ชวนเที่ยว Akashi-Kaikyo Bridge สะพานแขวนในโกเบ ที่ยาวที่สุดในโลก!

เชื่อว่า "นักเดินทาง" ทุกคน ไม่มีใครไม่อยากเก็บสถานที่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นที่สุด สวยที่สุด สูงที่สุด หรือยาวที่สุด! เดี๋ยวก่อน...อย่าเพิ่งคิดกันไปไกล ที่ว่ายาวที่สุดนั้นเราหมายถึง...สะพานที่ยาวที่สุดในโลก...ต่างหาก แต่เอ๊ะ! สะพานที่ยาวที่สุดในโลกอยู่ที่ญี่ปุ่น?! ใช่แล้ว...สะพานที่ว่าก็คือ สะพานแขวนอาคาชิไคเคียว (Akashi-Kaikyo Bridge) นั่นเอง~

สะพานแขวนอาคาชิไคเคียว หรืออีกชื่อก็คือ “สะพานไข่มุก” ถูกแขวนมาแล้วกว่า 19 ปี (สร้างเสร็จในปี ค.ศ.1998) ณ เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น มีความยาวทั้งสิ้น 3,991 เมตร เป็นเส้นทางคมนาคมหลักระหว่างเมืองโกเบและเมืองอิวะยะบนเกาะอาวาจิ จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีสะพานแขวนใดมาทำลายล้างสถิติของสะพานอาคาชิไคเคียวได้!!

เราสามารถเดินทางไปถึงสะพานอาคาชิไคเคียวได้ด้วย รถไฟสายฮันชิน (Hanshin) จากสถานีนัมบะ (Osaka-Namba) นั่งมาเปลี่ยนเป็น รถไฟสายซันโย (Sanyo) ที่สถานีอามากาซากิ (Amagasaki) แล้วมุ่งหน้าไปยัง สถานีไมโกะโคเอ็น (Maiko-koen) หรือ จะนั่งเลยไปแวะเติมพลังกับไทยากิและโซบะอร่อยๆ ตามลายแทงสิทธิพิเศษ ที่สถานีซันโยอาคาชิ (Sanyo-Akashi) ก่อน แล้วค่อยนั่งย้อนกลับมาเดินเล่นสบายๆ ก็ได้

ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าเดินทางจะเกินงบนะ เพราะบัตร HIMEJI TOURIST PASS เป็นผู้สนับสนุนตลอดการเดินทาง (ซื้อ 1 ใบขึ้นรถไฟได้แบบบุฟเฟ่ต์! ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/sanyo.railway.vi/)









เมื่อไปถึงสะพานอาคาชิไคเคียว สิ่งแรกที่ทำให้เรารู้สึกต้องมนต์ก็คือปลายสะพานแข็งแกร่ง ที่ค่อยๆ ถูกเชื่อมต่อด้วยเหล็กสีเงินเข้มพาดผ่านผืนน้ำทะเลเบื้องล่าง ขนานกับเส้นขอบฟ้ายาวไปจนสุดลูกหูลูกตา ราวกับว่ามันกำลังพาเราไปถึงดินแดนที่ไกลโพ้น สงบสุข และล่องลอยเหมือนอยู่ในความฝัน





ยิ่งเวลาที่เราไปถึงจวนพลบค่ำ ท้องฟ้ากำลังเปลี่ยนเป็นสีส้มอ่อน สะท้อนแสงจากน้ำทะเลสีคราม ยิ่งดึงดูดให้ชวนมอง...เข้าใจแล้วว่าทำไมที่นี่ถึงไม่ได้มีจุดเด่นแค่สะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก แต่ยังถูก Recommend ให้เป็น จุดชมวิวยามเย็นที่โรแมนติกที่สุด อีกด้วย ลองมโนว่าถ้าถูกสารภาพรักหรือขอแต่งงานที่นี่คงฟินน่าดู! (>///<)





ความพิเศษของสะพานอาคาชิไคเคียวยังมีมากกว่าการได้มองสะพานแบบไกลๆ จากด้านล่าง เราสามารถเข้าไปสัมผัสเหล็กบนสะพานแต่ละเส้นได้อย่างใกล้ชิด! ผ่านประตูโดราเอม่อนที่มีชื่อว่า Maiko Marine Promenade





เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่พายุเข้าบ่อย อัตราการเกิดแผ่นดินไหวจึงมากตาม ในการเริ่มต้นออกแบบเพื่อสร้างสะพานอาคาชิได้รวมผู้เชี่ยวชาญระดับท็อปในทุกสาขาทั่วประเทศญี่ปุ่นมาระดมสมองกัน สะพานถูกออกแบบเพื่อให้รับความรุนแรงของแผ่นดินไหวได้ถึง 8.5 ริกเตอร์ และทนคลื่นน้ำได้มากกว่าสะพานทั่วไป (แหล่งอ้างอิงและอ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.jb-honshi.co.jp ในเว็บยังมีรายละเอียดการจองทัวร์ชมสะพานแบบ Exclusive ด้วยนะ)



ที่นี่ เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น แต่จะปิดประตูทางเข้าด้านหน้าตอน 5 โมงครึ่ง ส่วนวันหยุดก็จะหยุดทุกวันจันทร์ที่ 2 ของเดือนค่ะ เราสามารถนั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกดินสวยๆ จากบนสะพานได้จนหมดเวลาเลย





อิ่มอกอิ่มใจกับวิวสวยๆ กันแล้ว ก็ถึงเวลามื้อค่ำแสนอร่อย เราจะนั่งรถไฟสายซันโยเช่นเดิม กลับไปถึงในตัวเมืองโกเบ ลงที่ สถานีโกเบซันโนะมิยะ (Kobe-Sannomiya) ในย่านนี้มีร้านอาหารอร่อยๆ ให้เลือกเพียบ แต่ร้านที่เราจะไปมีชื่อว่า “Grill Ippei” (グリル一平) อยู่ห่างจากสถานีรถไฟประมาณ 10 นาที~

ร้านนี้เป็นร้านอาหารสไตล์ตะวันตก มีเมนูคัตสึต่างๆ เป็นของขึ้นชื่อ สามารถค้นในกูเกิ้ลและปักมุดได้เลย! จุดสังเกตอยู่ที่ป้ายร้านสีเขียวเข้มเห็นชัดเจน และหน้าร้านทั้งหมดเป็นบานกระจกที่ตกแต่งสวยงามสไตล์ตะวันตก



Beef Katsu เนื้อโกเบทอดฉ่ำๆ สูตรต้นตำรับ เป็นเมนูแนะนำของร้าน เนื้อนุ่มกำลังอร่อย คู่กับซอสรสเข้ม และข้าวร้อนๆ คือฟินมาก



ส่วนถ้าใครไม่ทานเนื้อ เมนูคัตสึอื่นๆ ก็มีเหมือนกัน อย่างปลาทอดจานนี้ ทานคู่กับซอสมายองเนสและสลัดมันฝรั่ง คืออร่อยมาก สบายพุงกันไป ใครสนใจอยากลองโทรสอบถามข้อมูลได้ที่เบอร์ 078-252-2527 แอบคิดว่าพนักงานหนุ่มน้อยหน้าตาลูกครึ่งคนนั้น…จะต้องพูดภาษาอังกฤษได้แน่ๆ !!



ก่อนขึ้นรถไฟกลับจากสถานีโกเบซันโนะมิยะ แนะนำให้แวะซื้อทาร์ตอร่อยๆ เป็นของฝากที่ร้าน A La Campagne (www.alacampagne.jp) สุดแสนจะคาวาอี้ทั้งแพ็กเกจจิ้งและหน้าตาขนมที่แสดงถึงความเป็นญี่ปุ๊นญี่ปุ่นด้วยน้าาา… รับรองว่าถูกใจผู้รับ สุขใจผู้ฝากแน่นอนจ้า (^o^)/





แล้ว One Day Trip สะพานอาคาชิไคเคียววันนี้ก็จบลง ช่างเป็นการออกกำลังกายในรูปแบบของการเที่ยวได้ดีจริงๆ บอกเลยว่าขึ้นรถไฟปุ๊บอยากจะสลบปั๊บ กลับถึงที่พักได้นอนหลับสบายฝันหวานถึง Trip ครั้งต่อไปอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะโกเบยังมีที่เที่ยวเจ๋งๆ ให้เพื่อนๆ ได้ไปสนุก ประทับใจ และย้อนวัยเด็กกันอีกแน่นอน แต่จะเป็นที่ไหนนั้น มากางแผนที่ หยิบบัตร HIMEJI TOURIST PASS แล้วทะยานไปผจญภัยกันดีกว่า!

 

สามารถติดตามบทความรีวิวต่างๆ ของทีมงาน JGB ได้ทางลิ้งค์ด้านล่างนี้
- รู้จักบัตร HIMEJI TOURIST PASS
- วิธีเดินทาง จากสนามบินคันไซไปฮิเมจิ ด้วยบัตร HIMEJI TOURIST PASS 
- รีวิว การเดินทางไปปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)
- รีวิว การเดินทางไปสวนสนุก Sumaura Sanjo Yuen Park
- รีวิว ทริป 1 วัน 2 เมือง ที่จังหวัดเฮียวโงะ