10 สถานที่ชม Illumination ประดับไฟสุดอลังการในญี่ปุ่น Part 1

สวัสดีค่ะทุกคน! มาพบกันอีกแล้วกับการจัดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น และในวันนี้ก็ขอเอาใจสายช่างภาพกันบ้างด้วยสถานที่ถ่ายรูปกลางคืนสุดคูลอย่างการประดับไฟสุดอลังค์การงานสร้างของญี่ปุ่นกันค่ะ ถ้าได้เห็นสถานที่เหล่านี้ในตอนกลางวันว่าสวยแล้ว ในตอนกลางคืนนั้นไม่แพ้กันเลยค่ะ ความยิ่งใหญ่อลังการของไฟที่ถูกจัดแสดงราวกับงานศิลปะที่ระยิบระยับในยามค่ำนั้นถือเป็นอีก Event ที่ไม่ควรพลาดเลยนะคะ ในปีหนึ่ง ๆ นั้นมีแค่ช่วงเดียวด้วย อย่าเสียเวลาเลยดีกว่าค่ะ คว้ากล้องถ่ายรูปที่ตัด Night Landscape คม ๆ สักตัวพร้อมด้วยอุปกรณ์เสริมนิดหน่อยตามศรัทธาแล้วใส่รองเท้าเดินตามมาเลยค่ะ (/≧▽≦)/ ไปลองฝีมืองานภาพกลางคืนเก๋ ๆ กัน!!!

 

1.東京ドイツ村 (Tokyo German Village)

งานจัดแสดงแสงไฟฤดูหนาวปี 2017-2018 ในธีม 「メ☆ル☆ヘ☆ン ~ときめきスマイル~」(Me☆Ru☆He☆n ~with Smile~) ดวงไฟสามล้านดวงที่บอกเล่าเรื่องราวชวนฝันของนิทานแฟรี่เทลล์

Sodegaura,ChibaPicture : travel.rakuten.co.jp

มาเริ่มกันที่ 東京ドイツ村 (Tokyo German Village) เลยค่ะ ในตอนกลางวันที่นี่จะเป็นหมู่บ้านสไตล์เยอรมันให้ทุกคนในครอบครัวได้สนุกกับกิจกรรมต่าง ๆ ของสถานที่นี้ตั้งแต่การเดินเก็บในสวนผักไปจนถึงอิ่มอร่อยกับไส้กรอกเยอรมัน (กรี๊ด) นอกจากนี้ยังมีสวนดอกไม้ตามฤดูกาลอีกด้วยนะคะ (สวยมาก ๆ) เรียกว่าต่อให้ไม่ได้ไปช่วงมีการประดับไฟก็ยังถือว่าน่าเที่ยวอยู่มากค่ะ (ขอลูกครึ่งเยอรมันไปเที่ยวด้วยคนสิคะ) การประดับไฟในฤดูหนาวนี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 12 ปีของหมู่บ้านแห่งนี้ค่ะ ถูกนับว่าเป็นอันดับสามของการประดับไฟในภูมิภาคภูมิภาคคันโตเลยนะคะ โดยงานครั้งนั้นเริ่มจัดตั้งแต่วันพุธที่ 1 พฤศจิกายนจนถึงวันอาทิตย์ที่ 8 เมษายนที่ผ่านมาค่ะ (ไม่รู้ว่าปีที่ 13 จะมีอะไรบ้างต้องรอติดตามนะคะ)

Picture : walkerplus.com

ในภาพคือ “อุโมงค์สายรุ้ง” ที่ยาวเกือบ 70 เมตรที่จัดตบแต่งด้วยดวงไฟในธีมของเวทย์มนต์ ความฝัน และ ธีมแห่ง 「メ☆ル☆ヘ☆ン ~ときめきスマイル~」(Me☆Ru☆He☆n ~with Smile~)  โลกแฟนตาซีที่สวยงามน่าอัศจรรย์ ดูแตกต่างจากวิวตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง การจัดไฟครั้งนี้ใช้ดวงไฟไปถึง 3 ล้านดวงเชียวค่ะ และในฤดุหนาวของทุก ๆ ปี “โชว์แสงสีเสียง” และ “แสงไฟแบบสามมิติ” ที่โด่งดังอีกด้วยค่ะ!!

ถ้าอย่างไรหากว่าได้ไปที่ 東京ドイツ村 (Tokyo German Village) แล้วได้เที่ยวสนุกกับกิจกรรมตอนกลางวันแล้วก็อย่าลืมรอดูการแสดงแสงไฟตอนกลางคืนด้วยนะคะ


ข้อมูลเกี่ยวกับการประดับไฟ


สถานที่จัด : 東京ドイツ村 (Tokyo German Village)

ระยะเวลาการจัด : วันพุธที่ 1 พฤศจิกายน 2017 ~ วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน 2018

เวลาที่จัด : พระอาทิตย์ตกดิน~ 20:00 ปิดให้เข้าเวลา 19:30

จำนวนแสงไฟที่ใช้ : ประมาณ 3 ล้านดวง

Website : t-doitsumura.co.jp


ข้อมูล


ชื่อจุดแสดง : 東京ドイツ村 (Tokyo German Village)

แผนที่ : https://goo.gl/maps/bGFVi1QGXTk

เวลาเปิดทำการ : พระอาทิตย์ตกดิน~ 20:00 ปิดให้เข้าเวลา 19:30

วันหยุด : ไม่มีวันหยุด (ยกเว้นวันที่สภาพอากาศไม่ดี)

ค่าธรรมเนียมเข้าชม : กรณีเดินเที่ยวในสวนทั่วไป (อายุ 4 ขวบขึ้นไป) คนละ 500 เยน, กรณีจอดรถยนต์ (มีที่จอดรถ) 2500 เยน

*สามารถใช้กับจำนวนผู้โดยสารสูงสุดในกรณีที่นำรถมาเอง


การเดินทาง


[?] จากสถานที JR Sodegaura เดิน 15 นาที

[?] ประมาณ 5 นาทีจากทางด่วน Tateyama Ahizaki Sodegaura IC หรือประมาณ 10 นาทีจาก Kisarazu East IC ในทางด่วนพิเศษ Chuo Liaison

 

2.あしかがフラワーパーク(Ashikaga flower park) 

สวนดอกดอกไม้ไฟแห่งอะชิคากะ 

Ashikaga, ToshigiPicture : www.travel.co.jp

มาต่อกันอย่างไม่รอช้าที่จังหวัด โทชิกิ เมืองอะชิคากะ ที่นี่คือ あしかがフラワーパーク (Ashikaga Flower Park) ค่ะ ในตอนกลางวันนั้นเป็นสวนดอกไม้ค่ะ ซึ่งจะมีดอกไม้ตามฤดูกาลผลัดเปลี่ยนกันตลอดทั้งปี เรียกว่าไปคนละฤดูก็เหมือนได้เที่ยวคนละที่กันเลยทีเดียวนะคะ และแน่นอนว่าเทศกาลที่จัดประดับไฟนั้นอยู่ในฤดูหนาวของทุกปีค่ะ

ในปี 2017 ที่ผ่านมานั้น การจัดไฟในสวนดอกไม้อะชิคากะนั้นถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสามการแสงไฟที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น!! โดยเหล่าผู้เข้าชมได้เลือกให้เป็นที่หนึ่งใน Nation Wide ในปี 2016 และเป็นที่ 2 ในปี 2017 ถือเป็นการจัดแสงไฟที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นภูมิภาคตะวันออก ใช้ไฟทั้งหมด 1 ล้านดวงจัดตบแต่งในคอนเซปของสวนแห่งแสงไฟ ที่เด่น ๆ เลยในงานครั้งนั้นก็คือ「光の藤」 "Wonder of Light" 「光のバラ」 "Rose of Light" และ 「光の水蓮」"Lotus of Light" ล้วนเป็นสิ่งที่จัดโชว์เอาไว้

นอกจากนี้ยังมี 「奇蹟の大藤」"Miracle of Ofuji" อุโมงค์ดอกไม้สีม่วง(ดอกวิสทีเรีย)ระย้าลงมา (ที่ทำจากไฟประดับ) ถูกสร้างขี้นอย่างประณีตแสดงรายละเอียดของกลีบดอกไม้แต่ละกลีบดอกไม้แต่ละดอกโดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านดอกไม้ เป็น Must See ที่หาได้ที่นี่เท่านั้น เห็นรูปแล้วใช่มั้ยคะน่าไปมากเลยเนอะ ที่นี่มีกำหนดการของปี 2018~2019 ออกมาแล้วนะคะ ถ้าใครไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงนั้นก็อย่าลืมเก็บภาพมาฝากกันด้วยนะคะ (แอบบอกว่าเดือน 10, 11 และ 12 เขาจัดไม่เหมือนกันด้วยนะคะ ไปคนละเดือนได้คนละวิว) o(≧v≦)o อยากไปมากเลย


ข้อมูลเกี่ยวกับการประดับไฟ


สถานที่จัด : あしかがフラワーパーク(Ashikaga Flower Park)

ระยะเวลาการจัด : วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม 2018 ~ วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ 2019

เวลาที่จัด : 16:30~21:00

วันเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดราชการเปิดถึง 21:30 (หยุดวันสิ้นปี)

จำนวนแสงไฟที่ใช้ : ประมาณ 4 ล้านดวง

เพิ่มเติม : ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามา

วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม ~ วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม ทำการประดับแสงไฟ

วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม ~ วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ 2018 จัดโชว์การประกวดการแสดงไฟ

URL : http://www.ashikaga.co.jp/


ข้อมูล


ชื่อจุดแสดง : あしかがフラワーパーク (Ashikaga Flower Park)

แผนที่ : https://goo.gl/maps/sDpfGTvhMCw

ค่าธรรมเนียมเข้าชม : ผู้ใหญ่ 900 เยน, เด็ก 500 เยน


การเดินทาง


[?] จากสถานที JR Tomita เดิน 13 นาที

[?] จากทางด่วน Tohoku เส้น Sano Fujioka IC ประมาณ 18 นาที

ลานจอดรถ : *มีพื้นที่จอดรถพิเศษชั่วคราว

 

3.伊豆ぐらんぱる公園 (Izu Granpal Park)

ประสบการณ์ที่สุดพิเศษกับ GRAND ILLUMINATION หลอดไฟขนาดใหญ่ประมาณ 6 ล้านดวงส่องสว่างวิบวับท้าทายสายตาผู้เข้าชม~


Picture : www.fashion-press.net

เป็นอีกหนึ่งสวนที่มีการประดับไฟสวยมาก ไม่เพียงแค่ความสวยจากหลอดไฟเท่านั้น แต่ยังมีโคมไฟดอกไม้ประดับอย่างสวยงาม ตกแต่งได้ล้ำสุด ๆ สวนแห่งนี้ก็คือ 伊豆ぐらんぱる公園 (Izu Granpal Park) ที่เมืองอิโต จังหวัดชิสึโอกะ ที่สวนแห่งนี้มีส่วนที่เป็นสวนสนุกเครื่องเล่นต่าง ๆ ซึ่งในตอนกลางวันก็มีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ทำมากมายอยู่แล้ว ตั้งแต่สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นไปจนถึงลานให้สุนัขเข้ามาเล่นกันด้วย (คือเหมือนว่าพาน้องตูบมาเข้าสังคม)

การแสดงแสงไฟครั้งนี้เน้นไปที่การให้ผู้ได้รับชมสามารถจะสนุกสนานและเพลิดเพลินไปกับสถานที่และร้านรวงที่หลากหลายในโตเกียวโดม คือทั่วโตเกียวโดมจริง ๆ แล้วไม่พอเท่านั้นค่ะ เพราะเป็นสถานที่ที่มีเครื่องเล่นผาดโผนเลยมี「ジップライン~Julie~」(Zip Line~Julie~) การสไลด์ตัวซิปลิ่งมาจากลวดสลิงค์ผ่านแสงไฟระยิบระยับรอบตัว (เดี๋ยวนะ! คือมองทันมั้ยไม่แน่ใจ แต่คือการเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วผ่านแสงไฟอย่างนั้นแค่คิดก็สนุกต้องลองแล้ว) นอกจากนี้ยังมี 「ナイトバルーン~バブリィ・ザ・ナイト~」(Night Balloon ~ Baby the Night) ที่สวยงาม แล้วก็ยังมีสไลเดอร์ยาว 110 เมตร (เรื่องเล่นใหญ่ไว้ใจเรา) ชื่อว่า「ナイトレインボー」(Night Rainbow) อีกด้วย คือเลื่อนตัวลงมาผ่านแสงไฟฟีลแบบอุโมงค์มิติ

ถ้าเกิดว่าปีใหม่นี้ใครอยากไป Count Down ที่นี่ ลองไปเล่นเครื่องเล่นเพลิดเพลินกับร้านอาหาร พบประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการดูแสงไฟยามค่ำคืนผ่านเครื่องเล่นผาดโผนกันได้นะคะ 555555 จริงๆ ไม่ต้องเล่นก็ได้นะคะ ไปนั่งคาเฟ่ชิว ๆ ไฟสวย ๆ ก็ได้ค่ะ


ข้อมูลเกี่ยวกับการประดับไฟ


สถานที่จัด : 伊豆ぐらんぱる公園 (Izu Granpal Park)

ระยะเวลาการจัด : วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม 2018 เป็นต้นไป

เวลาที่จัด : 16:30~21:00 อาจจะปรับเปลี่ยนเวลาตามฤดูกาล

จำนวนแสงไฟที่ใช้ : ประมาณ 6 ล้านดวง

เพิ่มเติม : ระยะเวลาของกิจกรรม ที่จอดรถ 300 คัน ขึ้นอยู่กับกำหนดการสภาพอากาศอาจมีการเปลี่ยนแปลง

Website : http://granpal.com/


ข้อมูล


ชื่อจุดแสดง : 伊豆ぐらんぱる公園 (Izu Granpal Park)

แผนที่ : https://goo.gl/maps/Wi8qJ8GW7gs

ค่าธรรมเนียมเข้าชม : ผู้ใหญ่ (นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป) ราคา 1500 เยน, นักเรียนประถม 800 เยน


การเดินทาง


[?] ใช้รถไฟสาย Izukyukou จากสถานี Izukogen มาที่ Tokai bus เดินประมาณ 20 นาที (ที่จอดรถจักรยานจะมาเร็ว ๆ นี้)

[?] ประมาณ 120 นาทีผ่านทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 135 จาก Tomei Highway Atsugi IC

ลานจอดรถ ที่จอดรถ 1000 คัน (สำหรับกลางคืน)

 

4.よみうりランド (Yomiuri Land)

การประดับไฟที่โยมิอุริแลนด์ ดวงไฟ 5 ล้าน 5 แสนดวงที่ระยิบระยับราวกับอัญมณีของหญิงสาว

Inagi, TokyoPicture : http://www.yomiuriland.com

มาถึงอันดับที่ 4 แล้วค่ะ ขอแนะนำสวนสนุกในเขตอินางิของโตเกียวอย่าง よみうりランド (Yomiuri Land)

ค่ะ ที่นี่เป็นสวนสนุกสไตล์ครอบครัวค่ะ มีเครื่องเล่นในทุกระดับสำหรับทุกคนในครอบครัว รวมถึงมีโชว์สัตว์ต่าง ๆ ด้วยนะคะ เป็นอีกหนึ่งจุดที่หากมากันเป็นครอบครัวแล้วเหมาะมากเลยค่ะ

การแสดงแสงไฟของที่นี่ถือเป็นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเขตเมืองหลวงโตเกียวเลยนะคะ ด้วยดวงไฟกว่า 5 ล้าน 5 แสนดวง จัดด้วยคอนเซปที่ตั้งใจให้เหมือนกับสีอัญญมณีที่ออกแบบโดยสุดยอดดีไซน์เนอร์ชื่อดังระดับโลกอย่าง มิกิโกะ อิชิอิ ในฤดูการของปีที่ผ่านมาเธอขอนำเสนอด้วย “Sweet Area” โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือเหล่าสาว ๆ นั่นเอง ร้านขนมหวานที่เต็มไปด้วยสีสันสุดน่ารักทั้ง 5 สี ที่มาจากผลไม้ห้าชนิด สตรอว์เบอร์รี่ มะม่วง มะนาว องุ่นสีม่วง และพีช นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำกับเหล่าผลไม้ไปพร้อม ๆ กับการชมการจัดแสดงแสงไฟสีสวยงาม

นอกจากนี้ยังมีจุดจัดแสดงที่ทำขึ้นใหม่อย่าง “Jewelry · Lighthouse" บ้านที่ประดับแสงไฟภายในยาวกว่า 27 เมตร และลานสเก็ตน้ำแข็ง “White Jewel” ที่คุณสามารถเล่นเสก็ตไปรอบ ๆ พร้อมกับแสงไฟระยิบระยับได้ (ฟีลเทพนิยายมากเวอร์ ในหัวนี้ภาพในเรื่อง Tangled ขึ้นมาเลย) ยังไม่หมดเพียงเท่านั้นในทุกปีมีโชว์แสงสีร่วมกับน้ำพุที่สูงถึง 12 เมตรอีกด้วยว่ากันว่าเป็นจุดชมน้ำพุที่สูงและใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ถือเป็นจุดขายของเหล่านักท่องเที่ยวที่จะต้องได้ไปชมสักครั้งจริง ๆ

ในปีนี้ทางโยมิรุอิแลนด์ก็ได้ประกาศธีมออกมาแล้ว ยังคงเป็นอัญมณีเช่นเดิม แต่เพิ่มเติมคือความยิ่งใหญ่ของงานค่ะ ดูจากชื่อคร่าว ๆ ของแต่ละโซนนะคะ Jade Garden, Ember Forest, Diamond Aurora World, Blue Sapphire Fountain เป็นไงคะ นี่แค่เกริ่น ๆ เท่านั้นเพราะเขายังมีอีกร่วม 40 stories ที่รอให้ทุกคนได้ไปเยี่ยมชมอยู่ เพราะอย่างนี้แล้วหากใครได้ไปญี่ปุ่นในช่วงนั้นก็ต้องไม่พลาดนะคะ


ข้อมูลเกี่ยวกับนิทรรศการประดับไฟ


สถานที่จัด : よみうりランド (Yomiuri Land)

ระยะเวลาการจัด : วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2018 ~ วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2019

* ไม่รวมวันอังคารที่ 15 ~ วันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม 2019

และวันจันทร์ที่ 21 ~ วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม 2019

เวลาที่จัด : 16:30~20:30

ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 16 ถึงวันเสาร์ที่ 25 เปิดถึง 21:00

จำนวนแสงไฟที่ใช้ : ประมาณ 5.5 ล้านดวง

Website : http://www.yomiuriland.com/jewellumination/area/detail06.html


ข้อมูล


ชื่อจุดแสดง : よみうりランド (Yomiuri Land)

แผนที่ : https://goo.gl/maps/x1QsV4i2Q312

ค่าธรรมเนียมเข้าชม : ค่าเข้า ผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป) ราคา 1400 เยน, ผู้สูงวัย ( 65 ปีขึ้นไป) ราคา 600 เยน, นักเรียนประถมราคา 300 เยน

*มาหลังจาก 16:00 นักเรียนประถมไม่เสียค่าใช้จ่าย

ค่าเข้าแบบเหมาช่วงกลางคืน ผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป) ราคา 2400 เยน, อายุ 3 ปีจนถึงมัธยมปลาย, ผู้สูงวัย ( 65 ปีขึ้นไป) ราคา 1,600 เยน

*มาหลังจาก 16:00 จ่ายราคานี้อยู่ได้ทั้งคืน (ราคานี้ไม่รวมแหล่งท่องเที่ยวโดยรอบ)


การเดินทาง


[?] จากสถานี Odakyu Yomiuri Landfront นั่งรถเมล์ไปที่ Yomiuri Land ได้ทันที

จากสาย Keio Railway สถานีรถไฟ Keio Kingdom Station ลงที่ Yomiuri Land หรือ Sky Shuttle (รถประจำทาง)

[?] ประมาณ 5 นาทีจากปราสาท Inari ขึ้นทางด่วน Central หรือประมาณ 10 นาทีจาก Chofu IC

ลานจอดรถ ที่จอดรถ 2000 คัน (รถยนต์ส่วนบุคคลราคา 1500 เยน / รถมินิบัสราคา 2500 เยน) มีที่จอดรถจักรยานยนต์และรถจักรยาน

 

5.ハウステンボス (Huis Ten Bosch)

Kingdom of Light ‘Huis Ten Bosch’ เทคนิค 3D Mapping ความกว้างระดับ 110 เมตร

Sasebo, nagasakiPicture : www.huistenbosch.co.jp

มาจบวันนี้กันด้วยความยิ่งใหญ่ของการแสดงไฟที่ถือว่าใหญ่ระดับโลก ทำจากไฟ 13 ล้านดวง!!! ที่ชนะรางวัลที่ 1 ของ "National Illumination Ranking Comprehensive Entertainment Division" มากว่า 4 ปีติดต่อกัน (ไม่พูดเยอะเจ็บคอให้ภาพพูดแทนนะคะ) ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายนเป็นต้นมา มีการจัดแสดงแสงไฟแบบ 3D Projection Mapping ที่กว้างถึง 110 เมตร กับผนังของพระราชวังฮูสเทนบอช (Huis Ten Bosch palace) คือแค่ดูอาคารตอนกลางวันก็ว่าอลังการงานสร้างดาวล้านดวงแล้ว พอมาเจอกลางคืนการแสดงคือดาวล้านดวงจริง ๆ 13 ล้านเลยด้วย และในขณะที่มีการแสดงแสงไฟนั้นจะมี การโชว์กลางคืนอย่าง "Snow White" แสดงควบคู่ไปด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น "Light Sky Cafe" ที่สามารถเห็นมหาสมุทรแห่งแสงไฟเต็มสองตาราวกับถูกโอบล้อมด้วยเหล่าแสงไฟระยิบระยับอยู่รอบกาย และยังมี “High Light Sky Tree" ต้นไม้แสงไฟที่สูงถึง 30 เมตร~ เป็นสถานที่ที่แสดงถึงโลกของแสงไฟอันสวยงาม เปิดวันแรกคือเสาร์ที่ 28 ตุลาคม นอกจากนี้ยังมีสถานที่อีกมากมาย อย่างเช่น "Fire Dragon Robot" ที่ยาวกว่า 13 เมตรสูง 6.5 เมตร ที่หายใจออกมาเป็นไฟ และ "Light and Fountain Canal” ที่จัดแสดงแสงสีคู่กับน้ำที่โด่งดังก็ยังอยู่ที่นี่ด้วย

ปีนี้!!!! “อาณาจักรแห่งแสง” จะพร้อมเปิดให้ทุกท่านได้เข้าไปเยี่ยมชมตั้งแต่ 20 ตุลาคมเป็นต้นไป ใครแพ็คกระเป๋าไปช่วงปลายปีนี้พอเห็นภาพแล้วก็ไม่อยากพลาดแน่ ๆ ค่ะ (มี Website ภาษาไทยด้วยนะคะ)


ข้อมูลเกี่ยวกับการประดับไฟ


สถานที่จัด : ハウステンボス (Huis Ten Bosch)

ระยะเวลาการจัด : วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม 2018 วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2019

เวลาที่จัด : เริ่มตั้งแต่พระอาทิตย์ตกจนกระทั่งปิด

จำนวนแสงไฟที่ใช้ : ประมาณ 13 ล้านดวง

เพิ่มเติม :

「光の天空カフェ」"Light Sky Cafe" : คนละ 1000 เยน (เครื่องดื่ม 1 พร้อมขนมหวาน)

「光と噴水の運河」"Light and Fountain Canal” : 400 เยนสำหรับผู้ถือ One Day Pass เข้าแสดง และ 800 เยนสำหรับบุคคลทั่วไป

Website : https://www.huistenbosch.co.jp/event/hikari/


ข้อมูล


ชื่อจุดแสดง : ハウステンボス (Huis Ten Bosch)

แผนที่ : https://goo.gl/maps/t4jsC2jSo6m

ค่าธรรมเนียมเข้าชม :

1 day pass (ค่าเข้า Huis Ten Bosch เต็มวัน + ที่จอดรถ + บัตรโดยสายเรือภายใน + เยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ )

ผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป) 7000 เยน, วัยรุ่น (มัธยม) 6000 เยน, เด็ก (อายุ 4 ปีขึ้นไป และเด็กอนุบาล) 4600 เยน, ผู้สูงวัย (อายุ 65 ปีขึ้นไปหรือผู้มีบัตรสูงวัย) 6500 เยน

บัตร Huis Ten Bosch เยี่ยมชม ( บัตรเข้า Huis Ten Bosch สำหรับนักท่องเที่ยว + บัตรจอดรถบัส)

ผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป) 4500 เยน, วัยรุ่น (มัธยม) 3500 เยน, เด็ก (อายุ 4 ปีขึ้นไป และเด็กอนุบาล) 2200 เยน


การเดินทาง


[?] ลงที่สถานี JR Huis Ten Bosch

[?] ประมาณ 10 นาทีจาก Nishi Kyushu ทางด่วน Omotesando IC  ประมาณ 25 นาทีจาก Nagasaki Motor Higashi Odori IC

ลานจอดรถ ที่จอดรถ 5000 คัน (รถส่วนบุคคล 800 เยน / รถขนาดกลาง 1500 เยน / รถบัส 2500 เยน)

เป็นไงกันบ้างคะกับ 5 สถานที่จัดแสดงแสงไฟ 5 ที่แรกที่เราเอามาฝากกันในวันนี้ สวยระยับระยับอย่างกับหลุดเข้าไปอยู่ในโลกความฝันเลยทีเดียว แนะนำให้ลองเข้าไปใน Link Website ของแต่ละสถานที่ดูนะคะ เผื่อว่าเขามีเปิดรอบให้เข้าชมเมื่อไหร่แล้วก็ต้องรีบกดเข้าไปจองตั๋วกันเลยค่ะ สวยจนไม่อยากจะอวยอะไรมากให้ภาพเล่าเรื่องดีกว่าเนอะ แล้วรอติดตามอีก 5 สถานที่ในพาร์ทสองด้วยนะคะ

 

อ่าน 10 สถานที่ชม Illumination ประดับไฟสุดอลังการในญี่ปุ่น Part 2

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

1.https://illumi.walkerplus.com/detail/ar0312e17438/
2.
https://illumi.walkerplus.com/detail/ar0309e17508/
3.
https://illumi.walkerplus.com/detail/ar0622e126465/
4.
https://illumi.walkerplus.com/detail/ar0313e17494/
5.
https://illumi.walkerplus.com/detail/ar1042e17708/