OUTER ROOM บาร์เหล้าและร้านอาหารอเมริกาใต้ผสมผสานกับอาหารญี่ปุ่น เปิดให้บริการมากว่า 7 ปีแล้ว จุดเด่นของร้านอยู่ที่อาหารสไตล์ TEXMEX (Texas and Mexico) ที่นำมาผสมผสานกับความเป็นญี่ปุ่น โดยใส่เครื่องปรุงรสของญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว เพื่อให้ชาวเอเชียทานได้ง่ายขึ้น ซึ่งเมนูสไตล์นี้เกิดจากความชอบของเจ้าของร้านที่รู้สึกว่าอาหาร TEXMEX คืออาหารที่เหมาะกับเบียร์, เหล้า และค็อกเทลที่สุดนั่นเอง
ร้าน OUTER ROOM ออกแบบและตกแต่งในสไตล์โตเกียว ซึ่งในโตเกียวส่วนใหญ่จะเป็นตึกที่มีหลายๆ ร้านรวมกัน ทำให้มีความแตกต่างกันไปตามแต่ละชั้น เลยเกิดไอเดียเอาทุกอย่างมารวมกันในตึกเดียว
ชั้น 1 เป็นส่วนของบาร์และร้านอาหาร จะมีโต๊ะอาหาร 4 ที่นั่งทั้งหมด 3 โต๊ะ และมีโต๊ะสำหรับสูบบุหรี่ที่ระเบียงหน้าร้านอีก 1 โต๊ะ นอกนั้นก็จะเป็นส่วนของเคาท์เตอร์ 6 ที่นั่งไว้คอยให้บริการ
ชั้น 2 จะแบ่งเป็นโต๊ะนั่งที่แยกเป็นส่วนตัวและเคาท์เตอร์ นอกจากนี้ก็มีตู้ปาเป้า (Dart Board) ไว้ให้บริการผู้ที่ชื่นชอบการปาเป้า ที่ร้าน OUTER ROOM จะมีทีมแข่งปาเป้าของร้านเองด้วย ปกติจะไปแข่งกับทีมจากร้านอื่นๆ โดยเปลี่ยนสถานที่วนแข่งไปตามร้านต่างๆ
ชั้น 3 จะมีห้องคาราโอเกะ 2 ห้อง (ขนาด 8 คน และ 10 คน) ค่าห้องคาราโอเกะ 500 บาทต่อ 2 ชั่วโมง โดยไม่จำกัดจำนวนคน แต่ทุกคนต้องออร์เดอร์อาหารคนละ 300 บาทขึ้นไป และข้างนอกก็มีเคาท์เตอร์นั่งดื่ม, ตู้ Dart Board ไว้ให้บริการอีก 2 ตู้ และยังมีที่นั่งสำหรับสูบบุหรี่ไว้ให้บริการอีกด้วย
ชั้น 4 เป็นห้องคาราโอเกะห้องใหญ่ จุได้ 16 คน ค่าห้อง 800 บาทต่อ 2 ชั่วโมง โดยไม่จำกัดจำนวนเหมือนกัน แต่ทุกคนต้องสั่งอาหารคนละ 300 บาทขึ้นไปเช่นกัน
สลัดอะโวคาโด ใส่ผักกาดหอม, มะเขือเทศ และกุ้ง คลุกด้วยน้ำสลัดญี่ปุ่นเปรี้ยวๆ เข้ากับอะโวคาโดและกุ้งรสชาติหวานๆ ได้เป็นอย่างดี ราดด้วยซอสมัสตาร์ดช่วยเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น
อาหารลูกผสมระหว่างเม็กซิกันและญี่ปุ่น แป้งโทกิย่า เนื้อไก่ และอะโวคาโดจากอาหารเม็กซิกัน ผสมกับใบโอบะและซอสบ๊วยสับสไตล์ญี่ปุ่น เวลาทานให้ราดด้วยซอส Salsa สูตรต้นตำรับแท้ที่อิมพอร์ทมาจากประเทศต้นตำรับ รสชาติอาหารลงตัวเข้ากันดี อร่อยมากๆ
สปาเก็ตตี้ไข่ปลาญี่ปุ่นใส่กุ้งและปลาหมึก เป็นเมนูที่ขายดีที่สุดของร้านที่ลูกค้าชอบสั่งทาน ลูกค้าหลายคนที่มาทานมักจะเขียนรีวิวถึงเมนูนี้เสมอ รสชาติก็หวานๆ มันๆ เคี้ยวแล้วกรุบๆ ไข่ปลา อร่อยกำลังดี แนะนำให้ลองชิมเมนูนี้กัน
อาหาร Cajun ทางใต้ของอเมริกา ลักษณะเป็นข้าวคลุกในกระทะร้อน ประกอบด้วยเนื้อหมักงา ข้าวหมักผงกะหรี่ ไข่ดาว ซอสซัลซ่า และผักต่างๆ คลุกให้เข้ากันแล้วทานตอนร้อนๆ จะอร่อยมาก รสชาติจะเผ็ดร้อนนิดหน่อยสไตล์เม็กซิกัน แนะนำให้ลองชิมอีกเมนู ที่ร้านจะมีพนักงานบริการคลุกข้าวให้ด้วย
มันฝรั่งนาโช่ส์ที่เกิดจากไอเดียของเจ้าของร้าน ราดซอส 3 ชนิด มี Sour cream, Guacamole และ Salsa รสชาติเข้ากันกับมันฝรั่งดี มันฝรั่งจะออกนุ่มๆ หน่อย ทานได้เรื่อยๆ
อาหารขึ้นชื่อของโอกินาว่าซึ่งเจ้าของร้านนำมาประยุกต์ให้เข้ากับเมนูของ ร้าน นำเครื่องปรุงทุกชนิดใส่ลงไป ราดด้วยซอส Guacamole และ Salsa ก่อนจะทานต้องคลุกให้เข้ากัน รสชาติจะคล้ายกับทาโก้ส์ที่เป็นอาหารเม็กซิกัน อร่อยดี
ค็อกเทลของร้าน OUTER ROOM ส่วนใหญ่จะใช้ผลไม้สดมากมาเป็นส่วนประกอบ เพราะเมืองไทยมีผลไม้เยอะ เป็นจุดเด่น เลยอยากทำค็อกเทลที่เน้นผลไม้เยอะๆ Mango Lassi นี้ก็ใช้มะม่วงของไทยเป็นส่วนประกอบ ผสมกับโยเกิร์ต, เหล้ารัม และน้ำมะนาวอีกนิดหน่อย เป็นค็อกเทลที่ขายดีมากๆ ของร้าน ลูกค้าผู้หญิงจะชอบทานมาก นอกจากนี้ยังมี Lassi ที่ทำจากกล้วยและสตรอเบอร์รี่ด้วย
Caipiroska แก้วนี้ทำจากสตรอเบอร์รี่ผสมกับว็อดก้า และพิเศษตรงมีเนื้อสตรอเบอร์รี่อยู่เยอะมากๆ เวลาดื่มจะได้สัมผัสกับเนื้อผลไม้เต็มๆ นอกจากสตรอเบอร์รี่ก็ยังมี Caipiroska ที่ทำจากกีวี, เสาวรส, เมล่อน และมะม่วงไทยอีกด้วย
ร้าน OUTER ROOM ออกแบบและตกแต่งในสไตล์โตเกียว ซึ่งในโตเกียวส่วนใหญ่จะเป็นตึกที่มีหลายๆ ร้านรวมกัน ทำให้มีความแตกต่างกันไปตามแต่ละชั้น เลยเกิดไอเดียเอาทุกอย่างมารวมกันในตึกเดียว
ชั้น 1 เป็นส่วนของบาร์และร้านอาหาร จะมีโต๊ะอาหาร 4 ที่นั่งทั้งหมด 3 โต๊ะ และมีโต๊ะสำหรับสูบบุหรี่ที่ระเบียงหน้าร้านอีก 1 โต๊ะ นอกนั้นก็จะเป็นส่วนของเคาท์เตอร์ 6 ที่นั่งไว้คอยให้บริการ
ชั้น 2 จะแบ่งเป็นโต๊ะนั่งที่แยกเป็นส่วนตัวและเคาท์เตอร์ นอกจากนี้ก็มีตู้ปาเป้า (Dart Board) ไว้ให้บริการผู้ที่ชื่นชอบการปาเป้า ที่ร้าน OUTER ROOM จะมีทีมแข่งปาเป้าของร้านเองด้วย ปกติจะไปแข่งกับทีมจากร้านอื่นๆ โดยเปลี่ยนสถานที่วนแข่งไปตามร้านต่างๆ
ชั้น 3 จะมีห้องคาราโอเกะ 2 ห้อง (ขนาด 8 คน และ 10 คน) ค่าห้องคาราโอเกะ 500 บาทต่อ 2 ชั่วโมง โดยไม่จำกัดจำนวนคน แต่ทุกคนต้องออร์เดอร์อาหารคนละ 300 บาทขึ้นไป และข้างนอกก็มีเคาท์เตอร์นั่งดื่ม, ตู้ Dart Board ไว้ให้บริการอีก 2 ตู้ และยังมีที่นั่งสำหรับสูบบุหรี่ไว้ให้บริการอีกด้วย
ชั้น 4 เป็นห้องคาราโอเกะห้องใหญ่ จุได้ 16 คน ค่าห้อง 800 บาทต่อ 2 ชั่วโมง โดยไม่จำกัดจำนวนเหมือนกัน แต่ทุกคนต้องสั่งอาหารคนละ 300 บาทขึ้นไปเช่นกัน
Shrimp and Avocado Salad 220 Baht/บาท
สลัดอะโวคาโด ใส่ผักกาดหอม, มะเขือเทศ และกุ้ง คลุกด้วยน้ำสลัดญี่ปุ่นเปรี้ยวๆ เข้ากับอะโวคาโดและกุ้งรสชาติหวานๆ ได้เป็นอย่างดี ราดด้วยซอสมัสตาร์ดช่วยเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น
Outer Roll 180 Baht/บาท
อาหารลูกผสมระหว่างเม็กซิกันและญี่ปุ่น แป้งโทกิย่า เนื้อไก่ และอะโวคาโดจากอาหารเม็กซิกัน ผสมกับใบโอบะและซอสบ๊วยสับสไตล์ญี่ปุ่น เวลาทานให้ราดด้วยซอส Salsa สูตรต้นตำรับแท้ที่อิมพอร์ทมาจากประเทศต้นตำรับ รสชาติอาหารลงตัวเข้ากันดี อร่อยมากๆ
Mentaiko Spaghetti 320 Baht/บาท
สปาเก็ตตี้ไข่ปลาญี่ปุ่นใส่กุ้งและปลาหมึก เป็นเมนูที่ขายดีที่สุดของร้านที่ลูกค้าชอบสั่งทาน ลูกค้าหลายคนที่มาทานมักจะเขียนรีวิวถึงเมนูนี้เสมอ รสชาติก็หวานๆ มันๆ เคี้ยวแล้วกรุบๆ ไข่ปลา อร่อยกำลังดี แนะนำให้ลองชิมเมนูนี้กัน
Beef Jambaraya 280 Baht/บาท
อาหาร Cajun ทางใต้ของอเมริกา ลักษณะเป็นข้าวคลุกในกระทะร้อน ประกอบด้วยเนื้อหมักงา ข้าวหมักผงกะหรี่ ไข่ดาว ซอสซัลซ่า และผักต่างๆ คลุกให้เข้ากันแล้วทานตอนร้อนๆ จะอร่อยมาก รสชาติจะเผ็ดร้อนนิดหน่อยสไตล์เม็กซิกัน แนะนำให้ลองชิมอีกเมนู ที่ร้านจะมีพนักงานบริการคลุกข้าวให้ด้วย
Potato Nachos 250 Baht/บาท
มันฝรั่งนาโช่ส์ที่เกิดจากไอเดียของเจ้าของร้าน ราดซอส 3 ชนิด มี Sour cream, Guacamole และ Salsa รสชาติเข้ากันกับมันฝรั่งดี มันฝรั่งจะออกนุ่มๆ หน่อย ทานได้เรื่อยๆ
Tacos Rice 210 Baht/บาท
อาหารขึ้นชื่อของโอกินาว่าซึ่งเจ้าของร้านนำมาประยุกต์ให้เข้ากับเมนูของ ร้าน นำเครื่องปรุงทุกชนิดใส่ลงไป ราดด้วยซอส Guacamole และ Salsa ก่อนจะทานต้องคลุกให้เข้ากัน รสชาติจะคล้ายกับทาโก้ส์ที่เป็นอาหารเม็กซิกัน อร่อยดี
Mango Lassi 250 Baht/บาท
ค็อกเทลของร้าน OUTER ROOM ส่วนใหญ่จะใช้ผลไม้สดมากมาเป็นส่วนประกอบ เพราะเมืองไทยมีผลไม้เยอะ เป็นจุดเด่น เลยอยากทำค็อกเทลที่เน้นผลไม้เยอะๆ Mango Lassi นี้ก็ใช้มะม่วงของไทยเป็นส่วนประกอบ ผสมกับโยเกิร์ต, เหล้ารัม และน้ำมะนาวอีกนิดหน่อย เป็นค็อกเทลที่ขายดีมากๆ ของร้าน ลูกค้าผู้หญิงจะชอบทานมาก นอกจากนี้ยังมี Lassi ที่ทำจากกล้วยและสตรอเบอร์รี่ด้วย
Strawberry Caipiroska 220 Baht/บาท
Caipiroska แก้วนี้ทำจากสตรอเบอร์รี่ผสมกับว็อดก้า และพิเศษตรงมีเนื้อสตรอเบอร์รี่อยู่เยอะมากๆ เวลาดื่มจะได้สัมผัสกับเนื้อผลไม้เต็มๆ นอกจากสตรอเบอร์รี่ก็ยังมี Caipiroska ที่ทำจากกีวี, เสาวรส, เมล่อน และมะม่วงไทยอีกด้วย