อ้อมโลกตีโค้งหักศอก การสื่อความในใจสไตล์คนญี่ปุ่นที่ฟังแล้วงงหนัก

คนญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเป็นพวกที่ชอบพูดอะไรอ้อมโลกมาก เวลาจะพูดอะไรมักจะคิดแล้วคิดอีก พยายามสรรหาประโยคที่ดูจะทำร้ายคนฟังให้น้อยที่สุด มักจะมีความรู้สึกเกรงใจหรือเก็บซ่อนความรู้สึกบางส่วนไว้อยู่เสมอ มีหลายประโยคที่เราเคยเจอแล้วรู้สึกงงๆ บางประโยคนี่คือฟังละไปไม่เป็นเลย ต้องให้คนญี่ปุ่นเองช่วยบอกความหมายจริงๆ ที่เขาต้องการจะสื่อ ถึงจะเข้าใจ


เมื่ออยากจะให้ของคนอื่น: “เป็นแค่ของเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้ดีเด่อะไรหรอก”


เวลาคนญี่ปุ่นให้ของคนอื่นเช่นพวกของฝาก บางคนจะพูดว่า “เป็นแค่ของเล็กๆน้อยๆไม่ได้ดีเด่อะไรหรอก” ซึ่งถ้าคนต่างชาติฟัง ก็คงรู้สึกแปลกๆ ที่ทำไมการให้ของคนอื่น จะให้แบบภูมิใจและมั่นใจมากๆ ไม่ได้ บอกว่านี่เป็นของที่พยายามเลือกมา คิดว่าน่าจะอร่อย เธอน่าจะชอบ อะไรแนวนั้นยังจะดีกว่า ประโยคนี้อาจจะมีที่มาจากการที่คนญี่ปุ่นเป็นคนคิดมาก ถ่อมตัวอยู่เสมอ และคงมีความรู้สึกที่ไม่อยากทำให้ผู้รับรู้สึกผิดหวังถ้าของที่ได้ไปไม่ถูกใจ จึงพูดกันเอาไว้ก่อน


เมื่ออยากจะตักเตือนใคร: “เพิ่งหัดเล่นเปียโนเมื่อไม่นานมานี้เหรอคะ?”


ในคลาสเรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่อการหางานตอนปี 3 อาจารย์ก็ให้สถานการณ์สมมติมาว่าเรากำลังจะไปเรียนแล้วเดินออกห้องไปเจอคนที่อาศัยห้องอยู่ข้างๆเราโดยบังเอิญ คุยกันไปมา เขาก็พูดทักเราว่า “เพิ่งหัดเล่นเปียโนเมือไม่นานมานี้เหรอคะ?” อาจารย์อ่านเสร็จก็ถามว่าเขาต้องการจะสื่อบอกว่าอะไร นักเรียนทั้งห้องที่เป็นคนต่างชาติก็งง คิดว่าไม่เห็นมีอะไร ก็ตอบอาจารย์ว่าก็แค่บอกเขาไปว่าใช่หรือไม่ใช่สิ อาจารย์ทำหน้าตกใจ แล้วบอกว่าพวกเธอผิดประเด็นมากค่ะ เขากำลังเตือนว่าเสียงเล่นเปียโนของเธอมันหนวกหู รบกวนเขา อยากให้เลิกทำซะที เพราะพวกเธออาจจะเล่นตอนกลางคืนที่เขากำลังจะนอนก็ได้ ฟังจบทุกคนถึงกับเงิบกันไปทั้งห้องเลยทีเดียว นี่เป็นหนึ่งในการเตือนแบบคนญี่ปุ่นที่เรายอมรับเลยว่ายากที่สุดในชีวิตเท่าที่เคยเจอมา ตีความไม่ออกเลยจริงๆ


เมื่ออยากบอกอะไรแบบโรแมนติก: “เราต่างคนต่างก็ตั้งใจทำงานของตัวเองกันไปนะ”


เราคบกับคนญี่ปุ่นแบบรักทางไกล ทำให้ส่วนใหญ่คุยกันผ่านทางไลน์ ต่างคนก็ต่างเล่าเรื่องที่ไปเจอมาแต่ละวันให้กัน ทีนี้มีครั้งหนึ่ง เราก็ส่งไปบอกเขาว่าอยากเจอจัง ไม่ได้เจอกันมาจะ 4 เดือนแล้ว เขาก็ตอบกลับมาว่า “เรา 2 คน ต่างคนต่างก็ตั้งใจทำงานของตัวเองกันไปเถอะนะ” ตอนที่อ่านนี่อึ้งมาก นี่เราโดนด่าว่าอย่าเพ้อเจ้อให้มากนัก ตั้งใจทำเรื่องของตัวเองให้ดีๆ ไปจะดีกว่ารึเปล่าเนี่ย คือถ้าเป็นคนไทยก็คงจะตอบว่า คิดถึงเหมือนกัน ไว้จะไปหานะ อะไรประมาณนี้ พอเจอประโยคอาร์ตๆ แบบนี้เข้าไป เลยคิดมากจนทนไม่ได้ ต้องไปถามเพื่อนคนญี่ปุ่น พอนางอ่านเสร็จนางกลับบอกว่า อ๊าย ฉันอิจฉาเธอจัง เอารุ่นพี่มาให้ฉันเถอะนะ เรานี่งงเป็นไก่ตาแตก เพื่อนมันเมารึเปล่า นางก็บอกว่านี่เป็นประโยคแสดงความห่วงใยแบบคนญี่ปุ่นนะ โรแมนติกจะตายแบบนี้ มันคือความหมายประมาณว่า พวกเราทั้งสองคนมาพยายามไปด้วยกันเถอะ เรานี่เข้าไม่ถึงเลย ความหมายที่แท้จริงของประโยคนี้มันซ่อนอยู่ลึกเกินไปจริงๆ ถ้าไม่ถามเพื่อนก่อนนี่คงทะเลาะกันไปแล้ว คนญี่ปุ่นนี่จริงจังกันจริงๆ ขนาดอยากจะโรแมนติกยังต้องเป็นแบบมีสาระเกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบในชีวิต


การตีความของประโยคเหล่านี้แม้จะยากลำบากแต่มันก็เป็นสิ่งที่ท้าทายดี สิ่งนี้คือสิ่งหนึ่งที่ทำให้เรายังอยากอยู่ญี่ปุ่นต่อไปเรื่อยๆ มันทำให้รู้สึกว่าทุกวันเราจะเจอเรื่องที่ทำให้เราแปลกใจอยู่เสมอ ที่สำคัญการมาอาศัยอยู่ร่วมกับคนต่างวัฒนธรรมก็ทำให้เราเริ่มมองอะไรจากหลายๆ มุมมากขึ้นเลยทีเดียว เหมือนอย่างประโยคด้านบนพวกนี้ ที่จริงๆ แล้วมันมีความหมายในอีกแง่มุมหนึ่งซ่อนอยู่ ซึ่งถ้าเราพยายามค้นหาเราก็จะมองเห็นและเข้าใจมันมากขึ้น


บทความโดย ละมุนชมพู