku Art Museum) (25 นาที) หรือ ลงที่ป้ายโรงละคร  Monkey Show Theater ก็ได้ (25 นาที) / รถบัสจากสำนักงานขายตรงสินค้าเกษตรโยโดงาวะ – สถานีฟูจิ ให้ลงป้ายหน้า พิพิธภัณฑ์ศิลปะอิตจิคุ คูโบตะ (Hirose Kubota Itchiku Kinenkan Mae)  ซึ่งเป็นอีกฝั่งหนึ่งของอุโมงค์เมเปิ้ล
แผนที่ :

บรรยากาศแต่ละที่เนี่ยสวยจนเลือกไม่ถูกเลยใช่มั้ยว่าจะไปที่ไหนก่อนดี งั้นไปทุกที่เลยดีมั้ยน้า ^0^ แต่บอกเลยว่าถ้าคุณชอบญี่ปุ่นเพราะธรรมชาติ การไปชมใบไม้เปลี่ยนสีของเหล่าเมเปิ้ล แปะก๊วยเนี่ย ไม่ควรพลาดนะจ๊ะ!! หรือเพื่อน ๆ คนไหนที่มีแพลนออกทริปต่างจังหวัดด้วยแล้วอยากชมใบไม้เปลี่ยนสีเหมือนกัน ก็เข้าไปดูสถานที่แนะนำสำหรับฤดูใบไม้ร่วงกันได้ที่ JGBThai ไว้เป็นคู่มือในการท่องเที่ยวของคุณได้

 

ที่มา : www.www.jgbthai.com/tokyo , travel.rakuten.co.jp , daisukijapan.tv , www.japan-guide.com