น่าตื่นตาตื่นใจกันไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อล่าสุด วันนี้ (20 มีนาคม 2019) ทางญี่ปุ่นได้แถลงข่าวประกาศเปิดตัวดีไซน์คบเพลิงสำหรับใช้ในการวิ่งคบเพลิงในกีฬาโตเกียวโอลิมปิกและพาราลิมปิก ประจำปี 2020 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับตัวคบเพลิงนี้ หากมองจากด้านบนสุดก็จะพบว่าได้มีการออกแบบให้มีรูปร่างคล้ายกับกลีบดอกซากุระที่ชาวญี่ปุ่นต่างก็คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ซึ่งวัสดุส่วนหนึ่งที่นำมาผลิตคบเพลิงเป็นอะลูมิเนียมที่เหลือจากการสร้างบ้านพักชั่วคราวใน 3 จังหวัดที่ประสบภัยพิบัติครั้งใหญ่ในภูมิภาคโทโฮคุเมื่อปี 2011 เพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่าพื้นที่ประสบภัยได้รับการฟื้นฟูแล้ว
ส่วนสีของตัวคบเพลิงก็มีการนำสี “ซากุระโกลด์” หรือสีชมพูทองมาใช้ในการผลิต และได้ผลิตออกมาให้มีน้ำหนักเบาเพื่อให้ทุกคนสามารถถือได้ง่ายโดยไม่จำกัดในเรื่องเพศและวัย ขนาดของคบเพลิงนี้จะมีความสูงอยู่ที่ 71 เซนติเมตร และมีน้ำหนักอยู่ที่ 1.2 กิโลกรัม นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบโครงสร้างภายในถึง 3 ชั้น เพื่อให้เปลวไฟสามารถเผาไหม้ด้วยอุณหภูมิสูงได้มากถึงประมาณ 1,500 ครั้ง รวมถึงยังได้มีการประยุกต์ดัดแปลงให้สามารถรองรับได้แม้สภาพอากาศจะไม่เอื้ออำนวยก็ตาม โดยสามารถทนต่อแรงลมที่มีขนาดมากกว่า 17 เมตรต่อวินาที และสามารถทนต่อปริมาณน้ำฝนที่มีมากกว่า 50 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง
สำหรับผู้ที่ได้เป็นแอมบาสเดอร์เพื่อโปรโมทการวิ่งคบเพลิงกีฬาโตเกียวโอลิมปิก 2020 อย่างเป็นทางการนั้น นำทีมโดย คุณโนมุระ ทาดาฮิโระ นักกีฬายูโดเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 3 สมัยซ้อน และคุณอิชิฮาระ ซาโตมิ นักแสดงสาวชื่อดัง
สำหรับกิจกรรมวิ่งคบเพลิงนี้ ทางกรรมการบริหารในแต่ละจังหวัดจะทำการเปิดรับสมัครบุคคลทั่วไปเพื่อมาเข้าร่วมคัดเลือกในช่วงหน้าร้อนปีนี้ ทั้งนี้ได้มีการวางแผนว่าจะใช้จำนวนคนวิ่งคบเพลิง 80-90 คนต่อวัน และจะได้วิ่งอยู่ที่ระยะทางคนละประมาณ 200 เมตร โดยจะเริ่มออกสตาร์ทที่ “J Village” สถานที่ฝึกซ้อมกีฬาฟุตบอลซึ่งครอบคลุมพื้นที่ของเมืองฮิโรโนะและเมืองนาราฮะ จังหวัดฟุคุชิมะ ในวันที่ 26 มีนาคม 2020 โดยจะทำการวิ่งคบเพลิงรอบประเทศญี่ปุ่นจนครบ 47 จังหวัด ภายใน 121 วัน
คิดแล้วก็ชักน่าตื่นเต้นขึ้นมาแล้วล่ะค่ะ ชักอยากเห็นตอนช่วงวิ่งคบเพลิงจริงๆ แล้วสิ!! ยังไงก็รอติดตามข่าวคราวความคืบหน้าของกีฬาโตเกียวโอลิมปิก 2020 กันต่อไปด้วยนะคะ ><
ว่าแล้วก็ขอส่งท้ายด้วย 2 คลิปวิดีโอนี้กันเลยดีกว่า กับคลิปเปิดตัวดีไซน์คบเพลิง และคลิปเปิดตัวแอมบาสเดอร์เพื่อโปรโมทการวิ่งคบเพลิงในกีฬาโตเกียวโอลิมปิก 2020 กันดีกว่าค่ะ ^^
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://mainichi.jp/sportsspecial/articles/20190320/k00/00m/050/134000c
สำหรับตัวคบเพลิงนี้ หากมองจากด้านบนสุดก็จะพบว่าได้มีการออกแบบให้มีรูปร่างคล้ายกับกลีบดอกซากุระที่ชาวญี่ปุ่นต่างก็คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ซึ่งวัสดุส่วนหนึ่งที่นำมาผลิตคบเพลิงเป็นอะลูมิเนียมที่เหลือจากการสร้างบ้านพักชั่วคราวใน 3 จังหวัดที่ประสบภัยพิบัติครั้งใหญ่ในภูมิภาคโทโฮคุเมื่อปี 2011 เพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่าพื้นที่ประสบภัยได้รับการฟื้นฟูแล้ว
ส่วนสีของตัวคบเพลิงก็มีการนำสี “ซากุระโกลด์” หรือสีชมพูทองมาใช้ในการผลิต และได้ผลิตออกมาให้มีน้ำหนักเบาเพื่อให้ทุกคนสามารถถือได้ง่ายโดยไม่จำกัดในเรื่องเพศและวัย ขนาดของคบเพลิงนี้จะมีความสูงอยู่ที่ 71 เซนติเมตร และมีน้ำหนักอยู่ที่ 1.2 กิโลกรัม นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบโครงสร้างภายในถึง 3 ชั้น เพื่อให้เปลวไฟสามารถเผาไหม้ด้วยอุณหภูมิสูงได้มากถึงประมาณ 1,500 ครั้ง รวมถึงยังได้มีการประยุกต์ดัดแปลงให้สามารถรองรับได้แม้สภาพอากาศจะไม่เอื้ออำนวยก็ตาม โดยสามารถทนต่อแรงลมที่มีขนาดมากกว่า 17 เมตรต่อวินาที และสามารถทนต่อปริมาณน้ำฝนที่มีมากกว่า 50 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง
สำหรับผู้ที่ได้เป็นแอมบาสเดอร์เพื่อโปรโมทการวิ่งคบเพลิงกีฬาโตเกียวโอลิมปิก 2020 อย่างเป็นทางการนั้น นำทีมโดย คุณโนมุระ ทาดาฮิโระ นักกีฬายูโดเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 3 สมัยซ้อน และคุณอิชิฮาระ ซาโตมิ นักแสดงสาวชื่อดัง
สำหรับกิจกรรมวิ่งคบเพลิงนี้ ทางกรรมการบริหารในแต่ละจังหวัดจะทำการเปิดรับสมัครบุคคลทั่วไปเพื่อมาเข้าร่วมคัดเลือกในช่วงหน้าร้อนปีนี้ ทั้งนี้ได้มีการวางแผนว่าจะใช้จำนวนคนวิ่งคบเพลิง 80-90 คนต่อวัน และจะได้วิ่งอยู่ที่ระยะทางคนละประมาณ 200 เมตร โดยจะเริ่มออกสตาร์ทที่ “J Village” สถานที่ฝึกซ้อมกีฬาฟุตบอลซึ่งครอบคลุมพื้นที่ของเมืองฮิโรโนะและเมืองนาราฮะ จังหวัดฟุคุชิมะ ในวันที่ 26 มีนาคม 2020 โดยจะทำการวิ่งคบเพลิงรอบประเทศญี่ปุ่นจนครบ 47 จังหวัด ภายใน 121 วัน
คิดแล้วก็ชักน่าตื่นเต้นขึ้นมาแล้วล่ะค่ะ ชักอยากเห็นตอนช่วงวิ่งคบเพลิงจริงๆ แล้วสิ!! ยังไงก็รอติดตามข่าวคราวความคืบหน้าของกีฬาโตเกียวโอลิมปิก 2020 กันต่อไปด้วยนะคะ ><
ว่าแล้วก็ขอส่งท้ายด้วย 2 คลิปวิดีโอนี้กันเลยดีกว่า กับคลิปเปิดตัวดีไซน์คบเพลิง และคลิปเปิดตัวแอมบาสเดอร์เพื่อโปรโมทการวิ่งคบเพลิงในกีฬาโตเกียวโอลิมปิก 2020 กันดีกว่าค่ะ ^^
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://mainichi.jp/sportsspecial/articles/20190320/k00/00m/050/134000c
