10 กิจกรรมน่าทำ ที่เที่ยวน่าไป ในภูมิภาคชูบุ (Chubu) หน้าร้อนก็เที่ยวได้

ในภูมิภาคชูบุ (Chubu) ประเทศญี่ปุ่น มีที่เที่ยว และกิจกรรมน่าทำมากมาย

หลายที่ก็สามารถไปได้ในช่วงหน้าร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานเทศกาลต่างๆ

หรือว่าจะเป็นการธรรมชาติที่เต็มไปด้วยสีเขียวของป่าไม้ และภูเขา

หรือว่าจะเป็นเที่ยวชมวัฒนธรรม อย่างอะมะจัง นินจาโชว์

 

ลองไปชมกันดีกว่า ในภูมิภาคชูบุ (Chubu)  ในช่วงหน้าร้อนนั้น


มี 10 กิจกรรมน่าทำ ที่เที่ยวน่าไป ที่ไหนบ้าง ... ตามไปชมกันเลย


 

 

1. กิจกรรมเก็บใบชา ชมภูเขาไฟฟูจิที่ Nihondaira [Shizuoka]






ชิซุโอกะเป็นเมืองแห่งชาเขียวคุณภาพดีที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น  และถือเป็นเมืองที่เปรียบเสมือนบ้านของภูเขาไฟฟูจิ  แหล่งชาที่มีชื่อเสียงอย่างที่ Nihondaira ก็มีไร่ชาที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างสวยงาม 360 องศา  ช่วงเวลาที่เปิดให้เข้าชม และทำกิจกรรมเก็บใบชา คือ ปลายเดือนเมษายน ถึง ตุลาคม  นักท่องเที่ยวสามารถแต่งตัวเป็นสาวเก็บใบชา และลองเก็บใบชาจริงๆ ได้  ส่วนนักท่องเที่ยวที่มากันเป็นกลุ่มมากกว่า 10 คนขึ้นไป จะมีการเสิร์ฟชาและใบชาเทมปุระให้นักท่องเที่ยวด้วย



Nihondaira [Shizuoka] ภูมิภาคชูบุ (Chubu)
เริ่มรับจองได้ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายนเป็นต้นไป
เวลาเปิด 9:00 – 15:00 น.
ค่าเข้าชม 500 เยน ต่อคน
พิกัด https://goo.gl/maps/R3d2TtkZ6fZdo2FH8
การเดินทาง จากสถานี JR Shizuoka ต่อรถเป็นรถบัสสายเหนือ รถบัสชื่อ Shizutetsu Justline โดยมุ่งไปที่ Nihondaira ใช้เวลา 35 นาที มาลงที่ป้าย Nihondaira Hotel Iriguchi (12 กิโลเมตร)
ขอบคุณภาพ และข้อมูลเพิ่มเติมจาก http://www.ocha-kaikan.jp/

 

2. อธิษฐานรักกลางสะพานแขวนแห่งความฝัน Yume no Tsuribashi [Sumatakyo Gorge, Shizuoka]






หุบเขา Sumatakyo  นี้โดดเด่นเรื่องออนเซ็นในและกิจกรรมเดินป่าในหุบเขา   สะพานแขวนแห่งความฝัน Yume no Tsuribashi  นี้ยังสวยติดอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น  โดดเด่นที่ข้ามแม่น้ำสีฟ้าอมเขียวสวยงาม   มีความยาว 90 เมตร สูง 8 เมตร จำกัดคนขึ้นสะพานที่ครั้งละ 10 คนเท่านั้น  ว่ากันว่าเป็นสะพานที่จะทำให้สมหวังในความรัก  วิธีการคือให้ข้ามสะพานไปและยืนตรงกลางสะพาน และอธิษฐานขอพรจะทำให้ฝันเป็นจริง  การเตรียมตัวมาเที่ยวที่นี่ แนะนำว่าให้ใส่เสื้อผ้า และรองเท้าผ้าใบสวมสบาย เพราะอาจจะต้องใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมงจากออนเซ็นในหุบเขามายังสะพาน



Yume no Tsuribashi [Sumatakyo Gorge, Shizuoka] ภูมิภาคชูบุ (Chubu)
วันและเวลาทำการ  เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดปี
ค่าเข้าชม ฟรี
พิกัด https://goo.gl/maps/zBiyqGPccd2MA1ZB6
การเดินทาง นั่งรถไฟสาย Oigawa Railway Line มาลงที่สถานี Senzu จากนั้นต่อด้วยรสบัสแล้วลงที่ป้าย Sumata-kyo Onsen ระยะทางรวมทั้งสิ้น 15 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ค่าโดยสาร 880 เยน แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 30 นาทีจึงถึงสะพาน
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก http://yumeno-tsuribashi.com/

 

3. ชมการแสดงนินจาขนานแท้ ที่ Iga Ninja Museum [Iga city, Mie]






หมู่บ้านนินจาอิงะ  หรือที่รู้จักกันในชื่อ  “พิพิธภัณฑ์นินจาอิงะ” เป็นถิ่นกำเนิดนินจาตระกูลอิงะ  ในช่วงศตวรรษที่ 15  ใครที่อยากเห็นความเป็นนินจาขนานแท้จะต้องมาที่นี่  ภายในมีการจัดแสดงสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น บ้านพักในอดีต อาวุธ งานเขียนในยุคโบราณ   และมีโชว์นินจาที่น่าตื่นตาตื่นใจ  (เนื่องจากมีบางวันที่ปิดการแสดง  กรุณาตรวจสอบตารางโชว์ที่หน้าเว็บไซต์ก่อน)   นักท่องเที่ยวยังสามารถเช่าชุดนินจามาใส่ได้ด้วย



Iga Ninja Museum [Iga city, Mie] ภูมิภาคชูบุ (Chubu)
เวลาเปิดปิด 9:00 – 17:00 น.
ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์นินจา  (แบบบุคคล) ผู้ใหญ่ 756 เยน เด็ก 432 เยน
ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์นินจา (หมู่คณะ 20 คนขึ้นไป)  ผู้ใหญ่ 648 เยน เด็ก 324เยน
ค่าชมการแสดงโชว์นินจา 400 เยน
พิกัด: https://goo.gl/maps/kivQ111N9yq89mf56
การเดินทาง จากสถานี Kintetsu Nagoya นั่งรถไฟสาย Kintetsu ไปลงที่สถานี Igakambe จากนั้นต่อรถไฟสาย Iga railway ไปลงที่สถานี  Uenoshi  จากนั้นเดินไปทางทิศเหนือ 10 นาที  หมู่บ้านนินจาอิงะตั้งอยู่ในพื้นที่ของสวนอุเอโนะ
ขอบคุณภาพ และข้อมูลเพิ่มเติมจาก http://www.iganinja.jp

 

4. สัมผัสชีวิตอะมะซัง ที่ Ama Hut Hachiman [Toba city, Mie]






อะมะ (Ama) คือผู้หญิงที่ทำการประมงแบบดั้งเดิมด้วยการดำน้ำแบบ Free dive ในการงมหอยต่างๆ รวมทั้งเก็บสาหร่ายจากท้องทะเล ซึ่งเป็นอาชีพที่สืบต่อกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี  สำหรับกระท่อมเหล่าอะมะ ได้เปิดเป็นร้านอาหารเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว  เหล่าอะมะซังจะคอยเสิร์ฟอาหารทะเลสดๆ และปิ้งย่างหอยชนิดต่างๆ ด้วยเตาถ่านให้ชมตรงหน้า   ท่านสามารถเลือกอาหารที่คุณชื่นชอบได้  โดยเมนูอาหารขึ้นอยู่กับฤดูกาล ราคาแต่ละเมนูจะไม่เท่ากัน  (กรุณาเลือกชุดอาหารและจองล่วงหน้าอย่างต่ำ 2 วัน ก่อนที่จะเดินทางไปร้าน)  เมื่อทานเสร็จแล้ว ก็จะมีกิจกรรมต่างๆ ให้แก่ลูกค้าเช่น การแต่งตัวแบบอะมะ การร่ายรำท้องถิ่นร่วมกับอะมะ รวมถึงมีของที่ระลึกให้เลือกซื้อ



Ama Hut Hachiman [Toba city, Mie] ภูมิภาคชูบุ (Chubu)
ค่าเข้าชม  ราคาอาหารขึ้นอยู่กับกระท่อมเหล่าอะมะซังที่ท่านเลือกไป
พิกัด https://goo.gl/maps/JxT23X57aJ8BcsNi6
การเดินทาง  จากสถานี  Kintetsu Nagoya นั่งรถไฟสาย Kintetsu Ltd. Exp. ไปลงสถานี JR Toba  จากนั้น ใช้บริการรถรับ-ส่งฟรี ไปยังกระท่อมอะมะซัง (การบริการขึ้นอยู่กับกระท่อมเหล่าอะมะซังที่ท่านเลือกไป)
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก http://amakoya.com/english%20page.htm

 

5. ชมดอกไม้ไฟ (Hanabi) ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคชูบุ ที่เทศกาล Toyota Oiden Festival [Toyota city, Aichi]






งานเทศกาลเต้นรำทั่วทั้งเมืองโตโยต้าและปิดท้ายด้วยการแสดงดอกไม้ไฟที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลาง  จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 51 ในปี 2019 นี้  งานเทศกาลนี้ชาวเมืองโตโยต้าจะมาร่วมเต้นรำกันอย่างสุดเหวี่ยง  เข้ากับจังหวะดนตรีของโออิเด็น โดยมีการเตรียมซ้อมเต้นก่อนถึงงานเทศกาลหนึ่งเดือนล่วงหน้าตามสถานที่ต่างๆ   ก่อนจะมีงานเต้นรำในรอบสุดท้าย (Oiden Dance Final) ที่จัดวันเสาร์  ปิดท้ายด้วยงานดอกไม้ไฟสุดยิ่งใหญ่อลังการในวันอาทิตย์ปลายเดือนกรกฎาคม



Toyota Oiden Festival [Toyota city, Aichi] ภูมิภาคชูบุ (Chubu)
วันจัดงาน
My Town Oiden วันที่ 8 มิถุนายน – 14 กรกฎาคม 2019
Oiden Dance Final วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2019
Oiden Hanabi วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2019
ค่าเข้าชม  ฟรี *งานแสดงดอกไม้ไฟมีที่นั่งที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
พิกัด https://goo.gl/maps/JgkFaw6miWNY4hty6
การเดินทาง  จากสถานี Meitetsu Nagoya  นั่งรถไฟ Meitetsu  ไปลงที่สถานี Toyotashi  เดินต่อ 10 นาที
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก  https://www.oidenmaturi.com/  https://www.tourismtoyota.jp/th/spots/detail/813/

 

6. พบปะสายคอสเพลย์ตามท้องถนนได้ในช่วงจัดงาน World Cosplay Summit at Nagoya [Nagoya city, Aichi]






World Cosplay Summit  เป็นงานที่จัดประจำปี และมีการประกวดการแต่งกายชุดคอสเพลย์  ของผู้ชื่นชอบการแต่งชุดคอสเพลย์ กว่า 30 ประเทศทั่วโลก  งานจัดช่วงฤดูร้อน ตั้งแต่ปลายกรกฎาคม ถึงต้นสิงหาคมของทุกปี  ตลอดทั้งสัปดาห์ที่จัดงาน  ทั้งเมืองก็จะเต็มไปด้วยผู้คนที่แต่งกายคอสเพลย์ สร้างสีสันให้กับเมืองนาโกย่า  พวกเขายินดีที่จะถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยว  สถานที่จัดงานนั้นจัดทั่วทั้งเมืองนาโกย่า แต่หลักๆ จะจัดที่ย่าน Sakae และ Osu



World Cosplay Summit at Nagoya [Nagoya city, Aichi] ภูมิภาคชูบุ (Chubu)
วันจัดงาน  ปลายกรกฎาคม ถึงต้นสิงหาคม  ส่วนขบวนพาเหรด ในวันเสาร์-อาทิตย์แรกของเดือนสิงหาคม
ค่าเข้าชม  ฟรี
พิกัด https://goo.gl/maps/wRGmHgXcr6T2wCN37
การเดินทาง  งานจัดในเมืองนาโกย่า สามารถเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน  ลงสถานี  Sakae หรือ  Osu
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก  http://www.worldcosplaysummit.jp/en/

 

7. ชมดาวนับล้านบนท้องฟ้า ในหมู่บ้านดวงดาวแห่งเมือง Achi Star Village [Achi, Nagano]






หมู่บ้านดวงดาวที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมญี่ปุ่นว่า  สามารถมองเห็นดวงดาวได้ชัดเจนในยามค่ำคืนได้ดีที่สุดในญี่ปุ่น  นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการ Night Tour โดยการนั่งกอนโดล่าขึ้นไปยังยอดเขา  ที่บนนั้นคุณจะสามารถมองเห็นดวงดาวและทางช้างเผือกได้อย่างชัดเจนด้วยตาเปล่า (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและช่วงเวลา)  ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากเมืองนาโกย่า ท่านสามารถมาเที่ยวและพักค้างคืนในเมืองใกล้เคียงก่อนกลับได้



Achi Star Village [Achi, Nagano] ภูมิภาคชูบุ (Chubu)
Night Tour เปิดให้เข้าชมช่วงวันที่ 13 เม.ย. – 21 ต.ค. 2019
(ยกเว้นช่วงวันที่ 20 พ.ค. – 5 ก.ค. และช่วง 24 ก.ย. – 11 ต.ค. 2019)
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 2000 เยน / เด็ก 1000 เยน (รวมค่าขึ้นกอนโดล่าทั้งขาไปและกลับแล้ว)
ต้องซื้อบัตรเข้าชมล่วงหน้าจากทางเว็บไซต์เท่านั้น
Regular Tours :  กอนโดล่าขาขึ้น 18:30-19:30 น.  โปรแกรมเริ่ม 20:00-20:30 น.  กอนโดล่าขาลง 20:30 น.
Paradise Night Tours :  กอนโดล่าขาขึ้น  21:00-22:00 น.  โปรแกรมเริ่ม 22:15-22:45 น. กอนโดล่าขาลง  22:45
พิกัด: https://goo.gl/maps/KH7UbdA66aexn9KK8
การเดินทาง
- นั่งรถไฟสาย JR Iida Line มาลงสถานี  Iida Station  จากนั้นนั่งรถบัส Hirugami Line Bus  30 นาที มาลง Star Village Achi
- หรือนั่งรถไฟสาย JR Chuo Line มาลงสถานี  Kamisuwa Station จากนั้นนั่งรถบัส Suwa-Hirugami line bus 90 นาที มาลง Star Village Achi
ขอบคุณภาพ และข้อมูลเพิ่มเติมจาก http://sva.jp/

 

8. ชมน้ำตก Shiraito Falls [Karuizawa city, Nagano]






น้ำตกชิระอิโตะ (Shiraito Falls) ในคิตะคะรุอิซะวะ (Kita-Karuizawa) จังหวัดนะงะโนะ (Nagano) ได้ชื่อว่า เย็นสบายกว่าที่อื่นในคะรุอิซะวะซึ่งเป็นสถานที่ตากอากาศที่มีชื่อเสียง จากผาหินทรงโค้งสูง 3 เมตร กว้าง 70 เมตร น้ำใสสะอาดจากใต้ดินจะพวยพุ่งออกมาหลายร้อยสาย เกิดเป็นภาพสายน้ำตกที่แสนจะอ่อนละมุนดูงดงามราวกับเส้นไหมเลยทีเดียว นอกจากนั้นในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม – ปลายเดือนสิงหาคมของทุกปี ก็จะมีการจัดแสดง Projection Mapping  ในยามค่ำคืนของวันศุกร์เสาร์อาทิตย์อีกด้วย จึงขอแนะนำให้ลองไปเที่ยวที่นี่ซ้ำอีกครั้งในฤดูกาลและช่วงเวลาที่แตกต่างกันออกไป



Shiraito Falls [Karuizawa city, Nagano] ภูมิภาคชูบุ (Chubu)
วันและเวลาทำการ  เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดปี
ค่าเข้าชม ฟรี
พิกัด  https://goo.gl/maps/ArqjA7SQ26cyqHbD6
การเดินทาง
- จากสถานี Tokyo  โดยสารรถไฟ JR Hokuriku Shinkansen ไปลงที่สถานี Karuizawa ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
- โดยสารรถ Karuizawa-Kusatsu line bus ไปลงที่ป้าย Shiraito no Taki ใช้เวลา 23 นาที แล้วเดินอีก 5 นาที
ขอบคุณภาพ และข้อมูลเพิ่มเติมจาก
http://www.karuizawa-shw.com/
http://www.go-nagano.net/shisetsu-detail?shisetsuid=26001006

 

9. เดินป่าชมธรรมชาติ Kamikochi  สวิตเซอร์แลนด์แดนอาทิตย์อุทัย [Matsumoto city, Nagano]






หนึ่งในสถานที่ที่ได้รับการยอมรับว่ามีทิวทัศน์ทางธรรมชาติแสนวิเศษของญี่ปุ่น มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ในระดับต่ำตลอดทั้งปี   ใจกลางของ Kamikochi  คือตรงบริเวณสะพานคัปปะ (Kappa Bridge)  จากจุดนี้จะสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของเทือกเขาโฮทะกะ (Hotaka) และยอดเขายะเคะ (Yakedake) ได้ด้วยตาเปล่า และยังเพลิดเพลินกับการเดินเล่น ถ่ายรูปไปกับธรรมชาติที่สวยงามได้อีกด้วย  ในฤดูร้อนมีกิจกรรมกลางแจ้งเดินป่าเพื่อชมธรรมชาติระยะทางสั้นๆ  ที่แม้แต่นักเดินป่ามือใหม่ก็สามารถทำได้  เส้นทางแนะนำคือเส้นทางบึงไทโช-บึงเมียวจิน (Taisho Pond –Myojin Pond Course) ใช้เวลา 4 - 5 ชั่วโมง  ท่านสามารถมาเที่ยว Kamikochi  ได้ทั้งแบบเช้าไปเย็นกลับ หรือพักค้างแรมในโรงแรมที่พักหรือจุดตั้งแคมป์ก็ได้



Kamikochi [Matsumoto city, Nagano] ภูมิภาคชูบุ (Chubu)
วันเปิดทำการ 17 เมษายน ถึง วันที่ 15 พฤศจิกายน ของทุกปี
ค่าเข้าชม ฟรี
พิกัด https://goo.gl/maps/EA8sshA9mnBx3MmF9
การเดินทาง
- จากสถานี Nagano ขึ้นรถไฟ Wide View Shimano Limited Express (มุ่งหน้าไปยัง Nagoya) มาลงที่สถานี Matsumoto ใช้เวลา 50 นาที
- จากสถานี Matsumoto ขึ้นรถบัส ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 45 นาที
ขอบคุณภาพ และข้อมูลเพิ่มเติมจาก https://www.kamikochi.or.jp/

 

10. แต่งชุดยูกาตะ เที่ยวชมเมืองเก่าแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่เมือง Gujohachiman [Gujo city, Gifu]






เมืองรอบปราสาท Gujohachiman  เมืองที่ยังหลงเหลือความงดงามของเมืองญี่ปุ่นแบบในอดีต  บ้านเรือนที่เรียงรายกัน   และรางน้ำที่สวยงามเป็นเสน่ห์ของเมืองนี้   กุโจฮาจิมังมีรางน้ำจำนวนมากจนถูกเรียกว่าเป็นเมืองแห่งสายน้ำ  ซึ่งจะได้ยินเสียงน้ำไหลสะท้อนไปทั่วทั้งตัวเมือง   และด้วยบรรยากาศที่ทำให้หวนนึกถึงอดีต   เพียงแค่เดินเล่นและแต่งกายในชุดแบบญี่ปุ่นในเมืองแห่งนี้   ก็เหมือนกับได้ย้อนเวลาไปในอดีตก็ว่าได้  นอกจากนี้ อย่าลืมไปเที่ยวชมปราสาทกุโจฮาจิมัง  ปราสาทที่ตั้งอยู่บนภูเขา  ว่ากันเป็นปราสาทที่ตั้งอยู่บนเขาที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น  ซึ่งในบางครั้งจะมองเห็นว่าปราสาทนั้นล่องลอยอยู่เหนือม่ามเมฆ ราวกับว่าอยู่บนสวรงสวรรค์เลยทีเดียว



Gujohachiman [Gujo city, Gifu] ภูมิภาคชูบุ (Chubu)
ค่าเข้าชม ฟรี
พิกัด  https://goo.gl/maps/GZk6AzD2jf5o8ZMT8
การเดินทาง
- จากสถานี JR Nagoya ขึ้นรถไฟขบวน Ltd Exp View Hida ลงสถานี Minoota ใช้เวลา 40 นาที
- ต่อรถไฟสาย Nagaragawa ลงที่สถานี  Gujo-hachiman ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
ขอบคุณภาพ และข้อมูลเพิ่มเติมจาก http://www.gujohachiman.com/

 

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ

"10 กิจกรรมน่าทำ ที่เที่ยวน่าไป ในภูมิภาคชูบุ (Chubu) หน้าร้อนก็เที่ยวได้"


สามารถเดินทางได้ไม่ยาก  หากมาจากทางสนามบิน Nagoya Chubu Centrair

เที่ยวต่อได้หลายเมือง ไม่ว่าจะเป็นกิฟุ นากาโน่ มิเอะ ไอจิ ชิซุโอกะ ยามานาชิ เป็นต้น

 

อ่านบทความต่อ เกี่ยวกับ "10 สิ่งน่ารู้เมื่อไปสนามบินนาโกย่าชูบุเซ็นแทรร์ (Central Japan International Airport)" ได้ที่นี่


 

 

หน้าร้อนใครว่าเที่ยวญี่ปุ่นไม่ได้!! จริงมั้ยคะ!!

 

ขอบคุณภาพและข้อมูลบางส่วนจาก jnto.or.th