ลุยถิ่นดินแดนโอซาก้า มีที่ไหนน่าเที่ยวบ้างนะ

เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมถึงชาวไทยไปเที่ยวกันอย่างไม่ขาดสายไม่แพ้ที่โตเกียวเลยล่ะ สำหรับจังหวัดโอซาก้าในภาคคันไซ นครเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองของประเทศญี่ปุ่นที่มีประชากรหนาแน่นรองลงมาจากโตเกียว โดดเด่นทั้งเรื่องประวัติศาสตร์, การค้าและวัฒนธรรม ที่นี่มีทั้งแหล่งช็อปปิ้งและสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย จึงดึงดูดให้เหล่านักท่องเที่ยวหลั่งไหลมากันเป็นจำนวนมาก สำหรับใครที่ยังไม่เคยไปแล้วไม่รู้ว่าจะไปไหนดี วันนี้ก็จะมาแนะนำกันจ้า

ย่านนัมบะ (มินามิ)



เป็นหนึ่งในสองเมืองใหญ่ในจังหวัดโอซาก้าที่อยู่ทางตอนใต้ รวมความบันเทิงไว้ครบถ้วน ช็อปชิมชิลกันให้เพลินๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารเลิศรส, บาร์, ไนท์คลับ, ร้านเกม, ร้านขายของ ฯลฯ สามารถเดินทางได้ง่าย เพราะว่าเป็นศูนย์กลางทางการคมนาคมทางตอนใต้ของโอซาก้า อยู่ในเส้นทางหลักของรถไฟถึงสามสายเลยทีเดียว ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดโอซาก้า

โดทงบุริ



ย่านช็อปปิ้งยามคํ่าคืนในนัมบะที่ได้รับความนิยมที่สุดอีกแห่งหนึ่งในโอซาก้า มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลไปเป็นจำนวนมากจนบางที่ก็เบียดเสียดกันสุดๆ ถ้าไปในช่วงไฮซีซัน เป็นถนนทอดยาวขนานกับคลองโดทงบุริ ตอนกลางคืนจะเปิดไฟนีออนสวยงามระรานตา อย่างเช่นป้ายใหญ่ยักษ์รูปปูร้าน คานิโดราคุ, ป้ายกุลิโกะ รายล้อมด้วยร้านค้าต่างๆ และแหล่งบันเทิงมากมาย อีกทั้งยังเป็นสวรรค์ของเหล่านักชิมที่จะได้ลิ้มรสสุดยอดอาหารสไตล์คันไซมากมายในราคาที่ไม่แพง เพลินจนอาจจะลืมกลับที่พักก็เป็นได้ ใครไม่มานี่ถือว่าเหมือนมาไม่ถึงโอซาก้าเลยล่ะ

ชินไซบาชิสุจิ



ย่านช็อปปิ้งที่อยู่ใกล้ๆ กับโดทงบุริ ศูนย์รวมร้านค้ามากมายบนทางเดินทอดยาว ที่มีร้านเสื้อผ้าผู้หญิงและของแบรนเนมเยอะแยะมากมาย แถมแถวๆ นั้นยังมีห้างใหญ่อย่างเช่นโซโก้และไดมารุ สาวท่านไหน สนใจช็อปปิ้งก็สามารถมาเสียทรัพย์อับเงินทองกันได้ที่นี่เลยจ๊ะ 555 แล้วก็อย่าลืมเรื่องนํ้าหนักกระเป๋าด้วยล่ะ ใครที่บินกับสายการบิน ไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ หมดกังวลเรื่องน้ำหนักกระเป๋า เพราะสามารถเลือกซื้อน้ำหนักสัมภาระล่วงหน้าได้สูงสุดถึง 40 กิโลกรัมที่ airasia.com สะดวกสบายและยังถูกกว่าอีกด้วย ช๊อปปิ้งกันได้อย่างจุใจไม่ต้องกลัวน้ำหนักสัมภาระเกินแน่นอน

นิปปอนบาชิ (เด็น เด็น ทาวน์)



แหล่งรวมของอิเลคทรอนิคส์คล้ายๆ กับย่านอากิฮาบาระในโตเกียว และเป็นศูนย์รวมของเหล่าคนคลั่งไคล้การ์ตูน ที่มีร้านขายสินค้าหนังสือการ์ตูนและอนิเมะอยู่เยอะมาก รวมถึงพวกร้านเมดคาเฟ่ทั้งหลายแหล่ก็จะอยู่ในที่นี้ด้วย ท่านใดเบื่ออากิบะแล้วก็ลองมาที่นี่กันดู

โรงละครหุ่นเชิด National Bunraku Theater



โรงละครหุ่นเชิดที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในประเทศ ซึ่งละครหุ่นเชิดนี้ได้ถูกยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมจาก UNESCO เลยทีเดียว ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการแสดงของทางญี่ปุ่นแต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะฟังไม่รู้เรื่อง เพราะว่าจะมีเสียงภาษาอังกฤษบรรยายผ่านหูฟังด้วย ในแต่ละปีจะมีการแสดงเพียงไม่กี่รอบเท่านั้น

โรงละครโชจิคุสะ



หากใครที่คิดว่าชาตินี้อยากจะดูการแสดงคาบุกิสักครั้งก็ต้องที่นี่เลย กับโรงละครโชจิคุสะที่มีการแสดงคาบุกิ ในแต่ละปีจะมีการแสดงเพียงแค่ประมาณ 5 การแสดงเท่านั้น แต่ละการแสดงก็จะรันยาวประมาณ 3 - 4 อาทิตย์ สนนราคาตั๋วก็มีตั้งแต่ 4000 - 15000 เยน แต่ทว่าที่นี่จะไม่มีหูฟังเปิดเสียงบรรยายเป็นภาษาอังกฤษให้นะ แต่จะมีเป็นหนังสือคู่มือเป็นภาษาอังกฤษวางจำหน่ายแทน

ตรอก โฮเซ็นจิ โยโกโฉะ



ย่านร้านอาหารสไตลล์เก่าแก่เรโทรโก้เก๋ที่ตั้งอยู่แถววัดโฮเซ็นจิที่เป็นตรอกที่มีความยาวเพียง 80 เมตร เมื่อมาถึงที่นี่ก็จะได้สัมผัสถึงบรรยากาศในอดีตของประเทศญี่ปุ่น เรียงรายไปด้วยร้าน Izakaya และร้านอื่นๆ รวมกันกว่า 60 ร้านเลยทีเดียว บ้างก็เป็นร้านเก่าแก่ที่อยู่มาตั้งแต่สมัยสมั้ยดั้งเดิมเมื่อหลายปีที่แล้ว พนักงานบางร้านก็มีการแต่งตัวในชุดกิโมโนะ ลากเกี๊ยะต๊อกแต๊กไปมา รู้สึกเหมือนได้ย้อนอดีตไปแปปนึงเมื่อได้อยู่ในตรอกนี้ ใครที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นหรือชอบบรรยากาศเก่าๆ ก็ของให้ลองมากันโดยพลัน

---------------------------------------

ย่านอุเมดะ (คิตะ)



เมืองใหญ่อีกหนึ่งเมืองนอกเหนือจากนัมบะ ตั้งอยู่ทางเหนือของโอซาก้า และเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญของจังหวัดโอซาก้าเลยทีเดียว ถึงจะเป็นเมืองธุรกิจที่คึกคักและอาจจะวุ่นวายไปบ้าง แต่ว่าก็มีห้างสรรพสินค้าให้ช็อปกันเพลินๆ แหล่งบันเทิงและร้านอาหารมากมายเลยทีเดียว

ฮันคิว เอนเตอร์เทนเม้นต์ พาร์ค (HEP FIVE)



แหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ใกล้ๆ สถานีอุเมดะ ที่มีจุดสังเกตง่ายๆ จากชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ ภายในมีร้านค้ามากมายถึง 300 ร้าน ส่วนใหญ่จะเป็นร้านเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายมากมายตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 6 จึงนับว่าเป็นแหล่งรวมแฟชั่นสำหรับคนหนุ่มสาวแห่งโอซาก้าเลย นอกจากนั้นที่ชั้นดาดฟ้าก็ยังมีชิงช้าสวรรค์ให้ได้นั่งชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามอีกด้วย ซึ่งชิงช้าสวรรค์นี้เป็นที่นิยมของเหล่าคู่รักไปนั่งจู๋จี๋กัน 2 ต่อสองด้วย โดยยามคํ่าคืนก็จะมีการเปิดไฟสวยงามเลยทีเดียว

คิตะชินจิ (คิตะ โนะ ชินจิ)



แหล่งเที่ยวตอนกลางคืนในย่านอุเมดะ ที่จะเริ่มคึกคักหลังจากเวลา 6 โมงเย็นเป็นต้นไป ส่องสว่างยามคํ่าคืนด้วยแสงไฟนีออนละลานตาจากร้านต่างๆ อุดมไปด้วยบาร์สุดไฮโซ, ไนท์คลับ, ร้านอาหารเล็กๆ รวมๆ แล้วก็หลายร้อยร้านเลยทีเดียว ส่วนมากมักจะเห็นเหล่ามนุษย์เงินเดือนพาลูกค้าไปเลี้ยงเสียมากกว่า แต่ถ้าใครอยากลองก็ไปส่องดูกันได้

อุเมะดะ สกาย บิลดิ้ง



ตึกสูง 173 เมตร ในย่านอุเมดะ ใกล้กับสถานีรถไฟอุเมะดะ โดยลักษณะจะเป็นตึกคู่ เชื่อมด้วยสวนลอยฟ้าที่ชั้น 39 เป็นจุดที่นิยมไปชมวิวสวยๆ ของเมืองอุเมดะกัน โดยคิดค่าเข้าในราคา 700 เยน นอกจากในตึกจะมีสำนักงานต่างๆ แล้ว ก็ยังมีร้านอาหารหรูๆ ไว้บริการ จิบไวน์พร้อมชมวิวยามคํ่าคืนของอุเมดะก็เป็นอะไรที่เยี่ยมไปเลย

----------------------

Universal Studios Japan



Universal Studios Japan หรือ USJ สวนสนุกภายใต้แบรนด์ของ Universal Studios ที่เปิดขึ้นเป็นที่แรกในเอเชีย โดยเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2001 ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่มากๆ ถึง 39 เฮคเตอร์ จึงทำให้เป็นสวนสนุกที่มีผู้เช้าชมมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว

หลายคนอาจจะงงว่า Universal Studios Japan มันมีอะไร มันก็คือสวนสนุกนี่ล่ะครับ แต่ชื่อมันดูเหมือนจะไม่ใช่สวนสนุกเท่าไหร่ โดยข้างในนั้นจะแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ มากมายอาทิเช่น New York, Hollywood, San Francisco, Jurassic Park และอื่นๆ มากมาย โดยในแต่ละโซนนั้นก็จะมีธีมการตกแต่งพื้นที่ๆ ต่างกันออกไป แค่เข้าไปถ่ายรูปก็คุ้มแล้ว อีกทั้งยังมีเครื่องเล่นอีกมากมาย ซึ่งต่อคิวกันยาวมากถึงมากที่สุด ต้องใจเย็นนิดนึง อิอิ นอกจากนั้นก็ยังมีการแสดงโชว์ต่างๆ มากมาย

ใครที่เคยเห็นเพื่อนๆ ไปถ่ายรูปบ้านแฮรี่พอตเตอร์มาโชว์ตามโซเชียลต่างๆ มันก็คือที่ Universal Studios Japan นี่หละครับ ที่เขาเปิดโซนแฮรี่พอตเตอร์ ที่นอกจากมีเครื่องเล่นแล้ว ก็ยังได้มีการตกแต่งสถานที่ให้เหมือนกับในโลกของแฮรี่พอตเตอร์เลยและยังมีขายของที่ระลึกอีกด้วย นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ๆ ไม่ควรพลาดในการมาเที่ยวโอซาก้าเลยจ้า สำหรับใครที่ใช้บริการสายการบินไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ เขาก็มีบริการ Sky Ticket จำหน่ายบัตรเข้า Universal Studios Japan กันถึงบนเครื่องบิน สะดวกสบายสุดๆ ไม่ต้องต่อคิวนาน แถมไม่มีชาร์จค่าบริการเพิ่มด้วยนะ หาซื้อกันได้แล้วในทุกเที่ยวบินสู่ประเทศญี่ปุ่นของไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์

ปราสาทโอซาก้า



ปราสาทเก่าแก่ในยังหวัดโอซาก้าที่มีความสวยงาม เรียกได้ว่าใครที่ไม่ได้มาที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงโอซาก้าล่ะจ้า ปราสาทโอซาก้าหรือโอซาก้าโจวนั้นมีมาตั้งแต่เมื่อปี 1583 โน่น ตอนนั้นยังไม่ได้รวมประเทศเลย โดยเจ้าเมือง โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ เป็นผู้สั่งการให้ดำเนินการสร้าง แต่ทว่าตัวปราสาทได้รับความเสียหายมาหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการโดนรุกรานจากตระกูลโทกุงาวะและถูกฟ้าผ่าในปี 1665 แต่มาภายหลังในปี 1931 ก็ได้มีการบูรณะขึ้นมาอีกครั้งโดยนายกเทศมนตรีของจังหวัดโอซาก้าที่ได้ตั้งรับเงินบริจาคจากประชาชนเพื่อนำมาบูรณะจนเป็นปราสาทโอซาก้าที่สวยงามจนถึงทุกวันนี้

ปราสาทโอซาก้ามีความสูง 55 เมตร ถูกตกแต่งอย่างสวยงามและยังคงความเป็นศิลปะในสมัยก่อนไว้ จนทำให้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชิ้นสำคัญในประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว พื้นที่รอบๆ รายล้อมด้วยป้อมปราการต่างๆ และกำแพงหินที่มีความสวยงาม ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามามากมายราว 1-3 ล้านคนเลยทีเดียว

ภายในปราสาทได้มีการจัดเป็นนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับตระกูลโทโยโทมิในยุคสมัยที่ยังไม่ได้มีการรวมประเทศ ใครที่ชอบประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดทีเดียว และพื้นที่ชั้นบนสุดก็เป็นจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมมากเพราะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของโอซาก้าได้ นอกจากตัวปราสาทแล้ว พื้นที่ภายนอกก็ยังมีสวนนิชิโนะมารุที่รายล้อมด้วยต้นซากุระมากมาย ทำให้เป็นจุดชมซากุระที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่ง

ในตอนกลางคืนก็จะมีลูกเล่นการฉายไฟที่ปราสาทโอซาก้า ให้ความสวยงามแปลกตาที่ไม่เหมือนกับตอนช่วงกลางวันอีกด้วย

สวนมิโนโอะ



หากใครที่เบื่อบรรยากาศภายในเมือง แต่อยากมาสัมผัสความสดชื่นกับบรรยากาศแบบธรรมชาติ ก็ต้องที่นี่เลย กับ Minoo Park หุบเขาป่าไม้ที่ตั้งอยู่นอกตัวเมือง ในช่วงฤดูไบไม้ร่วง ที่นี่ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในการชมใบไม้เปลี่ยนสีแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น มีเส้นทางการเดินประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินประมาณ 45 นาที ระหว่างเส้นทางก็จะได้พบนํ้าตก Minoo ความสูง 33 เมตร ที่มีความสวยงามและจุดชมวิวสวยงามรายล้อมไปด้วยต้นไม้ รวมไปถึงร้านค้ามากมายที่ตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่น นอกจากนั้นก็ยังมีวัดริวอันจิที่สวยงามอีกด้วย

พีซโอซาก้า



ระลึกประวัติศาสตร์ถึงความสูญเสียในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กับพิพิธภัณฑ์ Peace Osaka ที่มีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สองไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย, เอกสารข้อมูลและสิ่งของแห่งประวัติศาสร์ที่จะบอกเล่าถึงเรื่องราวความโหดร้ายของสงครามและการรุกรานของจักรวรรดิญี่ปุ่นในประเทศต่างๆ รวมไปถึงเหตุการณ์บนเกาะโอกินาวาและการทิ้งระเบิดปรมาณูที่ทำให้ญี่ปุ่นพ่ายแพ้แก่สงครามและสูญเสียประชากรไปเป็นจำนวนมหาศาล

วัดชินเท็นโนจิ



หนึ่งในวัดที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยปี 593 เจ้าชายโชโตกุ ผู้เผยแพร่ศาสนาพุทธในญี่ปุ่น ด้วยระยะเวลาที่ยาวนานและเหตุไฟไหม้ ทำให้วัดชินเท็นโนจิเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา แต่ก็มีการบูรณะอยู่เรื่อยมาควบคู่ไปเช่นกัน ทำให้ยังคงสถาปัตยกรรมแบบเก่าแก่ในสมัยศตวรรษที่ 6 อยู่

ด้านนอกของตัววัดก็ยังมีสวนโกคุราคุ โจโด ให้ได้เที่ยวชมอีกด้วย มีความสวยงามร่มรื่นมากเลยทีเดียวและยังทั้งเงียบและสงบอีกด้วย รวมไปถึงห้องสมบัติที่มีการจัดแสดงภาพวาด, พระคัมภีร์และของมีค่าภายในวัด แต่ว่าในส่วนของสวนโกคุราคุ โจโด และห้องสมบัติ ต้องเสียค่าเข้าชมนะจ๊ะ

ชินเซไก



ย่านที่เรียกกันว่าเป็น "โลกใหม่" ที่หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากันกับเจ้าโคมรูปปักเป้า ในปี 1903 ที่นี่เคยถูกใช้เป็นสถานที่จัดแสดงสินค้าในประเทศ ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านอาหารมากมาย โดยเฉพาะเจ้าคุจิคัทสึที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของย่านนี้ ไม่ว่าอะไรก็จับนำมาทำเป็นคุจิคัทสึเสียหมด ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัวยันฟักทองและอื่นๆ อีกมากมาย มีร้านคุจิคัทสึหลายร้านที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง สำหรับแลนด์มาร์คของที่นี่ก็คือหอคอยทสึเท็นคาคุที่มีความสูง 103 เมตร สร้างขึ้นในปี 1912 หลังจากหอไอเฟลที่ปารีส

A330-300 Landing 1

เรียกได้ว่าเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่น่าเที่ยวไม่ใช่น้อยเลยล่ะ ใครที่ยังพึ่งเคยเที่ยวแค่ในโตเกียวก็ขอบอกว่าไม่ควรพลาดล่ะ และสำหรับใครที่สนใจอยากจะไปเที่ยวโอซาก้า ก็ขอแนะสายการบินไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ จ้า บินตรงจากกรุงเทพถึงโอซาก้าในราคาเบาๆ จองได้เลยที่ airasia.com