"ญี่ปุ่น" ดินแดนที่เป็นที่ปรารถนาของนักท่องเที่ยวหลายคนแต่กลับเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยเหตุภัยพิบัติมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เวลาที่ท่านทั้งหลายไปเที่ยวญี่ปุ่นคงไม่อยากจะคิดว่าเราอาจจะได้เป็นส่วนร่วมของเหตุภัยพิบัติเหล่านั้นใช่ไหมครับ
อ๊ะๆ อย่าเพิ่งวิตกไป อุบัติเหตุ ภัยพิบัติต่างๆเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยที่เราไม่อาจคาดเดาได้ ต่อให้อยู่เมืองไทยก็อาจเกิดขึ้นได้ ถ้ามันเป็นคราวเคราะห์จริงๆ
ตัวผู้เขียนเองไปญี่ปุ่น เฉพาะไปเที่ยวนับรวมกันได้เกือบ 30 ครั้งแล้ว โชคดีตลอดไม่เคยต้องเป็นผู้ประสบภัยเลย แต่อย่างไรก็ดีเราก็ไม่ควรประมาทเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ที่เมืองไทยหรือญี่ปุ่นนะครับ
จากที่เกริ่นมา เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นผจญภัยพิบัติอยู่สม่ำเสมอ การไปเยี่ยมชมที่ศูนย์เรียนรู้เพื่อรับมือกับภัยพิบัติของญี่ปุ่นจึงเป็นอีกที่หนึ่งที่น่าสนใจมากครับ
เมื่อเกิดไฟไหม้ น้ำท่วม พายุเข้า หรือแผ่นดินไหว เราจะต้องทำอย่างไรเพื่ออยู่รอด ???
คนญี่ปุ่นเรียนรู้และทบทวนตั้งแต่เด็กจนสูงอายุ จากหลายช่องทาง ทั้งจากการศึกษาในโรงเรียนและยังมีศูนย์เรียนรู้ของชุมชนในท้องถิ่นของตน
ที่ญี่ปุ่นมีศูนย์เรียนรู้เพื่อการรับมือกับภัยพิบัติมากมาย ภาษาญี่ปุ่นจะใช้คำว่า bousaikan ลอง search หาดูจะพบหลายที่เลยครับ ที่โตเกียวเท่าที่ผมเคยเจอมาก็มีอย่างน้อย 5 แห่ง เล็กใหญ่ต่างกัน แต่ทุกที่เข้าชมได้ฟรี ส่วนจัดแสดงและให้ความรู้ สามารถเข้าชมได้โดยตลอด แต่ในส่วนกิจกรรมสร้างประสบการณ์จะมีเป็นรอบๆ ควรจองก่อนล่วงหน้า เพราะถ้าเต็มแล้วอาจจะไปเสียเที่ยวครับ
ที่ศูนย์เรียนรู้ขนาดใหญ่ไฮไลท์จะอยู่ที่สามารถเข้าร่วมทดลองมีประสบการณ์รับมือกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในสถานการณ์จำลองต่างๆได้ด้วย ทำให้เราจดจำได้ง่ายและแม่นยำขึ้นกว่าการรับชมเฉยๆครับ
ยกตัวอย่างเช่นที่ Honjo Bousaikan Kinshicho เดินประมาณครึ่งกิโลเมตร ไปทาง Tokyo Sky Tree จากสถานี Kinshicho ของ JR สาย Sobu หรือรถไฟใต้ดินสาย Hanzomon จะมี simulation ให้เรามีประสบการณ์จริงกับการเผชิญภัยพิบัติ ทั้ง ห้องสร้างแผ่นดินไหวจำลอง พายุฝน น้ำท่วม ควันไฟ ไฟไหม้ ฯลฯ
ส่วนที่ Ariake เดินใกล้ๆจากสถานี ariake ของสาย yurikamome หรือ สถานี kokusai-tenjijo ของสาย rinkai จะมี simulation ทดลองให้เอาชีวิตรอดในช่วง 72 ชม.แรกในพื้นที่ประสบภัย
ทั้งสองที่ให้ความรู้ที่จำเป็นต้องรู้ และเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายๆ เพื่อเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของเราเมื่อประสบภัย และยังเพื่อความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ในการกู้ภัยด้วย แต่เอ๊ะ?? ทำไมเราคนไทยไม่เคยเรียนนะ เอิ่ม.. ช่างมันไปเรียนรู้กันที่ญี่ปุ่นก็ได้นะครับ
ปิดท้ายด้วยคำถามจากศูนย์เรียนรู้เพื่อการรับมือภัยพิบัติที่ว่า
"เราจะสามารถปกป้องคนสำคัญของเราได้หรือไม่"
"Taisetsu na hito o mamoremasu ka?"
หลังจากเสร็จสิ้นการเยี่ยมชมแล้ว ความรู้ที่ได้จากศูนย์รับมือภัยพิบัติ ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเราเองเท่านั้น แต่เรายังจะสามารถถ่ายทอดสู่คนสำคัญของเรา ให้รู้จักวิธีรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างถูกต้องอีกด้วย การมาเยี่ยมเยือนศูนย์รับมือภัยพิบัติ จึงได้ประโยชน์กับตัวเองและคนสำคัญของเราแน่นอนครับ
ปล. 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ของผู้ประสบภัยญี่ปุ่นรอดชีวิต
เวลาที่ท่านทั้งหลายไปเที่ยวญี่ปุ่นคงไม่อยากจะคิดว่าเราอาจจะได้เป็นส่วนร่วมของเหตุภัยพิบัติเหล่านั้นใช่ไหมครับ
อ๊ะๆ อย่าเพิ่งวิตกไป อุบัติเหตุ ภัยพิบัติต่างๆเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยที่เราไม่อาจคาดเดาได้ ต่อให้อยู่เมืองไทยก็อาจเกิดขึ้นได้ ถ้ามันเป็นคราวเคราะห์จริงๆ
ตัวผู้เขียนเองไปญี่ปุ่น เฉพาะไปเที่ยวนับรวมกันได้เกือบ 30 ครั้งแล้ว โชคดีตลอดไม่เคยต้องเป็นผู้ประสบภัยเลย แต่อย่างไรก็ดีเราก็ไม่ควรประมาทเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ที่เมืองไทยหรือญี่ปุ่นนะครับ
จากที่เกริ่นมา เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นผจญภัยพิบัติอยู่สม่ำเสมอ การไปเยี่ยมชมที่ศูนย์เรียนรู้เพื่อรับมือกับภัยพิบัติของญี่ปุ่นจึงเป็นอีกที่หนึ่งที่น่าสนใจมากครับ
เมื่อเกิดไฟไหม้ น้ำท่วม พายุเข้า หรือแผ่นดินไหว เราจะต้องทำอย่างไรเพื่ออยู่รอด ???
คนญี่ปุ่นเรียนรู้และทบทวนตั้งแต่เด็กจนสูงอายุ จากหลายช่องทาง ทั้งจากการศึกษาในโรงเรียนและยังมีศูนย์เรียนรู้ของชุมชนในท้องถิ่นของตน
ที่ญี่ปุ่นมีศูนย์เรียนรู้เพื่อการรับมือกับภัยพิบัติมากมาย ภาษาญี่ปุ่นจะใช้คำว่า bousaikan ลอง search หาดูจะพบหลายที่เลยครับ ที่โตเกียวเท่าที่ผมเคยเจอมาก็มีอย่างน้อย 5 แห่ง เล็กใหญ่ต่างกัน แต่ทุกที่เข้าชมได้ฟรี ส่วนจัดแสดงและให้ความรู้ สามารถเข้าชมได้โดยตลอด แต่ในส่วนกิจกรรมสร้างประสบการณ์จะมีเป็นรอบๆ ควรจองก่อนล่วงหน้า เพราะถ้าเต็มแล้วอาจจะไปเสียเที่ยวครับ
ที่ศูนย์เรียนรู้ขนาดใหญ่ไฮไลท์จะอยู่ที่สามารถเข้าร่วมทดลองมีประสบการณ์รับมือกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในสถานการณ์จำลองต่างๆได้ด้วย ทำให้เราจดจำได้ง่ายและแม่นยำขึ้นกว่าการรับชมเฉยๆครับ
ยกตัวอย่างเช่นที่ Honjo Bousaikan Kinshicho เดินประมาณครึ่งกิโลเมตร ไปทาง Tokyo Sky Tree จากสถานี Kinshicho ของ JR สาย Sobu หรือรถไฟใต้ดินสาย Hanzomon จะมี simulation ให้เรามีประสบการณ์จริงกับการเผชิญภัยพิบัติ ทั้ง ห้องสร้างแผ่นดินไหวจำลอง พายุฝน น้ำท่วม ควันไฟ ไฟไหม้ ฯลฯ
ส่วนที่ Ariake เดินใกล้ๆจากสถานี ariake ของสาย yurikamome หรือ สถานี kokusai-tenjijo ของสาย rinkai จะมี simulation ทดลองให้เอาชีวิตรอดในช่วง 72 ชม.แรกในพื้นที่ประสบภัย
ทั้งสองที่ให้ความรู้ที่จำเป็นต้องรู้ และเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายๆ เพื่อเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของเราเมื่อประสบภัย และยังเพื่อความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ในการกู้ภัยด้วย แต่เอ๊ะ?? ทำไมเราคนไทยไม่เคยเรียนนะ เอิ่ม.. ช่างมันไปเรียนรู้กันที่ญี่ปุ่นก็ได้นะครับ
ปิดท้ายด้วยคำถามจากศูนย์เรียนรู้เพื่อการรับมือภัยพิบัติที่ว่า
"เราจะสามารถปกป้องคนสำคัญของเราได้หรือไม่"
"Taisetsu na hito o mamoremasu ka?"
หลังจากเสร็จสิ้นการเยี่ยมชมแล้ว ความรู้ที่ได้จากศูนย์รับมือภัยพิบัติ ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเราเองเท่านั้น แต่เรายังจะสามารถถ่ายทอดสู่คนสำคัญของเรา ให้รู้จักวิธีรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างถูกต้องอีกด้วย การมาเยี่ยมเยือนศูนย์รับมือภัยพิบัติ จึงได้ประโยชน์กับตัวเองและคนสำคัญของเราแน่นอนครับ
ปล. 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ของผู้ประสบภัยญี่ปุ่นรอดชีวิต
