นานาซากุระ

ฤดูแห่งการเริ่มต้นอย่างฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งหลังจากผ่านพ้นฤดูหนาวไปแล้วนั้น ทุกสิ่งรอบตัวก็จะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ดอกไม้ใบหญ้าต่างเริ่มผลิดอกออกอวดสายตาให้ได้ชมกัน และถ้าพูดถึงประเทศญี่ปุ่นแล้วละก็ คงต้องเป็นต้นซากุระและดอกซากุระ ดอกไม้สีหวาน กลีบบางที่จะเริ่มเบ่งบานในช่วงที่อากาศอบอุ่นซึ่งเป็นสัญญาณหนึ่งว่าฤดูใบไม้ผลิที่ได้มาเยือนแล้ว จนมีธรรมเนียมที่กลายเป็นเทศกาลชมดอกซากุระ (花見 (Hanami)) เกิดขึ้น แต่ว่าซากุระนั้นมีลักษณะอย่างไร ซากุระแบบไหนกันที่เป็นที่นิยมกันนะ วันนี้เราจะนำเสนอซากุระนานาชนิดค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไปทำความรู้จักกับซากุระกันเลยค่ะ



ซากุระจัดว่าเป็นต้นไม้ที่คู่กับประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่อดีต ซึ่งมีกว่าหลายร้อยชนิด สีสันมากมาย และยังมีเทศกาลที่มาคู่กับดอกซากุระก็คือ การชมดอกซากุระ ซึ่งหากย้อนไปถึงการชมดอกซากุระในสมัยโบราณเก่าก่อนนั้น ผู้คนมักนิยมซากุระพันธุ์ Edohigan zakura ต้นซากุระที่ให้ดอกซากุระเป็นสีแดงอ่อนโดยจะพบเห็นในช่วงปลายเดือนมีนาคม และต่อมาในช่วงปลายของยุคสมัยเอโดะได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ต้นซากุระ ระหว่างสายพันธุ์ "Edohigan zakura" กับ "Oshima zakura"

           

ซึ่ง Oshima zakura นั้นเป็นต้นซากุระสายพันธุ์ดั้งเดิม ที่จะพบทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น เป็นซากุระที่มีกลิ่นหอม ให้ดอกซากุระสีขาว มีกลีบดอกห้ากลีบ และจะบานในช่วงต้นเดือนเมษายนเป็นต้นไป ซึ่งจากผลของการพัฒนาทั้งสองสายพันธุ์ก็ทำให้ได้ต้นซากุระพันธุ์ Somei yoshino ต้นซากุระสายพันธุ์ยอดนิยม ที่หาชมได้ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศญี่ปุ่น ดอกซากุระที่ได้จะมีสีขาวอมชมพูอ่อนระเรื่อสวยหวาน มีกลีบดอกทั้งหมดห้ากลีบ และจะบานเต็มที่ในช่วงต้นเดือนเมษายนเป็นต้นไป



ซากุระสายพันธุ์ต่อมาคือ Kawazu zakura ซากุระที่โดดเด่นในเรื่องของการผลิดอกออกมาให้เราชมเร็วกว่าซากุระพันธุ์อื่นๆ ซึ่งจะเริ่มบานช่วงกลางเดือนกุมภาพันธุ์เป็นต้นไป ในส่วนของดอกจะเป็นสีชมพู และมีกลีบดอกด้วยกันทั้งหมดห้ากลีบค่ะ ดอกไม้ดอกน้อยๆ อย่างนี้แต่มีความพิเศษเฉพาะตัวไม่เหมือนกันเสียด้วย                 



ถัดมาคือสายพันธุ์ Kanhi zakura ซากุระที่ผลิดอกสวยสีชมพูเข้ม มีกลีบดอกทั้งหมดห้ากลีบ รูปทรงของดอกซากุระคล้ายกับระฆัง โดย Kanhi zakura จะเริ่มออกดอกบานสะพรั่งช่วงตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมเป็นต้นไป         



ต่อมาเป็นซากุระพันธุ์ผสม ที่บอกว่าพันธุ์ผสมนั้นมีที่มานะคะ นั่นเพราะมีการผสมผสานกันระหว่าง Oshima zakura กับ Kanhi zakura จนได้ออกมาเป็น Okan zakura ซากุระที่มีสีของดอกเป็นสีชมพู มีกลีบดอกทั้งหมดห้ากลีบ และฐานรองดอกซากุระมีรูปทรงเหมือนระฆัง ซึ่งจะมีสีเขียวปนสีน้ำตาลแก่ ชวนแปลกตาไปอีกแบบค่ะ                       



เรามาต่อกันที่ Shidare zakura ซากุระที่ออกดอกในลักษณะคล้ายกับหยดน้ำที่บานกันเป็นพุ่มกลุ่มห้อยระย้า มีสีชมพูอ่อนระเรื่อ กลีบดอกมีด้วยกันห้ากลีบ โดยจะผลิดอกบานให้ได้ชมกันช่วงกลางเดือนมีนาคมหรือต้นเดือนเมษายนเป็นต้นไป        



ถัดมาค่ะ เป็นซากุระสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยเพราะว่าสามารถหาชมได้ตามพื้นที่โดยทั่วไปของประเทศญี่ปุ่น นั่นคือ Yama zakura ซากุระดอกน้อยที่มีกลีบดอกด้วยกันห้ากลีบ ส่วนดอกซากุระนั้นมีทั้งสีขาวและสีชมพู โดยเราจะได้ยลความสวยของ Yama zakura ได้ในช่วงต้นเดือนเมษายนเป็นต้นค่ะ               



ซากุระสายพันธุ์ต่อมาค่ะ คือ Shiogama zakura ซากุระที่มีประวัติอันยาวนาน โดย Shiogama zakura นั้น ที่ส่วนของดอกจะมีลักษณะของการซ้อนกัน 8 ชั้น โดยจะมีกลีบดอกที่มากกว่าซากุระพันธุ์อื่น คือมีกลีบดอกตั้ง 25 กลีบขึ้นไป อาจจะมากถึง 50 กลีบค่ะ สีของดอกซากุระจะเป็นสีขาวอมชมพูอ่อน เมื่อบานเต็มที่แล้วดอกจะฟูหนากว่าซากุระทั่วไป ซึ่งช่วงเวลาที่ Shiogama zakura บานนั้นคือช่วงกลางเดือนเมษายนเป็นต้นไป และด้วยความที่เป็นซากุระที่มีประวัติมายาวนานนี่เอง จึงทำให้ Shiogama zakura ได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อยค่ะ



เรามาต่อกันที่ซากุระสีเหลืองค่ะ คือ  Ucon zakura ค่ะ ซากุระที่ออกจากแปลกกว่าพันธุ์อื่นๆ ตรงที่มีดอกสีเหลืองและใบมีสีเขียวปนเหลืองอ่อน โดย Ucon zakura มีกลีบดอกตั้งแต่ 10-25 กลีบ และจะเริ่มออกดอกอวดโฉมสวยๆ ให้เราได้ชมกันในช่วงประมาณกลางเดือนเมษายนเป็นต้นไป



ต่อไปค่ะ  Kanzen zakura ซากุระดอกหนา 8 ชั้น มีกลีบดอกตั้งแต่ 25-50 กลีบ สีของดอกซากุระจะมีสีชมพูเข้ม และจะออกดอกบานสะพรั่งตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเลยไปจนถึงปลายเดือนเมษายน โดย Kanzen zakura เป็นซากุระอีกสายพันธุ์หนึ่งที่จะพบเห็นได้ทั่วประเทศญี่ปุ่น  และยังถือได้ว่า Kanzen zakura เป็นสายพันธุ์ที่เจริญเติบโตได้เร็ว มีความแข็งแรง และทนทานต่อสภาพแวดล้อมและแมลงต่างๆ ได้ดี ทำให้ Kanzen zakura เป็นที่นิยมในการนำไปปลูกไว้ที่สวนสาธารณะและเมืองต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ                   



จากนั้น เราไปต่อกันที่ Fugenzo zakura ซากุระที่มีกลีบดอกเยอะอีกสายพันธุ์หนึ่งค่ะ เพราะมีกลีบดอกตั้งแต่ 30-40 กลีบต่อหนึ่งดอกเลยละค่ะ และสีของดอกจะมีสองสีสองช่วงค่ะ ซึ่งก็คือ ในตอนที่ดอกบานใหม่ๆ นั้นจะให้สีชมพูอ่อนระเรื่อ ก่อนที่สีจะเปลี่ยนเป็นชมพูเข้มขึ้นเรื่อยๆ  ตามการเบ่งบานของดอกซากุระ โดยสามารถชม Fugenzo zakura ได้ในช่วงตั้งกลางเดือนไปจนถึงปลายเดือนเมษายนเป็นต้นไป



ยังไม่หมดนะคะ ไปต่อกันด้วย Ichiyo zakura ซากุระที่มีกลีบฟูๆ เพราะมีกลีบประมาณ 20 กลีบต่อหนึ่งดอก โดยตัวดอกจะซ้อนกันเป็นชั้นๆ สวยงาม เป็นซากุระอีกสายพันธุ์หนึ่งที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในประเทศญี่ปุ่นและสามารถพบเห็น Ichiyo zakura บานสะพรั่งได้ในช่วงกลางเดือนเมษายนเป็นต้นไปค่ะ                



สายพันธุ์ต่อคือ Kiku zakura ซากุระที่มีหน้าตาไปคล้ายกับดอกเก๊กฮวยค่ะ แต่มันคือซากุระนะจ๊ะ โดยมีกลีบดอกประมาณ 50 กลีบขึ้นไป Kiku zakura จะอวดโฉมดอกสวยให้เราชมในช่วงปลายเดือนเมษายนไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป



                           Kiku zakuraและสายพันธุ์ต่อมา ซากุระเดือนตุลาคม Jugatsu zakura ซากกุระสีชมพูอ่อนสวย กลีบบางห้ากลีบ ซึ่ง Jugatsu zakura จะออกดอกบานให้เราได้ชมกันตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนมกราคมเป็นต้นไปจนกว่าดอกซากุระจะร่วงโรยไปค่ะ



จัดได้ว่าซากุระแต่ละสายพันธุ์นั้นก็มีเอกลักษณ์เป็นของแต่ละต้นเองอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้าหากท่านใดหลงใหลในความสวยงามของดอกซากุระและอากาศที่อบอุ่นกำลังดีแล้วละก็ เราแนะนำให้จัดตารางไปเที่ยวและเตรียมของไปปิกนิกใต้ต้นซากุระกันดูสักครั้งนะคะ รับรองว่า ไม่ผิดหวังค่ะ

ข้อมูลจาก http://www.j-campus.com/article/view.php?id=1011

https://allabout-japan.com/th/article/2340/ , https://www.japan-guide.com/e/e2011_species.html