“เฮะชิโกะ” ปลาเค็มสไตล์ญี่ปุ่น

ปลาเค็มเป็นอาหารที่คนไทยน่าจะรู้จักเป็นอย่างดีเนื่องจากมีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ โดยปลาเค็มเป็นวิธีถนอมอาหารอีกวิธีหนึ่งด้วยการทำให้ปลามีรสชาติเค็มและแห้ง  เพราะการทำให้เค็มจะไปยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย และลดปริมาณของเอนไซม์ที่ผลิตจากตัวปลา ทำให้ไม่เกิดการเน่าเสียและเป็นการลดปริมาณความชื้นจากตัวปลานั้นเอง และหลายๆคนอาจจะยังไม่ทราบว่าที่ญี่ปุ่นก็มีปลาเค็มเช่นเดียวกันโดยจะเรียกว่า เฮะชิโกะ 



เฮชิโกะหรือปลาเค็มญี่ปุ่นเป็นการถนอมอาหารด้วยความเค็มเช่นเดียวกับปลาเค็มของไทย แต่จะใช้ปลาคนละชนิดกัน  เฮะชิโกะเป็นอาหารพื้นเมืองดั้งเดิมของจังหวัดฟุคุอิ เกิดขึ้นช่วงกลางของยุคเอโดะ เล่าว่าที่มาของชื่อเฮชิโกะมาจากคำว่า เฮะชิโกะมุ(Heshikomu) ที่แปลว่า ใส่เข้าไป พอพูดสั้นๆก็เหลือแค่ เฮชิโกะ มาจากการที่ชาวประมงที่ทำปลาเฮะชิโกะเมื่อก่อน ที่จะใส่ปลาเข้าไปในถังเหล้าไม้เพื่อหมัก โดยในปัจจุบันจะนิยมใช้ปลาซาบะในการทำ และใช้รำข้าวและเกลือในการหมัก  ซึ่งการหมักของแต่ละคนแต่ละที่ก็จะมีรสชาติที่แตกต่างกันออกไป เพราะว่ารสชาติของปลาเฮะชิโกะจะขึ้นอยู่กับรสชาติของรำข้าวที่ใช้หมักด้วย เฮะชิโกะเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของจังหวัดฟูกูอิจนถึงขั้นมีมาสคอตประจำจังหวัดเป็นรูปปลาเฮะชิโกะอีกด้วย ชื่อว่า เฮะชิโกะจัง



ร้านที่ขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับปลาเฮะชิโกะชื่อร้าน Tanaka Heshiko บอกว่า ในแต่ละปีทางร้านจะหมักปลาเฮชิโกะในทุกๆเดือนกุมภาพันธ์ของปีเพราะจะได้รำข้าวที่สดใหม่เพื่อนำมาหมัก จึงทำให้ปลาเฮะชิโกะของทางร้านมีรสชาติอร่อย



วิธีการทำปลาเฮะชิโกะนั้น เราได้อ้างอิงมาจากวิธีการทำจากทางร้าน Tanaka Heshiko วิธีและขั้นตอนในการหมักคือ อันดับแรกก่อนที่จะใช้รำหมักให้ใช้เกลือหมักไว้ก่อน โดยใส่ปลาลงไปในถังหมักเกลือและใส่น้ำเล็กน้อยแล้วปิดฝาไว้ พอได้ที่แล้วค่อยใช้รำข้าวลงไปหมัก อุณภูมิที่เหมาะสำหรับการหมักอยู่ที่ 20-30 องศาเซลเซียส พอใส่รำข้าวลงไปหมักรสชาติของรำข้าวก็จะซึมเข้าสู่เนื้อปลา ระหว่างนั้นก็จะต้องเช็คถังหมักปลาเฮะชิโกะในทุกๆเช้า และจะใช้เวลาหมักต่ออีกประมาน 10 เดือนถึงจะสามารถทานได้




ประโยชน์ของปลาเฮะชิโกะ




ปลาเฮะชิโกะสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายประเภทแล้วแต่ความชื่นชอบของแต่ละคน อย่างเช่น นำมาย่างทานกับข้าวสวยร้อนๆ นำมาทำเป็นซาชิมิ ซึ่งนอกจากความอร่อยแล้ว ยังมีคุณประโยชน์ต่างๆมากมาย เช่นในตัวปลาซาบะเองก็อุดมไปด้วยคุณประโยชน์สูง มี DHA และ EPA ที่มีกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย นอกจากนี้ในรำข้าวยังมีวิตามิน และธาตุเหล็กที่เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ และมีกรดแลคติกจำนวนมาก ซึ่งกรดแลคติกที่ได้จากพืชนั้นจะให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายเราดีที่สุด โดยกรดแลคติกนี้จะช่วยปรับสมดุลในระบบทางเดินอาหารของเรา ลดอาการท้องผูกช่วยในการขับถ่าย ช่วยยับยั้งแบททีเรียในลำไส้



นอกจากจะอร่อยแล้วยังมีประโยชน์ต่อร่างกายเราขนาดนี้ ถ้าใครได้ไปญี่ปุ่นหรือเจอขายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตในไทย ก็อย่าลืมไปลองซื้อลองทานกันดูนะคะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.t-heisuke.com