ทุกวันนี้ร้านอาหารอิซากายะก็ต้องบอกเลยว่ามีอยู่มากมาย ลองมาคิดๆ ดูว่าเหล่าร้านที่เปิดให้บริการมาอย่างยาวนานและปัจจุบันก็ยังให้บริการอยู่ท่ามกลางการแข่งขันกันอย่างดุเดือด แสดงว่าต้องมีของดีทีเด็ดอยู่กันกับตัวใช่ไหมล่ะ วันนี้เราก็มีร้านอาหารอิซากายะมาแนะนำให้ได้รู้จักกัน นับว่าเป็นอีกหนึ่งร้านรุ่นเก๋าที่อยู่คู่กับชาวไทยมานานเลยทีเดียวล่ะ
ร้านนี้มีชื่อว่า Sake no Mise เป็นร้านอิซากายะสูตรตำรับญี่ปุ่นแท้ๆ ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1990 หรือเมื่อเกือบ 26 ปีที่แล้วโดยเจ้าของร้านรุ่นแรกชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อว่าคุณเรียวอิจิ ที่ได้แต่งงานกับภรรยาชาวไทย สืบทอดความอร่อยมาจนถึงเจ้าของร้านรุ่นที่ 2 ที่สั่งสมประสบการณ์ในการทำร้านอาหารตำรับมาอย่างเต็มที่ โดยทีเด็ดของร้านนี้นอกจากมีเมนูแสนอร่อยกว่า 300 เมนูแล้ว อีกอย่างหนึ่งก็คือการคัดเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่โดยเฉพาะปลา เจ้าของร้านเลือกซื้อปลาสดๆ ด้วยตัวเองจากชาวประมง แถมยังใจดีนิสัยน่ารัก เพราะเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น จึงสามารถพูดคุยกับลูกค้าได้ทั้ง 2 ภาษา ทั้งยังเป็นกันเองและอัธยาศัยดี ทำให้ลูกค้าที่มาส่วนใหญ่จะติดใจและมาทานอาหารที่ร้านอีกเพื่อคุยกับเจ้าของ ร้านนั่นเอง
ร้าน Sake no Mise ถูกตกแต่งออกมาในสไตล์ญี่ปุ่นสวยงามบรรยากาศดีเลยทีเดียวล่ะ โดยมีที่นั่งทั้งเคาน์เตอร์บาร์, โต๊ะ 2 - 4 ที่ รวมถึงห้องญี่ปุ่นขนาด 5- 10 ที่นั่งและ 12 - 26 ที่นั่ง เรียกได้ว่าครอบคลุมทั้งหมด ไม่ว่าจะมาเป็นคู่, มาเป็นครอบครัว หรือว่างานเลี้ยงสังสรรค์ก็อยู่หมัดจบครบในที่เดียวเลย โดยร้านแบ่งออกเป็น 3 ชั้น
ที่นั่งเคาน์เตอร์บาร์ จิบเบียร์ลิ้มรสอาหารพร้อมชมเชฟทำอาหารไปด้วย
ห้องขนาดใหญ่ รองรับได้สูงสุดถึง 21 คน เพื่อไม่เป็นการเสียเที่ยว ควรโทรจองกับทางร้านก่อนนะจ๊ะ
เมนูนี้ต้องบอกเลยว่าไฮโซดูดีเวทียูนิเวิร์สมากๆ เพราะทางร้าน Sake no Mise ตอนนี้เขามีให้บริการอาหารมื้อกลางวันให้ได้ไปอิ่มอร่อยกัน สนนราคาก็อยู่ตั้งแต่เซ็ต 180 บาทขึ้นไป เป็นเมนูประจำวันที่จะสลับสับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทุกวัน และวันนี้ก็เป็นคิวของเมนูของทอดซอสนัมบัง ที่มากับไก่ทอดกรุบกรอบชิ้นโตๆ รสเข้มข้นถึงสามชิ้นด้วยกัน ราดทับด้วยซอสนัมบังสูตรเฉพาะรสชาติกลมกล่อมเข้ากับไก่ทอดสุดๆ ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ล่ะก็ลืมอิ่มกันเลยทีเดียว
ทีเด็ดซาชิมิที่มีความสดในระดับไม่ธรรมดา จากฝีมือการเลือกซื้อปลาสดๆ จากชาวประมง จนได้ปลาอาจิสดๆ มาทำเป็นซาชิมิสดใหม่ ไม่มีเหม็นคาวแม้แต่น้อย มาพร้อมความหวานกรอบของเนื้อปลาเคี้ยวเพลินลิ้น ส่วนก้างที่เหลือสามารถนำไปต้มเป็นซุปหรือว่านำไปทอดก็ได้
รวมมิตรซูชิสะดุ้งไฟ ที่ทางร้านจะคัดเลือกปลาสดๆ มาทำเป็นอาบุริซูชิ โดยแต่ละวันนั้นก็จะมีเมนูที่แตกต่างกันออกไปตามคุณภาพของปลาในวันนั้นๆ ที่คือความเป็นมืออาชีพแบบร้านในญี่ปุ่นที่จะคัดเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดให้ลูกค้าได้ทาน อันไหนไม่อร่อยก็ไม่นำมาขาย โดยในที่นี้จะมีด้วยกัน 5 อย่าง ได้แก่แซลมอน, ฟัวกรา, ฮามาจิ,ปลาไหล และครีบปลาตาเดียว ใครมีเมนูในใจแล้วอยากไปทาน อันนี้แนะนำให้โทรเข้าที่ร้านได้เลยว่าวันนี้มีปลาอะไรเข้าร้าน จะได้ไปไม่เสียเที่ยวนะจ๊ะ
ซาชิมิปลาหมึกสด ที่เจ้าของร้านเขาไปเลือกซื้อเองกับมือสดๆ กับชาวประมงเลย หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าจริงๆ แล้วปลาหมึกกล้วยของไทยเนี้ย รสชาติอร่อยกว่าของญี่ปุ่นซะอีก ทำให้ซาชิมิปลาหมึกสดของที่นี่มีความหวานกรอบตั้งแต่สัมผัสแรกที่เข้าปากและมีความหนึบนิดๆ เป็นกับแกล้มชั้นยอดแนะนำเลย
ร้านนี้มีชื่อว่า Sake no Mise เป็นร้านอิซากายะสูตรตำรับญี่ปุ่นแท้ๆ ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1990 หรือเมื่อเกือบ 26 ปีที่แล้วโดยเจ้าของร้านรุ่นแรกชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อว่าคุณเรียวอิจิ ที่ได้แต่งงานกับภรรยาชาวไทย สืบทอดความอร่อยมาจนถึงเจ้าของร้านรุ่นที่ 2 ที่สั่งสมประสบการณ์ในการทำร้านอาหารตำรับมาอย่างเต็มที่ โดยทีเด็ดของร้านนี้นอกจากมีเมนูแสนอร่อยกว่า 300 เมนูแล้ว อีกอย่างหนึ่งก็คือการคัดเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่โดยเฉพาะปลา เจ้าของร้านเลือกซื้อปลาสดๆ ด้วยตัวเองจากชาวประมง แถมยังใจดีนิสัยน่ารัก เพราะเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น จึงสามารถพูดคุยกับลูกค้าได้ทั้ง 2 ภาษา ทั้งยังเป็นกันเองและอัธยาศัยดี ทำให้ลูกค้าที่มาส่วนใหญ่จะติดใจและมาทานอาหารที่ร้านอีกเพื่อคุยกับเจ้าของ ร้านนั่นเอง
โปรโมชั่นพิเศษ
เซ็ตอาหารกลางวันหลากหลายเมนู ราคาเริ่มต้นที่ 180 บาท พร้อมข้าวสวยเติมได้ไม่อั้น ตั้งแต่เวลา 11.30 - 14.00 เท่านั้น
ร้าน Sake no Mise ถูกตกแต่งออกมาในสไตล์ญี่ปุ่นสวยงามบรรยากาศดีเลยทีเดียวล่ะ โดยมีที่นั่งทั้งเคาน์เตอร์บาร์, โต๊ะ 2 - 4 ที่ รวมถึงห้องญี่ปุ่นขนาด 5- 10 ที่นั่งและ 12 - 26 ที่นั่ง เรียกได้ว่าครอบคลุมทั้งหมด ไม่ว่าจะมาเป็นคู่, มาเป็นครอบครัว หรือว่างานเลี้ยงสังสรรค์ก็อยู่หมัดจบครบในที่เดียวเลย โดยร้านแบ่งออกเป็น 3 ชั้น
ที่นั่งเคาน์เตอร์บาร์ จิบเบียร์ลิ้มรสอาหารพร้อมชมเชฟทำอาหารไปด้วย
ห้องขนาดใหญ่ รองรับได้สูงสุดถึง 21 คน เพื่อไม่เป็นการเสียเที่ยว ควรโทรจองกับทางร้านก่อนนะจ๊ะ
ห้องส่วนตัวขนาดเล็ก 4 ที่นั่งมีมากมาย
เซ็ตอาหารกลางวัน ไก่ทอดซอสนัมบัง / 200 บาท
เมนูนี้ต้องบอกเลยว่าไฮโซดูดีเวทียูนิเวิร์สมากๆ เพราะทางร้าน Sake no Mise ตอนนี้เขามีให้บริการอาหารมื้อกลางวันให้ได้ไปอิ่มอร่อยกัน สนนราคาก็อยู่ตั้งแต่เซ็ต 180 บาทขึ้นไป เป็นเมนูประจำวันที่จะสลับสับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทุกวัน และวันนี้ก็เป็นคิวของเมนูของทอดซอสนัมบัง ที่มากับไก่ทอดกรุบกรอบชิ้นโตๆ รสเข้มข้นถึงสามชิ้นด้วยกัน ราดทับด้วยซอสนัมบังสูตรเฉพาะรสชาติกลมกล่อมเข้ากับไก่ทอดสุดๆ ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ล่ะก็ลืมอิ่มกันเลยทีเดียว
ซาชิมิปลาอาจิ / 350 บาท
ทีเด็ดซาชิมิที่มีความสดในระดับไม่ธรรมดา จากฝีมือการเลือกซื้อปลาสดๆ จากชาวประมง จนได้ปลาอาจิสดๆ มาทำเป็นซาชิมิสดใหม่ ไม่มีเหม็นคาวแม้แต่น้อย มาพร้อมความหวานกรอบของเนื้อปลาเคี้ยวเพลินลิ้น ส่วนก้างที่เหลือสามารถนำไปต้มเป็นซุปหรือว่านำไปทอดก็ได้
อะบุริซูชิ เซ็ต / 750 บาท
รวมมิตรซูชิสะดุ้งไฟ ที่ทางร้านจะคัดเลือกปลาสดๆ มาทำเป็นอาบุริซูชิ โดยแต่ละวันนั้นก็จะมีเมนูที่แตกต่างกันออกไปตามคุณภาพของปลาในวันนั้นๆ ที่คือความเป็นมืออาชีพแบบร้านในญี่ปุ่นที่จะคัดเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดให้ลูกค้าได้ทาน อันไหนไม่อร่อยก็ไม่นำมาขาย โดยในที่นี้จะมีด้วยกัน 5 อย่าง ได้แก่แซลมอน, ฟัวกรา, ฮามาจิ,ปลาไหล และครีบปลาตาเดียว ใครมีเมนูในใจแล้วอยากไปทาน อันนี้แนะนำให้โทรเข้าที่ร้านได้เลยว่าวันนี้มีปลาอะไรเข้าร้าน จะได้ไปไม่เสียเที่ยวนะจ๊ะ
ซาชิมิปลาหมึก / 350 บาท
ซาชิมิปลาหมึกสด ที่เจ้าของร้านเขาไปเลือกซื้อเองกับมือสดๆ กับชาวประมงเลย หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าจริงๆ แล้วปลาหมึกกล้วยของไทยเนี้ย รสชาติอร่อยกว่าของญี่ปุ่นซะอีก ทำให้ซาชิมิปลาหมึกสดของที่นี่มีความหวานกรอบตั้งแต่สัมผัสแรกที่เข้าปากและมีความหนึบนิดๆ เป็นกับแกล้มชั้นยอดแนะนำเลย
เมนูอาหารกลางวัน ไก่ทอดซอสนัมบัง แค่ชิ้นเดียวก็เต็มชามข้าวแล้ว อร่อยและคุ้มมากๆ
ซาชิมิปลาอาจิสดๆ กรอบหวานเคี้ยวเพลินเจริญใจมากๆ