ถ้าพูดถึงอาหารประชาติของประเทศญี่ปุ่นก็คงหนีไม่พ้น.. เนื้อปลาสดๆวางบนข้าวปั้นพอดีคำหรือที่เค้าเรียกกันว่า "ซูชิ" นั่นเอง แต่รู้มั๊ยว่า ยังมีหลายคนที่เข้าใจความหมายของ “ซูชิ” ผิดไป ซึ่งคงเป็นเพราะต้นกำเนิดของ “ซูชิ” ที่มาจากคนญี่ปุ่นต้องการถนอมอาหาร จึงนำปลาดิบที่ล้างน้ำสะอาดแล้วมาหมักกับเกลือและส่วนผสมต่างๆ รอจนได้ที่ ก็จะนำมารับประทานพร้อมกับข้าว เพราะเหตุนี้จึงทำให้หลายๆ คนเข้าใจไปว่า ซูชิ คือ ปลาดิบ นั่นเอง ซึ่งอันที่จริง ปลาดิบ จะเรียกว่า “ซาซิมิ” (Sashimi) ส่วนปลาที่ทานรวมกับข้าว ถึงจะเรียกว่า ซูชิ (Sushi) นะจ๊ะ

          "ซูชิ" มีหลายชนิดด้วยกัน วันนี้เรามีวิธีทำ “ซูชิ” อย่างง่ายๆที่ทุกคนคุ้นเคยและทานกันอยู่บ่อยๆ 3 แบบด้วยกันมาแนะนำให้กับทุกคน มีขั้นตอนดังนี้เลยจ้า

วัตถุดิบ

อุปกรณ์


ขั้นตอนการทำซูชิ เบื้องต้นจะค่อนข้างเหมือนกันในทุกๆแบบ คือ
     - เตรียมข้าวสุกผสมน้ำปรุงไว้ในถังไม้ เพื่อกลิ่นและรสชาติที่ดี
     - เตรียมหน้าซูชิต่างๆหรือหั่นปลาดิบชนิดต่างๆขนาดพอดีคำ (ขนาดใหญ่กว่าข้าวปั้นเล็กน้อย) โดยหั่นบนเขียงและใช้มีดสำหรับหั่นปลาดิบที่จัดเตรียมไว้



 
 

Nigiri sushi (นิกิริ ซูชิ) เป็นข้าวปั้นซูชิที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด โดยจะต้องปั้นข้าวเป็นก้อน ลักษณะกลมรีคล้ายข้าวต้มมัดเล็กๆ ขนาดเท่านิ้วมือคนอวบๆ มีการป้ายวาซาบิบนชิ้นเนื้อด้านในเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ แล้ววางเนื้อปลาดิบ ปลาหมึก กุ้ง หอยชนิดต่างๆ ที่หั่นขนาดพอดีคำไว้แล้ววางบนข้าวปั้น อาจมีการเสริมรสหรือตกแต่งด้วยไข่ปลา ผักโรย ผงโรย หรือ ซอสอย่างเช่นมายองเนส เป็นต้น

 



 



 
 

Gunkanmaki sushi (กุุงคัมมากิ ซูชิ) เป็นข้าวปั้นซูชิที่ทุกคนเคยเห็นเคยทานกันบ่อยๆ แต่แทบไม่มีใครรู้จักชื่อ ข้าวปั้นซูชินี้จะคล้ายกับ นิกิริ ซูชิ แต่จะพันข้าวปั้นด้วยแผ่นสาหร่ายแห้ง (โนริสาหร่าย) แล้วนำไข่ปลา หอยเม่น ปูอัด ฯลฯ ตักใส่ด้านบนจนเต็ม ซึ่งลักษณะเด่นของซูชิชนิดนี้ก็คือ ตัวข้าวจะปั้นเป็นก้อน ลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า กดด้านบนเบาๆจนเป็นรอยบุ๋มเล็กน้อยคล้ายเรือรบ จึงเรียกซูชิชนิดนี้ว่า กุงคัมมากิ ซูชิ ที่แปลว่าเรือรบนั่นเอง



 



 
 

Maki sushi (มากิ ซูชิ) เป็นข้าวปั้นซูชิที่คนมักจะเรียกว่า ข้าวห่อสาหร่าย มีขั้นตอนการทำด้วยการใช้แผ่นเสื่อไม้ไผ่ผืนเล็กๆช่วยในการบีบข้าวปั้นให้เกาะตัว มีไส้ตรงกลางเป็น ปลาทูน่า แตงกวา หรือส่วนผสมอื่นๆ และห่อตัวข้าวปั้นด้วยแผ่นสาหร่าย แล้วจึงหั่นเป็นเเว่นๆพอดีคำ สิ่งที่ยากที่สุดในการทำซูชิชนิดนี้คือ การหั่นปลาดิบให้ได้ขนาดที่พอดิบพอดี



 

เทคนิคการทำซูชิออกมาให้ได้อรรถรส :
     - ตบมือเสียงดังก่อนเริ่มทำซูชิ เพื่อแสดงความแข็งขัน พร้อมที่จะทำซูชิให้ลูกค้าอย่างเต็มที่
     - การหั่นปลาดิบ มีดจะต้องคม หั่นครั้งเดียวไม่สไลด์ เพื่อให้ได้ชิ้นปลาดิบที่สวยงามและไม่เสียรสชาติของปลาดิบ
     - คนทำซูชิจะต้องมีลักษณะมือที่อวบเล็กน้อย เพื่อการปั้นข้าวซูชิที่ดี เพราะจะง่ายต่อการปั้นและขนาดจะได้มาตรฐานพอดิบพอดี
        (คนมือผอมก็สามาถทำได้นะจ๊ะ แต่อาจจะทำได้ไม่ดีเท่าคนมืออวบจ้า)
     - การกดซูชิเบาๆ เพื่อไล่ลมที่อยู่ระหว่างข้าวและในเนื้อปลาดิบ

สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณร้าน Sushichu ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ถ่ายทำ และกรุณาสอน "วิธีทำซูชิ" อร่อยๆให้พวกเรามา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ


ใครอยากทานซูชิอร่อยที่สุดในตำนาน เชิญที่ร้าน Sushichu ได้เลยค่าาา
http://www.jgbthai.com/sushichu-carnival-yakiniku/