ถ้าพูดถึงวัฒนธรรมการทำงานของคนญี่ปุ่น ความหนักหนาสาหัส ความทุ่มเทให้งานราวกับมันเป็นคู่ชีวิต ที่เคยได้ยินมาอาจจะแวบเข้ามาในหัวจนต้องร้อง โอ้โห! (ส่วนเหตุผลว่าทำไมเขาถึงทำงานหนักกันนั้น อ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่) แต่วันนี้เราจะไม่พูดถึงความดาร์คไซด์ค่ะ แต่จะพาทุกคนไปรู้จักกับเรื่องสุดเซอร์ไพร์สในบริษัทญี่ปุ่นที่เขาว่าแปลกในสายตาชาวต่างชาติอย่างเราๆ กัน งานนี้แหล่งข้อมูลอย่างเว็บไซต์ enrocketnews24 ได้รวบรวมประสบการณ์ตรงมาแบบแน่นเอี๊ยด จะมีข้อไหนที่เราเคยพบเจอกันบ้าง มาดูกันค่ะ
1. กิจกรรมยามเช้า
หลายๆ บริษัทในญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีวัฒนธรรมที่เรียกว่า "โชเร (朝礼)" หรือการประชุมช่วงเช้าก่อนเริ่มงาน เนื้อหาหลักๆ นอกจากจะเป็นเรื่องงานที่ต้องทำในวันนี้แล้ว บางบริษัทก็มีกิจกรรมปลุกใจเพื่อให้พนักงานพร้อมที่จะเริ่มทำงานได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการท่องคำขวัญของบริษัท, ร้องเพลงประจำบริษัท หรือออกกำลังกายเล็กๆ ร่วมกันยามเช้า
2. พักกลางวัน = งีบ
มนุษย์เงินเดือนชาวญี่ปุ่นสามารถหลับได้ทุกที่ทุกเวลาค่ะ อย่างที่เรารู้ๆ กันอยู่ว่าบ้านเขามีวัฒนธรรมการทำงานหนักและเลิกงานดึกมากๆ นำไปสู่การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หนึ่งชั่วโมงช่วงพักกลางวันก็เลยกลายเป็นช่วงเวลาที่มีค่าที่พนักงานออฟฟิศญี่ปุ่นเขาจะพักสายตากัน
3. จะไปไหนหรือทำอะไรต้องประกาศให้ทุกคนรู้
อีกหนึ่งวัฒนธรรมที่ถือเป็นมารยาทของชาวญี่ปุ่นก็คือการทักทาย ในบริษัทญี่ปุ่น ตั้งแต่การเดินเข้ามา จะออกไปธุระข้างนอก เลิกงานจะกลับบ้าน หรือมีของมาฝาก ต้องพูดด้วยเสียงดังฟังชัดให้ได้ยินกันทั้งออฟฟิศ แล้วคนในออฟฟิศ ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ก็ตาม ต้องตอบกลับด้วยเสียงดังฟังชัด ให้เหมือนกับว่าเรากำลังใส่ใจเขาอยู่
ตัวอย่างเช่น ตอนมาถึงทำงานตอนเช้า ก็ต้องพูดว่า โอไฮโยโกไซมัส! (おはようございます / สวัสดีตอนเช้า) หรือ ตอนเลิกงานจะกลับบ้าน ก็ต้องพูดว่า โอซากินิ ชิสึเรชิมัส (お先に失礼します / ขออนุญาตเลิกงานก่อนนะคะ) แล้วคนในที่ทำงานก็จะต้องตอบกลับมาว่า โอซึคาเระ ซามะเดส (おつかれさまです / ขอบคุณที่ทำงานหนักนะครับ)
แน่นอนว่าแรกๆ เป็นใครก็อาย จะกลับบ้านแต่ละที ต้องลุกขึ้นแล้วพูดเสียงดังท่ามกลางเพื่อนร่วมงานคนอื่นที่กำลังนิ้วแตะคีย์บอร์ดกันแต็กๆๆๆ อันนี้เจอเองกับตัวค่ะ แต่ว่าอยู่ไปอยู่มาก็ชิน คราวนี้จะพูดดังเท่าไหร่ก็ได้ละ 5555
4. สลับตำแหน่งงานทุกปี
บางบริษัทในญี่ปุ่นมีระบบที่เรียกว่า Jinji Ido (人事異動) หรือ Personnel Transfer เป็นระบบที่จะให้พนักงานทุกคนสลับแผนกกันทุกปี เพื่อให้สามารถเรียนรู้งานได้ครบทุกทักษะที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนบริษัท ปีนี้เป็นเซลล์อยู่ดีๆ ปีหน้าอาจได้เป็นเลขาฯ หรือถ้าปีนี้เป็นเลขาฯ ปีหน้าอาจได้ย้ายไปทำการตลาดก็ได้
5. สาวยาคูลท์ก็มีนะจ๊ะ
ใครว่าสาวยาคูลท์มีแต่ในบ้านเราจ๊ะ โนวๆๆๆๆ ขึ้นชื่อว่าญี่ปุ่น ประเทศผู้ให้กำเนิดยาคูลท์ (Yakult / ヤクルト) และระบบการขายตรงแบบสาวยาคูลท์จะไม่มีสาวยาคูลท์ได้อย่างไร ที่ญี่ปุ่น สาวยาคูลท์ก็มีไปเยือนตามบริษัทต่างๆ เหมือนกันค่ะ ช่วงเวลาก่อนเที่ยงนิดๆ พนักงานหลายคนก็จะเริ่มตั้งตารอ เวลามาทีก็จะได้ยินเสียงประกาศว่า "สาวยาคูลท์มาแล้วจ้าๆ" แบบนี้แหละ สาวยาคูลท์ญี่ปุ่นดูเฟรนด์ลี่ คล้ายกับที่บ้านเราเลย แล้วก็มีทุกวัยเลยตั้งแต่สาววัยรุ่นไปจนถึงคุณยาย
เพื่อนๆ ท่านไหนทำงานอยู่บริษัทญี่ปุ่นแล้วพบเจอเรื่องสุดเซอร์ไพร์สอะไรที่นอกเหนือจากนี้ก็แวะเข้ามาแชร์กันได้นะคะ ^^
ข้อมูลและภาพจาก
http://en.rocketnews24.com/
http://www.sbs.com.au/
http://www.athome.co.jp/
