คดีปริศนาที่ยังคงไขไม่กระจ่าง นับว่าเป็นเรื่องที่หายากนักในประเทศญี่ปุ่น มีรายงานว่าการก่ออาชญากรรมรุนแรงเกิดขึ้นน้อยมาก อัตราการฆาตกรรมต่ำกว่า 1 ต่อ 100,000 คนเลยก็ว่าได้ การฆาตกรรม การหายตัวไป และความลึกลับอื่น ๆ ที่ยังคงไขปริศนาไม่ได้ ถือเป็นเรื่องแปลกประหลาดจากดินแดนอาทิตย์อุทัยที่น่าสนใจที่สุด คดีลึกลับเหล่านี้ยังคงไม่ได้รับคำตอบกว่าหลายทศวรรษ และบางทีเราอาจจะไม่สามารถหาคำตอบได้
หากเพื่อน ๆ ชื่นชอบเรื่องคดีปริศนา เราได้นำเอาเรื่องราวทั้ง 12 เรื่องมาให้อ่านด้วยค่ะ
Photo: Unknown / Wikimedia Commons / CC BY-SA 3.0
เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ปี 2000 ได้เกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมที่น่าสยดสยองขึ้นในเขตเซตะกายะของโตเกียว คืนนั้นมิคิโอะ มิยาซาวะ วัย 44 ปี, ยาสุโกะ มิยาซาวะ วัย 41ปี และลูกๆของพวกเขา ลูกสาว นีน่า อายุ 10 ขวบ และ ลูกชาย เรย์ อายุ 6 ขวบ ถูกฆาตกรรมอย่างสลดสยองโดยลูกชายเสียชีวิตจากการรัดคอ ส่วนที่เหลืออีก 3 คนถูกของมีคมแทงจนเสียชีวิต ผลจากการตรวจสอบลายนิ้วมือและหลักฐานอื่นๆ พบว่าหลังจากก่อฆาตกรรม คนร้ายยังใช้คอมพิวเตอร์ และทานไอศกรีมอยู่ภายในบ้านหลังนี้เป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนจากไปในเช้าวันรุ่งขึ้น แม้จะพบหลักฐานมากมายรวมถึงดีเอ็นเอของฆาตกร แต่ตำรวจก็ยังไม่สามารถจับกุมฆาตกรได้
Photo:news-postseven.com
คดีของเว็บไซต์ท่องเที่ยวผีสิงเล่าว่า ในช่วงปี 1988 มีชายคนหนึ่งได้กลับมาที่อพาร์ทเมนต์ที่นาโกย่าและพบว่าประตูไม่ได้ล็อค ไฟก็ปิดมืดสนิท หลังจากเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ เขาจึงรีบวิ่งไปดูก็พบกับร่างภรรยาที่ตั้งครรภ์มีแผลถูดกรีดที่ท้อง ส่วนลูกถูกนำออกมาจากตัวภรรยาโดยตัดสายสะดือและถูกวางไว้อยู่ตรงปลายเท้าของภรรยา ร่างของภรรยาของเขาถูกจับมัดและรัดคอจนเสียชีวิตก่อนที่ฆาตกรจะลงมือผ่าท้องนำลูกออกมา แม้กระทั่งตัดสายสะดือ ลูกของเขารอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ แต่ไม่พบฆาตกร โดยทางตำรวจได้ปกปิดรายชื่อของเหยื่อเป็นความลับ
Photo: J. Petersen / Wikimedia Commons / CC BY-SA 3.0
ในปี 1994 มีพนักงานทำความสะอาดสวนอิโนะคาชิระของโตเกียว พบกับถุงขยะที่ภายในมีชิ้นส่วนมนุษย์ 24 ชิ้นรวมทั้งแขนและขา อวัยวะแต่ละชิ้นถูกตัดเหลือขนาด 20 ซม. แต่ไม่พบศรีษะ และแม้ว่าการชันสูตรศพจะไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ ศพถูกระบุว่าคือคุณเซจิ คะวะมูระ ซึ่งคดียังไม่สามารถคลี่คลายได้
Photo: Yukinobu / Wikimedia Commons / Public domain
เมื่อวันที่ 21 เมษายน ในปี 1996 มีกลุ่มนักเรียนม.ต้นกลุ่มหนึ่งไปพบเข้ากับถุงใต้กอไผ่ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตฮากะ จังหวัดโทจิงิ หลังจากเอาไม้จิ้มกระเป๋าพวกเขาก็พบว่ามีศพอยู่ โดยมีการชันสูตรศพพบว่าชายคนนี้เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 เดือน หลังจากหลังจากนั้นคดีนี้ก็ยังไม่สามารถระบุตัวตนและจับคนร้ายที่ทำได้
Photo: Japanexperterna.se / Flickr / CC BY-SA 2.0
ระหว่างปี 1975 - 1989 ได้มีการฆาตกรรมที่ยังไม่คลี่คลายทั้งหมด 7 คดีในจังหวัดซากะซึ่งเชื่อกันว่าเกี่ยวข้องกัน โดยเหยื่อ 5 รายถูกรัดคอจนเสียชีวิต ส่วนอีก 2 รายถูกพบเป็นศพเน่าเปื่อยแล้ว จึงยากที่จะระบุสาเหตุการตายได้ โดยเหยื่อทั้ง 6 รายมักจะหายตัวไปในวันพุธและเหยื่อทั้งหมดเป็นผู้หญิงอายุระหว่าง 11 - 50 ปี แต่ก็ยังไม่เคยมีการจับกุมใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมนี้
Photo: Unknown / Max Pixel / Public Domain
เมื่อวันที่ 29 เมษายน ในปี 2005 ยูกิ โอนิชิ เด็กสาววัย 5 ขวบ กำลังขุดหน่อไม้เพื่อนำไปเฉลิมฉลอง Greenery Day (วันสีเขียว) หรือวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ หลังจากที่เจอหน่อไม้หน่อแรก เธอก็เอามาอวดแม่ของเธอ และวิ่งกลับไปขุดหาอีก ผ่านไปประมาณ 20 นาที แม่ของเธอจึงรู้ว่าเธอไม่ได้อยู่กับคนขุดหน่อไม้คนอื่น ๆ จึงได้เริ่มออกค้นหาตัวเธอ โดยใช้สุนัขตำรวจในการดมกลิ่น จนมาถึงจุดหนึ่งในป่าใกล้ ๆ สุนัขทั้ง 4 ตัววิ่งมาจบอยู่ตรงที่จุดเดียวกันแต่กลับไม่พบร่องรอยของยูกิอีกเลย ราวกับว่าเธอจางหายไปพร้อมกับสายลม
7.ครูโรงเรียนอนุบาลทามะ หายตัวปริศนา
Photo: Daderot / Wikimedia Commons / Public Domain
เมื่อวันที่ 14 มกราคม 1997 คนงานเทศบาลเมืองทามะกำลังทำงานกับท่อระบายน้ำล้น แต่พวกเขากลับพบสิ่งที่กลายเป็นต้นตอของปัญหาในการระบายน้ำ นั่นคือศพที่เน่าเปื่อย โดยทางนิติเวชระบุว่าศพจมูกหักและกะโหลกร้าว บันทึกของทางทันตกรรมระบุว่าศพคือ ฟุคิโคะ ยากิฮะชิ ครูอนุบาลที่หายตัวไปเมื่อ 1 ปีก่อน ปัจจุบันคดีนี้ยังไม่สามารถไขคดีได้
Photo: seigi003.blog40.fc2.com/blog-entry
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 1979 ผู้หญิง 2 คนที่มีชื่อว่า เคโกะ มิซุโนะ วัย 32 ปี และ ฮิเดะโกะ อาคะชิ วัย 43 ปี ได้เดินทางไปที่ภูเขาโนะฮาระเพื่อไปเก็บเฟิร์น 2 วันให้หลังก็พบร่างไร้วิญญาณพร้อมร่องรอยการถูกทุบตีอย่างโหดเหี้ยม ศพของมิซุโนะถูกกระหน่ำแทงกว่า 50 ครั้ง และศพของอาคะชิถูกแทงกว่า 30 ครั้ง ทั้งคู่ถูกตัดที่เอ็นร้อยหวาย ในขณะที่มิซุโนะถูกบีบคอจนตายพร้อมกับถูกถอดกางเกงออก และถูกกระทำชำเราด้วยใช้กิ่งไม้
ตำรวพบมีดถูกทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ และระหว่างการสืบสวนก็มีการพบคราบอสุจิบนกางเกงของอาคะชิ ในกระเป๋ากางเกงอาคะชิ ก็พบกระดาษใบเสร็จที่มีข้อความเขียนไว้ว่า “เราถูกสะกดรอยตาม ช่วยฉันด้วย ผู้ชายคนนี้เป็นคนไม่ดี” แม้จะมีเบาะแสและหลักฐาน แต่ก็ไม่ยังไม่สามารถระบุตัวตนของฆาตกรได้
Photo: Kitagawa Utamaro / Wikimedia Commons / Public Domain
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 1998 อิชิจูโระ นากาซาวะ วัย 58 ปี ได้ดื่มชาอู่หลง 1 กระป๋อง พร้อมอาหารเช้า แต่เมื่อถึงโรงพยาบาลเขาหัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิตในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงหลังอาหารเช้า ทำเอาแพทย์งงเลยว่าคนที่มีสุขภาพดีแบบเขา จะเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้อย่างไร
เช้าวันรุ่งขึ้นผู้จัดการร้านขายของชำ ที่นากาซาวะได้ซื้อชาอู่หลงและสังเกตเห็นบางอย่างแปลก ๆ ที่กระป๋องชาบางส่วนถูกงัดแงะ ปรากฏว่ากระป๋องเหล่านี้มีรูเล็ก ๆ และก้นกระป๋องมีร่องรอยถูกปิดด้วยกาว จากการวินิฉัยพบว่าในแต่ละกระป๋องมีไซยาไนด์ 5 กรัม จากนั้นตำรวจพบว่าในกระป๋องชาอู่หลงที่เหลืออยู่มีไซยาไนด์ด้วย โดยนากาซาวะเป็นเพียงคนเดียวที่ดื่มชาที่ถูกวางยาพิษ แต่ไม่พบผู้วางยาพิษแต่อย่างใด
Photo: Jeremy Halls / Flickr / CC BY-SA 2.0
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ในปี 1984 พบเด็กหญิงวัย 2 ขวบ ชื่อมากิโกะ สึชิยามะ นอนคว่ำหน้าอยู่ในคูระบายน้ำในซอยหลังบ้านของเธอ เธอหมดสติและดูเหมือนว่าเธอถูกสายไฟรัดคอ โดย 9 ชม.ต่อมาเธอได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
สิ่งที่ทำให้คดีนี้แปลกมากขึ้นคือ สึชิยามะถูกพบว่าหมดสติในสถานที่เดียวกันกับเมื่อเดือนก่อนเกิดเหตุ แต่เธอรอดชีวิตมาได้ในครั้งนั้น และคิดว่าเป็นอุบัติเหตุ ทางตำรวจสันนิษฐานว่าสึชิยามะถูกมัดด้วยเชือกไวนิลที่อยู่หน้าประตูบ้านของเธอเอง
หลังจากเกิดเหตุการณ์แรกไม่นานปู่ของสึชิยามะได้รับโทรศัพท์แปลก ๆ จากผู้หญิงคนหนึ่ง เธอร้องไห้และพูดจาไม่รู้เรื่อง ก่อนที่เธอจะพูดคำว่า “ฉันขอโทษ” แล้วก็วางสายไป ทั้งนี้ยังไม่สามารถระบุตัวคนที่โทรมาและฆาตกรได้เลย
Photo: Nils Dardel / Wikimedia Commons / Public Domain
ในปี 1992 ระหว่างเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม พบวัยรุ่น 5 คน ได้ฆ่าตัวภายใต้สถานการณ์ที่น่าสงสัยในเมืองคุมาโตริ จังหวัดโอซาก้า โดย 3 คนเป็นเพื่อนกันและรู้จักกับอีก 2 คนที่เสียชีวิตเมื่อหลายเดือนก่อน ก่อนที่จะได้รับอุบัติเหตุผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เกี่ยวข้องกับการใช้สารเสพติดทินเนอร์
โดยมีข้อเท็จจริงแปลก ๆ มากมายเกี่ยวข้องกับการฆ่าตัวตาย ผู้เสียชีวิตทั้ง 7 รายเสียชีวิตอยู่ห่างกันไม่เกิน 0.7 ไมล์และวัยรุ่นทั้ง 5 คนอยู่แก๊งมอเตอร์ไซค์เดียวกัน หนึ่งในคนที่ฆ่าตัวตายนั้นแขวนคอตัวเอง รอยเชือกเหมือนถูกรัดคอมากกว่าการฆ่าตัวตาย นอกจากนี้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิตจากบาดแผลถูกแทงที่คอและหน้าอกซึ่งเป็นวิธีการฆ่าตัวตายที่แปลกและถูกพูดถึงน้อยที่สุด มีรายงานว่าวัยรุ่นหลายคนถูกสะกดรอยตามก่อนเสียชีวิต
Photo :japanoholic.dk/historie
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 1989 ชินยะ มัตสึโอกะ วัย 4 ขวบ ได้ไปเดินเล่นกับพ่อแม่พี่น้องและพี่น้องของเขา เมื่อกลับถึงบ้าน มัตสึโอกะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวที่สนามหญ้าหน้าบ้านเป็นเวลาประมาณ 40 วินาทีในขณะที่พ่อแม่ของเธออุ้มน้องชายกับพี่สาวของเขาเข้าไปข้างใน ในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ มัตสึโอกะก็หายตัวไป
ทางตำรวจได้ออกค้นหาอย่างกว้างขวางแต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ เบาะแสเดียวคือโทรศัพท์แปลก ๆ ที่โทรบอกพ่อแม่ของมัตสึโอกะว่า ลูกคุณต้องชำระค่าใช้จ่ายในส่วนของโรงเรียนอนุบาล แต่ไม่มีการชำระเงินใด ๆ เลย ซึ่งไม่สามารถระบุได้ว่าโทรศัพท์ดังกล่าว เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปอย่างไร
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีรายงานการพบเห็นมัตสึโอกะมากมาย แต่ก็ไม่มีใครระบุว่าพบเขาได้ที่ไหน หนึ่งในทฤษฎีเชื่อว่าเขาถูกลักพาตัวโดยสายลับของเกาหลีเหนือ แม้เรื่องนี้จะฟังดูเป็นเรื่องไกลตัว แต่ก็มีเอกสารแสดงให้เห็นถึงการลักพาตัวของชาวเกาหลีเหนือที่เกิดขึ้นหลายกรณีในปี 1970 และ 1980
ขอบคุณข้อมูลจาก
www.ranker.com
หากเพื่อน ๆ ชื่นชอบเรื่องคดีปริศนา เราได้นำเอาเรื่องราวทั้ง 12 เรื่องมาให้อ่านด้วยค่ะ
1.การฆาตกรรมยกครอบครัวในเซตะงายะโตเกียว
Photo: Unknown / Wikimedia Commons / CC BY-SA 3.0
เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ปี 2000 ได้เกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมที่น่าสยดสยองขึ้นในเขตเซตะกายะของโตเกียว คืนนั้นมิคิโอะ มิยาซาวะ วัย 44 ปี, ยาสุโกะ มิยาซาวะ วัย 41ปี และลูกๆของพวกเขา ลูกสาว นีน่า อายุ 10 ขวบ และ ลูกชาย เรย์ อายุ 6 ขวบ ถูกฆาตกรรมอย่างสลดสยองโดยลูกชายเสียชีวิตจากการรัดคอ ส่วนที่เหลืออีก 3 คนถูกของมีคมแทงจนเสียชีวิต ผลจากการตรวจสอบลายนิ้วมือและหลักฐานอื่นๆ พบว่าหลังจากก่อฆาตกรรม คนร้ายยังใช้คอมพิวเตอร์ และทานไอศกรีมอยู่ภายในบ้านหลังนี้เป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนจากไปในเช้าวันรุ่งขึ้น แม้จะพบหลักฐานมากมายรวมถึงดีเอ็นเอของฆาตกร แต่ตำรวจก็ยังไม่สามารถจับกุมฆาตกรได้
2.หญิงตั้งครรภ์ถูกฆาตกรรมโดยผ่าเอาเด็กออกจากท้องในนาโกย่า
Photo:news-postseven.com
คดีของเว็บไซต์ท่องเที่ยวผีสิงเล่าว่า ในช่วงปี 1988 มีชายคนหนึ่งได้กลับมาที่อพาร์ทเมนต์ที่นาโกย่าและพบว่าประตูไม่ได้ล็อค ไฟก็ปิดมืดสนิท หลังจากเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ เขาจึงรีบวิ่งไปดูก็พบกับร่างภรรยาที่ตั้งครรภ์มีแผลถูดกรีดที่ท้อง ส่วนลูกถูกนำออกมาจากตัวภรรยาโดยตัดสายสะดือและถูกวางไว้อยู่ตรงปลายเท้าของภรรยา ร่างของภรรยาของเขาถูกจับมัดและรัดคอจนเสียชีวิตก่อนที่ฆาตกรจะลงมือผ่าท้องนำลูกออกมา แม้กระทั่งตัดสายสะดือ ลูกของเขารอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ แต่ไม่พบฆาตกร โดยทางตำรวจได้ปกปิดรายชื่อของเหยื่อเป็นความลับ
3.ฆ่าหมกศพใส่กระเป๋าที่สวนสาธารณะอิโนะคาชิระ
Photo: J. Petersen / Wikimedia Commons / CC BY-SA 3.0
ในปี 1994 มีพนักงานทำความสะอาดสวนอิโนะคาชิระของโตเกียว พบกับถุงขยะที่ภายในมีชิ้นส่วนมนุษย์ 24 ชิ้นรวมทั้งแขนและขา อวัยวะแต่ละชิ้นถูกตัดเหลือขนาด 20 ซม. แต่ไม่พบศรีษะ และแม้ว่าการชันสูตรศพจะไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ ศพถูกระบุว่าคือคุณเซจิ คะวะมูระ ซึ่งคดียังไม่สามารถคลี่คลายได้
4.คดีฆาตกรรมและทิ้งศพชายปริศนาในจังหวัดโทจิงิ
Photo: Yukinobu / Wikimedia Commons / Public domain
เมื่อวันที่ 21 เมษายน ในปี 1996 มีกลุ่มนักเรียนม.ต้นกลุ่มหนึ่งไปพบเข้ากับถุงใต้กอไผ่ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตฮากะ จังหวัดโทจิงิ หลังจากเอาไม้จิ้มกระเป๋าพวกเขาก็พบว่ามีศพอยู่ โดยมีการชันสูตรศพพบว่าชายคนนี้เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 เดือน หลังจากหลังจากนั้นคดีนี้ก็ยังไม่สามารถระบุตัวตนและจับคนร้ายที่ทำได้
5.คดีฆาตกรรมต่อเนื่องในจังหวัดซากะ ที่ยังคงหาคำตอบไม่ได้
Photo: Japanexperterna.se / Flickr / CC BY-SA 2.0
ระหว่างปี 1975 - 1989 ได้มีการฆาตกรรมที่ยังไม่คลี่คลายทั้งหมด 7 คดีในจังหวัดซากะซึ่งเชื่อกันว่าเกี่ยวข้องกัน โดยเหยื่อ 5 รายถูกรัดคอจนเสียชีวิต ส่วนอีก 2 รายถูกพบเป็นศพเน่าเปื่อยแล้ว จึงยากที่จะระบุสาเหตุการตายได้ โดยเหยื่อทั้ง 6 รายมักจะหายตัวไปในวันพุธและเหยื่อทั้งหมดเป็นผู้หญิงอายุระหว่าง 11 - 50 ปี แต่ก็ยังไม่เคยมีการจับกุมใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมนี้
6.การหายตัวไปของ ยูกิ โอนิชิ เด็กหญิงที่จางหายไปตามสายลม
Photo: Unknown / Max Pixel / Public Domain
เมื่อวันที่ 29 เมษายน ในปี 2005 ยูกิ โอนิชิ เด็กสาววัย 5 ขวบ กำลังขุดหน่อไม้เพื่อนำไปเฉลิมฉลอง Greenery Day (วันสีเขียว) หรือวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ หลังจากที่เจอหน่อไม้หน่อแรก เธอก็เอามาอวดแม่ของเธอ และวิ่งกลับไปขุดหาอีก ผ่านไปประมาณ 20 นาที แม่ของเธอจึงรู้ว่าเธอไม่ได้อยู่กับคนขุดหน่อไม้คนอื่น ๆ จึงได้เริ่มออกค้นหาตัวเธอ โดยใช้สุนัขตำรวจในการดมกลิ่น จนมาถึงจุดหนึ่งในป่าใกล้ ๆ สุนัขทั้ง 4 ตัววิ่งมาจบอยู่ตรงที่จุดเดียวกันแต่กลับไม่พบร่องรอยของยูกิอีกเลย ราวกับว่าเธอจางหายไปพร้อมกับสายลม
7.ครูโรงเรียนอนุบาลทามะ หายตัวปริศนา
Photo: Daderot / Wikimedia Commons / Public Domain
เมื่อวันที่ 14 มกราคม 1997 คนงานเทศบาลเมืองทามะกำลังทำงานกับท่อระบายน้ำล้น แต่พวกเขากลับพบสิ่งที่กลายเป็นต้นตอของปัญหาในการระบายน้ำ นั่นคือศพที่เน่าเปื่อย โดยทางนิติเวชระบุว่าศพจมูกหักและกะโหลกร้าว บันทึกของทางทันตกรรมระบุว่าศพคือ ฟุคิโคะ ยากิฮะชิ ครูอนุบาลที่หายตัวไปเมื่อ 1 ปีก่อน ปัจจุบันคดีนี้ยังไม่สามารถไขคดีได้
8.ไร้เงาฆาตกรฆ่าเหยื่อ 2 ราย ขณะไปเก็บเฟิร์น
Photo: seigi003.blog40.fc2.com/blog-entry
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 1979 ผู้หญิง 2 คนที่มีชื่อว่า เคโกะ มิซุโนะ วัย 32 ปี และ ฮิเดะโกะ อาคะชิ วัย 43 ปี ได้เดินทางไปที่ภูเขาโนะฮาระเพื่อไปเก็บเฟิร์น 2 วันให้หลังก็พบร่างไร้วิญญาณพร้อมร่องรอยการถูกทุบตีอย่างโหดเหี้ยม ศพของมิซุโนะถูกกระหน่ำแทงกว่า 50 ครั้ง และศพของอาคะชิถูกแทงกว่า 30 ครั้ง ทั้งคู่ถูกตัดที่เอ็นร้อยหวาย ในขณะที่มิซุโนะถูกบีบคอจนตายพร้อมกับถูกถอดกางเกงออก และถูกกระทำชำเราด้วยใช้กิ่งไม้
ตำรวพบมีดถูกทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ และระหว่างการสืบสวนก็มีการพบคราบอสุจิบนกางเกงของอาคะชิ ในกระเป๋ากางเกงอาคะชิ ก็พบกระดาษใบเสร็จที่มีข้อความเขียนไว้ว่า “เราถูกสะกดรอยตาม ช่วยฉันด้วย ผู้ชายคนนี้เป็นคนไม่ดี” แม้จะมีเบาะแสและหลักฐาน แต่ก็ไม่ยังไม่สามารถระบุตัวตนของฆาตกรได้
9.คดีฆาตกรรมวางยาพิษในชาอู่หลงด้วยไซยาไนด์
Photo: Kitagawa Utamaro / Wikimedia Commons / Public Domain
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 1998 อิชิจูโระ นากาซาวะ วัย 58 ปี ได้ดื่มชาอู่หลง 1 กระป๋อง พร้อมอาหารเช้า แต่เมื่อถึงโรงพยาบาลเขาหัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิตในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงหลังอาหารเช้า ทำเอาแพทย์งงเลยว่าคนที่มีสุขภาพดีแบบเขา จะเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้อย่างไร
เช้าวันรุ่งขึ้นผู้จัดการร้านขายของชำ ที่นากาซาวะได้ซื้อชาอู่หลงและสังเกตเห็นบางอย่างแปลก ๆ ที่กระป๋องชาบางส่วนถูกงัดแงะ ปรากฏว่ากระป๋องเหล่านี้มีรูเล็ก ๆ และก้นกระป๋องมีร่องรอยถูกปิดด้วยกาว จากการวินิฉัยพบว่าในแต่ละกระป๋องมีไซยาไนด์ 5 กรัม จากนั้นตำรวจพบว่าในกระป๋องชาอู่หลงที่เหลืออยู่มีไซยาไนด์ด้วย โดยนากาซาวะเป็นเพียงคนเดียวที่ดื่มชาที่ถูกวางยาพิษ แต่ไม่พบผู้วางยาพิษแต่อย่างใด
10.ฆาตกรรมชวนขนหัวลุกของเด็ก 2 ขวบ
Photo: Jeremy Halls / Flickr / CC BY-SA 2.0
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ในปี 1984 พบเด็กหญิงวัย 2 ขวบ ชื่อมากิโกะ สึชิยามะ นอนคว่ำหน้าอยู่ในคูระบายน้ำในซอยหลังบ้านของเธอ เธอหมดสติและดูเหมือนว่าเธอถูกสายไฟรัดคอ โดย 9 ชม.ต่อมาเธอได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
สิ่งที่ทำให้คดีนี้แปลกมากขึ้นคือ สึชิยามะถูกพบว่าหมดสติในสถานที่เดียวกันกับเมื่อเดือนก่อนเกิดเหตุ แต่เธอรอดชีวิตมาได้ในครั้งนั้น และคิดว่าเป็นอุบัติเหตุ ทางตำรวจสันนิษฐานว่าสึชิยามะถูกมัดด้วยเชือกไวนิลที่อยู่หน้าประตูบ้านของเธอเอง
หลังจากเกิดเหตุการณ์แรกไม่นานปู่ของสึชิยามะได้รับโทรศัพท์แปลก ๆ จากผู้หญิงคนหนึ่ง เธอร้องไห้และพูดจาไม่รู้เรื่อง ก่อนที่เธอจะพูดคำว่า “ฉันขอโทษ” แล้วก็วางสายไป ทั้งนี้ยังไม่สามารถระบุตัวคนที่โทรมาและฆาตกรได้เลย
11.การฆ่าตัวตายหมู่ที่คุมาโตริ ผู้เสียชีวิต 7 รายอยู่ห่างกันแค่ 0.7 ไมล์
Photo: Nils Dardel / Wikimedia Commons / Public Domain
ในปี 1992 ระหว่างเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม พบวัยรุ่น 5 คน ได้ฆ่าตัวภายใต้สถานการณ์ที่น่าสงสัยในเมืองคุมาโตริ จังหวัดโอซาก้า โดย 3 คนเป็นเพื่อนกันและรู้จักกับอีก 2 คนที่เสียชีวิตเมื่อหลายเดือนก่อน ก่อนที่จะได้รับอุบัติเหตุผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เกี่ยวข้องกับการใช้สารเสพติดทินเนอร์
โดยมีข้อเท็จจริงแปลก ๆ มากมายเกี่ยวข้องกับการฆ่าตัวตาย ผู้เสียชีวิตทั้ง 7 รายเสียชีวิตอยู่ห่างกันไม่เกิน 0.7 ไมล์และวัยรุ่นทั้ง 5 คนอยู่แก๊งมอเตอร์ไซค์เดียวกัน หนึ่งในคนที่ฆ่าตัวตายนั้นแขวนคอตัวเอง รอยเชือกเหมือนถูกรัดคอมากกว่าการฆ่าตัวตาย นอกจากนี้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิตจากบาดแผลถูกแทงที่คอและหน้าอกซึ่งเป็นวิธีการฆ่าตัวตายที่แปลกและถูกพูดถึงน้อยที่สุด มีรายงานว่าวัยรุ่นหลายคนถูกสะกดรอยตามก่อนเสียชีวิต
12.การหายตัวไปของชินยะ มัตสึโอกะในเวลาเพียง 40 วินาที
Photo :japanoholic.dk/historie
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 1989 ชินยะ มัตสึโอกะ วัย 4 ขวบ ได้ไปเดินเล่นกับพ่อแม่พี่น้องและพี่น้องของเขา เมื่อกลับถึงบ้าน มัตสึโอกะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวที่สนามหญ้าหน้าบ้านเป็นเวลาประมาณ 40 วินาทีในขณะที่พ่อแม่ของเธออุ้มน้องชายกับพี่สาวของเขาเข้าไปข้างใน ในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ มัตสึโอกะก็หายตัวไป
ทางตำรวจได้ออกค้นหาอย่างกว้างขวางแต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ เบาะแสเดียวคือโทรศัพท์แปลก ๆ ที่โทรบอกพ่อแม่ของมัตสึโอกะว่า ลูกคุณต้องชำระค่าใช้จ่ายในส่วนของโรงเรียนอนุบาล แต่ไม่มีการชำระเงินใด ๆ เลย ซึ่งไม่สามารถระบุได้ว่าโทรศัพท์ดังกล่าว เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปอย่างไร
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีรายงานการพบเห็นมัตสึโอกะมากมาย แต่ก็ไม่มีใครระบุว่าพบเขาได้ที่ไหน หนึ่งในทฤษฎีเชื่อว่าเขาถูกลักพาตัวโดยสายลับของเกาหลีเหนือ แม้เรื่องนี้จะฟังดูเป็นเรื่องไกลตัว แต่ก็มีเอกสารแสดงให้เห็นถึงการลักพาตัวของชาวเกาหลีเหนือที่เกิดขึ้นหลายกรณีในปี 1970 และ 1980
ขอบคุณข้อมูลจาก
www.ranker.com
_Naniwaya_O-Kita.jpg){kind=link}
